ตอนที่ 81 วางแผน
แม่นมซิ้วมองหรูซูอย่างละเอียด ในใจนางก็รู้ทันที หรูซูน่าจะเป็นคนที่ท่านอ๋องกับพระชายาช่วยไว้เมื่อหลายวันก่อน เสียงของนางเหมือนกับพระชายาไม่มีผิด แถมยังทำตัวสนิทสนมวนเวียนอยู่ข้างกายพระชายาตลอดเวลา แต่ว่าที่น่าขำก็คือ ครั้งที่แล้วอยากจะได้หน้าต่อหน้าพระชายา แต่กลับบาดเจ็บเอง กลับทำให้พระชายายังต้องช่วยชีวิตไว้นางอีก
ตอนนี้พอตั้งใจมองดีดี ถ้าเทียบกับพระชายาแล้ว อย่างห่างชั้นนัก บนตัวของนางไม่มีลักษณะหรือท่าทางที่อำนาจเหมือนพระชายาเลย อีกทั้งสีหน้าท่าทางยังน่าสงสารด้วย ดูแล้วก็น่าจะเป็นพวกชอบหาเรื่อง
แต่ก่อนไม่เคยใกล้ชิดด้วย ในเมื่อตอนนี้แม่นางเย่หวินรับคำสั่งของท่านอ๋องให้นำนางมาที่ห้องซักล้าง แสดงว่าไม่ยอมรับนาง ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจนาง
“เจ้าก็คือหรูซูหรอ? หน้าตาใช้ได้นี่นา คนที่มาที่ห้องซักล้างได้แสดงว่าทนลำบากได้จริงไหม? งานที่นี่ไม่ได้สบายเหมือนทำงานกับพระชายาหรอกนะ ในเมื่อมาแล้ว เจ็บป่วยอะไรนิดๆหน่อยๆก็ไม่การรายงาน รู้ไหม?” แม่นมซิ้วแสดงท่าทีชัดเจน หลังรู้ฐานะของหรูซู
หรูซูทำสายตาอ้อนวอนเย่หวิน แต่ว่าเย่หวินไม่เพียงไม่มองนาง แถมยังยิ้มให้ซิ้วแม่นมซิ้วด้วย
“หรูซู ยังไม่ขอบคุณที่แม่นมซิ้วดูแลอีกหรอ?” เย่หวินพูด
ทั้งคู่แสดงอำนาจ แล้วยืนยิ้มมองหรูซู นางได้แต่กำชายเสื้อไว้แน่น แน่นซะเลือดแทบจะไหลออกมา นางรู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางตอบโต้กลับได้ ทั้งคู่กำลังบีบจนนางไม่มีทางเลือก
ได้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นางก็จะทำตามพวกนางไปก่อน แล้วค่อยๆไต่เต้าขึ้นไป
“หรูซูขอบคุณแม่นมซิ้ว ต่อไปหากมีอะไร ซิ้วมามาก็ไม่ต้องเกรงใจ” หรูซูยิ้ม ยื่นมือไปจับมือของแม่นมซิ้วมา
เสียงของนางเหมือนกับพระชายามากจริงๆ แต่ว่าหากตั้งใจฟังให้ดี ก็แยกออกอยู่ดี
เย่วหวินเหลือบไปมองหรูซูจับมือแม่นมซิ้ว ส่งสายตาไป แม่นมซิ้วก็ชักมือออก มองไปที่หรูซูแบบไร้เยื่อใย
“ตามข้ามา” แม่นมซิ้วพูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินไป
หรูซูยิ้มให้กับเย่หวิน แล้วก็ค่อยๆวิ่งตามแม่นมซิ้วเข้าไปในเรือน
นางรู้สึกว่าตอนที่เข้ามาในจวนหมิงอ๋องครั้งแรกเลือกใช้วิธีผิด ไม่งั้นนางคงไม่ถูกไล่มาที่ห้องซักล้างหรอก
นางไม่พอใจ วันหนึ่ง นางจะออกจากที่นี่ไปให้ได้
เมื่อส่งหรูซูเข้าห้องซักล้างไปแล้ว ชีวิตที่ยากลำบากมันทิ่มแทงใจนางทุกวันทุกคืน ไม่ว่าจะฤดูใดก็ตาม มือทั้งสองของนางจะต้องแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา หากเป็นหน้าหนาว ก็จะเกิดตุ่ม แล้วก็มีอาการคัน
เย่หวินกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้โล่หวินหลานฟัง นางขมวดคิ้ว นางไม่ได้มีความคิดให้หรูซูไปที่ห้องซักล้าง เดิมทีนางยังคิดจะให้หรูซูอยู่ข้างๆนางด้วยซ้ำ แบบนี้ถึงจะได้รู้ว่านางคิดจะทำอะไร
“ในเมื่อไปแล้ว ก็ช่างเถอะ” โล่หวินหลานพูด แล้วก็เดินไปที่สวน ใบไม้กำลังพัดปลิวไสว
“พระชายา ท่านอ๋องทำอะไรมีเหตุผลของท่านเสมอ หรูซูนางเป็น ......” เย่หวินพูดไปแค่ครึ่งเดียว ด้านหลังก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น
“พระชายาอารมณ์ดีจังเลยนะ ออกมาชมต้นไม้ใบหญ้าที่นี่?” สวินโม่พูดยังไม่ทันจบ คนก็เดินมาแล้ว
ออกไปเที่ยวมาห้าวัน ไม่ได้เจอสวินโม่ห้าวันแล้ว คิดไม่ถึงว่าออกไปห้าวันเขาจะคล้ำขึ้นขนาดนี้?
