ตอนที่ 249 เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น(2)
“เอาล่ะ ลงมือเถอะ”เซียวฉางเยว่พูดกับชายชุดดำข้างกาย
ชายชุดดำทั้งสองพยักหน้ารับ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงด้านหน้าของหลินซีนเยียนแล้ว หลินซีนเยียนมองไม่ทันการกระทำของพวกเขา วี่จิ่งในอ้อมกอดก็ถูกขโมยไปเสียแล้ว
ในมือที่ว่างเปล่านั้นยังคงหลงเหลือเพียงไออุ่นของวี่จิ่ง หลินซีนเยียนเหงยหน้าขึ้นก็เห็นชายชุดดำส่งวี่จิ่งให้กับเซียวฉางเยว่
“อ่ะ!เซียวฉางเยว่!”เสียงร้องที่ดังจากคนผู้เป็นแม่ ที่ร้องออกมาอย่างสุดเสียง
นางร้องออกมาอย่างดัง เซียวฉางเยว่ส่งยิ้มอย่างผู้มีชัย ในที่สุดวันที่นางรอคอยก็มาถึงในที่สุดก็ทำให้นางสารเลวที่แย่งสามีข้านี่สติแตกได้ ไม้เสียแรงที่ข้าเสียไปเยอะ ……
“เจ้าจะเรียกข้าไปก็ไม่มีประโยชน์”เซียวฉางเยว่พูดออกมาอย่างเย็นชา อุ้มวี่จิ่งแล้วหันเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็หยุดแล้วพูดว่า“จริงสิ เด็กรับใช้คนนี้เห็นข้าแล้ว จัดการให้เรียบร้อย”
“อย่ามาออกคำสั่งกับพวกข้า ข้าจะเตือนเจ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”หลังจากที่เข้ามาในห้องนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชายชุดดำพูด น้ำเสียงของเขาช่างเยือกเย็นและแหบเล็กน้อย ทำให้ผู้ที่ได้ยินมีความรู้สึกกลัว
ใบหน้าของเซียวฉางเยว่มีบางอย่างผิดปกติแต่ก็ยังคงไม่พูดอะไร ก็แค่อุ้มวี่จิ่งแล้วหันเดินจากไป
ชายชุดดำทั้งสองเดินมาหยุดตรงหน้าชิงจู๋ จริงๆแล้วคนหนึ่งหยิบมีดพกออกมาแล้วส่องแสงอันเยือกเย็น เลือดสดที่กระจายเป็นฝอย จากการที่ชิงจู๋ถูกหั่นคอหอยเหมือนกับการหั่นผักทั่วไป
เลือดนี้ช่างดูไม่น่าจะเป็นความจริงเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาหลินซีนเยียน ชั่วพริบตานั้น นางลืมแม้กระทั่งลืมหายใจ ลืมความกลัว ลืมทั้งหมดทุกสิ่งอย่าง!
ชิวิตหนึ่งชีวิต?ทำไมถึงจบลงง่ายๆแบบนี้? นี่ไม่ใช่คนอื่น นี่คือชิงจู๋!
ในหัวของหลินซีนเยียนตอนนี้ว่างเปล่า ในสายตาเหมือนจะมีแต่ภาพของชิงจู๋ที่ล้มลง นางล้มลงแบบที่ตัวตรงดิ่ง เลือดสดที่ออกมาจากคอหอย สายตาที่ยังคงเป็นกังวลกับหลินซีนเยียน แม้กระทั่ง ริมฝีปากของนางในตอนที่ล้มลงยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
เหมือนนางจะพูดว่า รีบหนีไป!
แต่น่าเสียดาย หลินซีนเยียนหนีไปไม่ไหว นางเดินไม่ไหว!
หลินซีนเยียนไม่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์เบื้องหน้านี้เกิดขึ้นจริง ก่อนหน้านี้ชิงจู๋ ยังยิ้มหยอกล้อเรื่องเรือนร่างของเธอ แต่เพียงแค่ชั่วพริบตา ก็จากโลกนี้ไปเสียแล้ว
นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!มันเป็นไปได้ยังไง?
เธออยากจะร้องไห้ แต่ว่าทั้งๆที่ดวงตาเจ็บจนทนไม่ไหว แต่ทว่านางร้องไม่ออก ทำได้แค่เพียงกัดริมฝีปาก นัยน์ตาที่สั่นเทา
“เอาตัวนางไป เหลือเวลาไม่มากแล้ว ประมุขน้อยรออยู่”ชายชุดดำอีกคนที่ก่อนหน้าไม่ได้ออกปากพูดเอ่ยขึ้นพร้อมกับลากหลินซีนเยียนแบกขึ้นไหล่
เหลือไว้เพียงแค่ชายชุดดำอีกคนที่กำลังจัดการจัดเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย
ความเร็วของทั้งสองรวดเร็วมาก ไม่นานก็ออกจากบริเวณบ้านไป
เมื่อมองเขาที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความกังวลใจ จินมู่ก็น้ำตาคลอ เวลานั้น เขาเข้าใจแล้ว ท่านอ๋องไม่ใช่ไม่สนใจพระชายาเพียงแต่แค่หวาดกลัวเท่านั้น
ชายคนหนึ่งที่เดิมทีเป็นยอดบุรุษ แต่เวลานี้กับกลัวเสียแล้ว
เขากลัวที่จะเข้าไปในห้องนอนใหญ่ แล้วเห็นร่างของพระชายา
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จินมู่รีบเดินตามไปด้วยดวงตาที่น้ำตาคลอมือที่จับมีดพกไว้นั้นห้าไม่ได้ที่จะสั่นเทาเล็กน้อย
ระยะห่างอีกแค่ไม่กี่สิบก้าว แต่กับเหมือนว่ากำลังใช้เวลาหนึ่งศตวรรษ
ในที่สุดก็เดินมาถึงประตูห้องนอนใหญ่ จินมู่รู้สึกว่าหัวใจที่เต้นอยู่นั้นกำลังจะหลุดออกมาจากอก
โม่จื่อเฟิงยืนอยู่หน้าสุด มือที่อุ้มวี่จิ่งเริ่มแน่นขึ้นนิดหน่อยเมื่อเห็นร่างที่อยู่บนพื้นนั้นคือชิงจู๋ หันกลับมามองในห้องอีกรอบ หลังจากที่ไม่พบร่างของหลินซีนเยียน เขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
“ชิงจู๋……”ตอนพูดนั้น เสียงของจินมู่หลงหาย เขาย่อตัวลงข้างร่างของชิงจู๋ ยื่นมือไปลูบที่ดวงตาของนางให้ตาทั้งสองประกบลง
“ฌาปนกิจอย่างยิ่งใหญ่!”โม่จื่อเฟิงตะโกนคำนี้ออกมาแต่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
ชิงจู๋ก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งของเขา นางตายเช่นนี้ สภาพจิตใจของเขาก็ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ดีกว่าหลินซีนเยียน สุดท้ายเขาก็เห็นแก่ตัว แม้กระทั่งเวลาชั่วครู่ หลังจากเมื่อเขาเห็นคนที่ตายไม่ใช่หลินซีนเยียนแต่กลับเป็นชิงจู๋ แต่ในลึกๆก็แอบดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...