ตอนที่ 207 ที่แข็งกว่านี้ก็ไม่ใช่ว่าเธอเคยกัดแล้วเหรอ?
มู่น่อนน่อนออกมาจากห้องโถงใหญ่ ก็พบว่าที่ห้องโถงนั้นเหลือแค่ซือเฉิงหยู้คนเดียว
ซือเฉิงหยู้ได้ยินเสียงเปิดประตู ก็หันหลังกลับมา ทำท่าทางปกติและเรียกชื่อของเธอ “น่อนน่อน”
“ฉันรับไม่ไหวจริงๆ ที่คุณซือเฉิงหยู้จะเรียกชื่อฉันแบบธรรมดา” น้ำเสียงและท่าทีของมู่น่อนน่อนเริ่มเย็นชา
เธอทนไม่ไหวที่ซือเฉิงหยู้นั้นทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าซือเฉิงหยู้จะไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของเฉินถิงเซียว แต่เธอก็คือแฟนคลับของเขามาถึงแปดปี
ที่ยังคงดำเนินมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะเห็นแก่คุณงามความดีของราชาภาพยนตร์ซือ
ไม่มีกฎข้อไหนบอกว่าซือเฉิงหยู้นั้นต้องเป็นคนดี
แต่ไม่ว่าเขาจะมีปัญหาอะไร หรือเหตุผลอะไร มู่น่อนน่อนก็ไม่อาจที่จะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำได้
เธอไม่ได้มีความผิดอะไรเลย ซือเฉิงหยู่และเฉินถิงเซียวมีปัญหากัน ก็ไม่ควรจะเอาเธอนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ซือเฉิงหยู้เริ่มมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป เขารู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
“ขอโทษจริงๆสำหรับเรื่องนี้” ซือเฉิงหยู่ไม่ยิ้มอีกต่อไป สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
“ฉันไม่รับคำขอโทษจากคุณ” คำขอโทษของเขานั้นไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเขาไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปด้วยซ้ำ
ซือเฉิงหยู้ก็ดูจะไม่ได้สนใจว่าเธอนั้นจะรับหรือไม่รับคำขอโทษ เขาแค่พยักหน้าตอบรับ “อืม”
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณกับเฉินถิงเซียวนั้นมีปัญหาอะไรกัน แต่ฉันรู้ว่าในใจของเฉินถิงเซียวนั้น คุณคือคนที่สำคัญคนหนึ่ง ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณลงมือทำ เขาก็รับรู้มาตลอด แต่เขาก็ยังเลือกที่จะให้โอกาสคุณ”
หลังจากที่ใจเย็นลงบ้าง ก่อนหน้านั้นมองภาพของเรื่องราวได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่พอตอนนี้ก็พอจะเข้าใจอะไนบ้างแล้ว
มู่น่อนน่อนเอียงศีรษะเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันรู้สึกอิจฉาคุณนะ”
เขาอิจฉาซือเฉิงหยู้จริงๆ
เฉินถิงเซียวดีกับเขาขนาดนั้น
ดีจนทำให้เธอนั้นรู้สึกอิจฉา
คำพูดของเธอเหมือนจะสัมผัสบางอย่างในใจของซือเฉิงหยู้ ลมจังหวะหายใจในตัวของเขานั้นเปลี่ยนไป “อิจฉาฉันอย่างนั้นหรอ?”
มู่น่อนน่อนยังไม่ทันจะได้พูดต่อ ก็มีเงาสะท้อนของร่างใหญ่เดินพุ่งเข้ามาในห้องโถง
ไม่ทันที่มู่น่อนน่อนจะได้หันตัวกลับไปมอง เฉินถิงเซียวก็เดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเธอ
“เฉินถิงเซียว?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกประหลาดใจกับผู้ชายตัวสูงๆที่ปรากฎตรงด้านหน้าของเธอ “คุณมาที่ได้อย่างไร?”
ตอนที่เขาเดินพุ่งเข้ามานั้น เธอคิดว่าเป็นผู้คุ้มกันเสียอีก
เฉินถิงเซียวไม่ได้นอนเลยทั้งคืน หน้าเขาดูซัดเล็กน้อย แต่ออร่าในตัวของเขาก็ไม่ได้ลดลง
เขาไม่ได้ตอบคำถามของมู่น่อนน่อนโดยทันที เขามองไปที่เธอตั้งแต่หัวจรดเท้า มันทำให้เขารู้สึกโล่งใจ จากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางซือเฉิงหยู้
ซือเฉิงหยู้ยิ้มออกมา “มาถึงเร็วเหมือนกันนะ”
จากคำพูดของเขา ราวกับว่าเขานั้นเป็นคนบอกให้เฉินถิงเซียวมาที่นี่
มู่น่อนน่อนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงาของเฉินถิงเซียวนั้นแข็งทื่อ
มู่น่อนน่อนหยุดชะงัก จากนั้นก็เดินก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือออกไปจับมือของเฉินถิงเซียว
เธอยื่นมือไปได้แค่ครึ่งเท่านั้น หางตาของเฉินถิงเซียวก็หันมาเห็นจึงดึงมือของเธอเข้ามาจับไว้แน่น
มือของเขาเหงื่อออกไปหมด แต่ก็ยังคงอุ่น ตอนที่เขาได้จับมือของเธอไว้แน่น มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
มู่น่อนน่อนก้มหน้ามองลง ในใจรู้สึกสับสนไปหมด
ซือเฉิงหยู้เมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ก็ยิ้มเยาะออกมา “รักกันเสียเหลือเกินนะ มันช่างน่าอิจฉาจริงๆ แต่คนอื่นๆเขาคนไม่คิดแบบฉันหรอกเนอะ มันช่างพูดยากเสียจริงๆ”
“อย่ามาเรียกชื่อของฉัน เจ้าคนน่ารักเกียจ” ตอนนี้มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าซือเฉิงหยู้นั้นน่าขยะแขยงเสียจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะสมบรูณแบบ แต่ข้างในมันผุพังไปเสียหมดแล้ว
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร เขาพามู่น่อนน่อนออกมา
หลังจากที่ขึ้นรถ ในใจของมู่น่อนน่อนนั้นก็ยังคงลนลาน อยากจะสะบัดมือของเฉินถิงเซียวออก
แต่เฉินถิงเซียวนั้นยังคงทำตัวหน้าหนา และจับมือของเธอเอาไว้แน่น และดูเหมือนว่าจะไม่ยอมปล่อยมือเธอง่ายๆ
มู่น่อนน่อนสูดลดหายใจเข้าลึกๆ และพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด “ปล่อยมือฉัน”
เฉินถิงเซียวไม่แสดงสีหน้าใดๆ “ไม่ปล่อย”
มู่น่อนน่อนก้มหน้ามองมือและกัดฟันแรงๆ
แต่เธอลืมไปเลยว่า เฉินถิงเซียวนั้นเป็นคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆ
มู่น่อนน่อนพยายามจนเหนื่อย เมื่อเธอเห็นว่าเฉินถิงเซียวไม่ยอมปล่อย เธอก็ทำอะไรไม่ได้
เฉินถิงเซียวดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด “อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
มู่น่อนน่อนนิ่งอึ้ง “ไม่”
“ถ้ายังไม่ดีขึ้นงั้นก็จะกอดอีก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ จากนนั้นก็เอามือของเขาไปลูบที่ริมฝีปากของเธอ
มู่น่อนน่อนหันหนี “แข็งเกินไป”
มือของผู้ชายนี่แข็งเหมือนกระดูกเลย
เฉินถิงเซียว “ที่แข็งกว่านี้ก็ไม่ใช่ว่าเธอเคยกัดแล้วเหรอ?”
มู่น่อนน่อน “……”
เมื่อเฉินถิงเซียวพูดจบตัวเองก็นิ่งอึ้งสักพแปบ เขาเคยชินกับการพูดหยอกล้อลวนลามมู่น่อนน่อน ก็เลยพูดออกมาแบบไม่ตั้งตัว ใบหน้าของมู่น่อนน่อนแดงก่ำ มองไปที่สือเย่คนขับรถ แล้วก็เอาเท้ากระแทกเหยียบไปที่เท้าของเขา เฉินถิงเซียวไม่ต่อสู้ใดๆและปล่อยให้เธอนั้นทำตามอำเภอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...