โล่หวินหลานยิ้มแล้วมองเขา นางยิ้ม สีหน้าของนางดูดีทีเดียว
แต่ว่าพอพูดออกมาเท่านั้น มันกลับเป็นการหยอกล้อเขา “ท่านประมุขสวิน ท่านไปแย่งดินแดนกับลิงที่เขาลูกไหนมา? ทำไมถึงได้คล้ำขนาดนี้?”
แย่งดินแดนกับลิงที่ไหน? พระชายาเปรียบเทียบเห็นภาพชัดเลย หากไม่ใช่เพราะหมิงอ๋อง เขาจะคล้ำขนาดนี้หรอ?
สีหน้าของเขาหมดปัญญามาก เขามองไปที่โล่หวินหลานที่ยิ้มให้เขา แล้วพูดว่า “ข้าน้อยไปภูเขามาจริง แต่ว่าข้าไม่ได้ไปชิงดินแดนกับลิงที่ไหน แต่ไปหาหญ้าสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สำคัญมา มียาตัวนี้ เป้าหมายของพระชายาก็จะบรรลุเร็วขึ้น”
เมื่อพูดจบ โล่หวินหลานก็นิ่งไป แต่ยังคงยิ้มอยู่ นางรู้ว่านอกจากสวินโม่แล้ว ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง โม่ฉีหมิงกำลังทำงานอยู่ เขาไม่ได้ทำงานมาหลายวันแล้ว งานของเขากองเป็นภูเขาเลย
มีสาวใช้ยกน้ำชาขึ้นมา แล้วก็รีบออกไป
โม่ฉีหมิงอยู่ในห้องหนังสือตั้งแต่เมื่อคืน ไฟในห้องสว่างตลอด ไม่รู้ว่าเปลี่ยนเทียนไปกี่ครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยมาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนเพลียที่น่ากลัว
“เป็นยังไงบ้าง?” เสียงของเขาดูแหบ พอเขาถามขึ้นมาสีหน้าของเขาก็ดุขึ้นมา
สวินโม่ทำงาน จะไม่สำเร็จได้ยังไง? หากมีอะไรผิดพลาด เขาคงไม่กลับมา ทำงานให้โม่ฉีหมิง นอกจากภักดีแล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่น
หลังจากสวินโม่ไปแล้ว โม่ฉีหมิงก็วางพู่กันลง แล้วเลื่อนเก้าอี้รถเข็นไปหาโล่หวินหลาน เขามองไปที่หน้าของนาง ความอ่อนโยนแบบนี้ไม่ได้มีมานานมากแล้ว
ชีวิตของเขามีแต่อันตรายมากขนาดนี้ โชคยังดีที่มีคนอยู่ข้างๆเขา โล่หวินหลานคือของขวัญที่ดีที่สุดที่สวรรค์มอบให้เขา
โล่หวินหลานมองเขา ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ นางถามว่า “อยู่ดีดีเจ้าสั่งให้หรูซูไปที่ห้องซักล้างทำไมกัน?”
หรูซูนอกจากจะขี้ประจบแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรไม่ดี อีกทั้งนางก็ยังอายุน้อย ส่งไปที่แบบนั้นมันไม่ค่อยดี
โม่ฉีหมิงรู้ว่าโล่หวินหลานถามเรื่องนี้เพราะอะไร จึงพูดว่า “หากไม่ย้ายนางไปที่ห้องซักล้าง วันนี้เราจะได้มานั่งพูดกันสบายๆแบบนี้หรอ?”
โล่หวินหลานไม่ค่อยเข้าใจ หากเป็นอย่างที่เขาพูด แสดงว่าหรูซูคนนี้มีปัญหางั้นหรอ?
“พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้าตั้งใจ?” โล่หวินหลานถามด้วยความสงสัย แต่ว่าในใจของนางก็มีคำตอบแล้ว
โม่ฉีหมิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ แค่พยักหน้า
“ทำไม?” โล่หวินหลานจ้องไปที่เขา
“เรื่องนี้ไว้ข้าจะบอกเจ้าวันหลัง ตอนนี้เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากเลย ข้าจะไม่ให้อะไรทำร้ายเจ้าเด็ดขาด”
โม่ฉีหมิงจับไปที่ไหล่ของนาง มือของเขามันเป็นความปลอบโยนที่ดีที่สุด ทำให้นางสงบลงได้
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นางก็เลือกที่จะเชื่อเขา วันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏอยู่ดี ไม่ว่าใครจะแอบคิดร้ายกับใคร ต่อไปก็ต้องรู้อยู่ดี
ตลอดช่วงบ่ายในห้องหนังสือ โม่ฉีหมิงนั่งทำงาน นางก็นั่งอ่านหนังสือข้างๆ นางพบว่าอะไรหลายอย่างในยุคนี้มันสำคัญมาก การแพทย์ของนางเป็นของยุคปัจจุบัน ยังไงก็ต้องมาประยุกต์กับของโบราณด้วย มันถึงจะได้ผลดี
แต่ว่าตัวหนังสือโบราณนี่ มันไม่ได้เข้าใจกันได้ง่ายๆ พออ่านแล้วเหนื่อยมาก นางเปิดอ่านหนึ่งหน้า กว่าจะอ่านออกแต่ละตัวใช้เวลานานมาก
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ดาวเริ่มเยอะ มีเพียงแสงสว่างจากเทียนที่จุดอยู่ในห้องเท่านั้นในตอนนี้
โม่ฉีหมิงเงยหน้าขึ้นมา เห็นโล่หวินหลานฟุบหลับไป มือหนึ่งถือพู่กันอยู่ มือหนึ่งถือหนังสือ เขาค่อยๆเลื่อนเก้าอี้รถเข็นเข้าไปหานาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก