ฉินสุยซานมาที่วิลล่าหลายวันแล้ว แต่นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นเฉินถิงเซียวยิ้มออกมา
ปกติเฉินถิงเซียวจะมีใบหน้าที่เย็นชา ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ทำให้รู้สึกทั้งกลัวและทั้งอยากเข้าใกล้ รอยยิ้มที่ออกมาจากใจอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าบนร่างของเขามันเหมือนกับได้ข้ามผ่านชั้นแสงสว่างออกมาก็ไม่ปาน ทั้งร่างมันส่องประกายไปหมด ทำให้คนอื่นเห็นเพียงแค่นิดเดียวมันก็อดไม่ได้ที่จะลุ่มหลงออกมา
เธอแอบกำหมัดแน่นอยู่เงียบๆ ผู้ชายอย่างนี้สิถึงจะคู่ควรกับเธอฉินสุยซาน
……
เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนทั้งสองคนกินมื้อเย็นกันเสร็จก็กลับห้องนอนไป
อาหูรีบส่งผลไม้ขึ้นไปให้อย่างรวดเร็ว
มู่น่อนน่อนหลังจากที่ได้กินผลไม้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่อาบน้ำเสร็จก็ยืนแปรงฟันหน้ากระจก ส่องกระจกมองซ้ายมองขวา ก็คิดแต่เพียงว่าตัวเองเหมือนจะอ้วนแล้ว
นี่เพิ่งเท่าไหร่เอง? อ้วนเสียแล้ว?
เธอควรจะกินให้น้อยลงหน่อยใช่มั้ย?
แต่กินให้น้อยลงสักหน่อย เธอก็จะหิวนี่นา?
มู่น่อนน่อนแปรงฟันเสร็จไปด้วยใบหน้าที่หงิกงอ ตอนที่ออกไป เห็นเฉินถิงเซียวสวมเสื้อคลุมอาบน้ำนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟาเดี่ยว
ความสง่าและเลอค่าแผ่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำเอามู่น่อนน่อนเห็นแล้วก็รู้สึกรำคาญ
ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องเมื่อเย็นวันนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับเฉินถิงเซียว แต่เธอก็อดที่จะเห็นเขาแล้วรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป ดึงเอาเอกสารในมือของเขาโยนออกไปอีกด้านนึง กอดอกมองเขา
เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา เห็นท่าทางถามโทษของเธอแล้ว ก็กลั้นขำเอาไว้ เอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีนิ่งขรึม “เป็นอะไรไป?”
สายตาของเขาเรียบนิ่งน้ำเสียงฟังดูจริงจัง มันกลับทำให้มู่น่อนน่อนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีแทนเสียอย่างนั้น
เธอเหมือนกับกำลังระบายอารมณ์ ยื่นมือออกไปหยิกหน้าเฉินถิงเซียว
หยิกไปสองทีเธอก็อดที่จะแขวะเขาออกไปไม่ได้ “ผู้ชายแท้ๆ ผิวดีขนาดนี้เชียว! อารมณ์ก็แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง!”
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้วออกมา “อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง?”
มู่น่อนน่อนเลียนแบบท่าทางของเขา เลิกคิ้วกลับไปหาเขา
แขนยาวของเฉินถิงเซียวยื่นออกมา แล้วก็ได้ดึงเธอเข้าไปสู่อ้อมแขน
มือข้างหนึ่งของเขารัดลงบนเอวเธอแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงไปด้วยการคุกคาม “อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง?”
มู่น่อนน่อนสั่นออกมาเล็กน้อย “เปล่า คุณไม่ได้อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง!”
เฉินถิงเซียวจึงได้พอใจขึ้นมา เอียงหัวจูบลงไปบนศีรษะของเธอ
จากนั้นมันก็เป็นไปตามสเต็ปเดิม ทั้งสองคนได้นอนลงไปกับเตียง
แต่กลับ...ทำอะไรไม่ได้
เพราะถึงยังไงมู่น่อนน่อนก็ท้องอยู่
มือทั้งของข้างของเฉินถิงเซียวประคองสีข้างของมู่น่อนน่อนทั้งสองด้าน เอนตัวลงไปตรงส่วนบนของเธอ ในดวงตาดำสนิทดูมืดสนิทเหมือนกับตอนกลางคืน หลุดเสียงลมหายใจที่ไม่มั่นคงออกมา “ตอนนี้ทำไงดี?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกมีความสุขในความทุกข์ของคนอื่นขึ้นมาเล็กน้อย แสดงสีหน้าไร้เดียงสาออกมา “ไม่รู้ค่ะ นั่นเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าพวกผู้ชายเขาจะต้องแก้ปัญหานี้กันยังไง”
ตอนที่ออกมาอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่าบนเตียงมีผ้าห่มเพิ่มมาอีกผืน
มู่น่อนน่อนห่อตัวอยู่ในผ้าห่มของตัวเอง เอาหมอนวางเอาไว้ตรงกลางเตียง “คืนนี้อย่าล้ำเส้นเขตแดนเส้นนี้ ทางนี้เขตของฉัน ทางนั้นของคุณ อย่าล้ำเข้ามา! ไม่อย่างนั้นก็แยกห้องนอนกัน”
เธอพูดจบ ก็จ้องเฉินถิงเซียวมองปฏิกิริยาของเขา
เฉินถิงเซียวกวาดสายตามองหมอนที่เอามาเป็น “เส้นแดน” เดินเข้าไปโดยที่ไม่พูดจาอะไร ชี้ไปทางอีกครึ่งเตียงที่มู่น่อนน่อนนอน แล้วถามออกไป “ด้านนี้ของคุณ?”
“อืม” มู่น่อนน่อนพยักหน้า เธอพูดไม่ชัดเจนอีกหรอ?
เฉินถิงเซียวขยับ “เส้นแดน”เส้นนั้นไปอยู่ตรงขอบเตียง แต่ตัวเองกลับไปนอนข้างๆมู่น่อนน่อนซุกเข้าไปในผ้าห่มของเธอ “งั้นผมก็เป็นของคุณเหมือนกัน”
มู่น่อนน่อน “...”
ก็แค่ไปเข้าห้องน้ำมาเท่านั้นเองไม่ใช่หรอ นี่เฉินถิงเซียวไปโดนตัวอะไรแปลกๆมาหรือเปล่า? นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนั้นออกมาได้?
……
ในตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูหนาว เมืองหู้หยางตอนเที่ยงคืนก็ยิ่งหนาวไปถึงกระดูก
เซียวชู่เหอห่อตัวเข้ากับเสื้อผ้านั่งบนเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหามู่ลี่เหยียน ให้เขาส่งคนขับรถมารับตน
หรือว่าคืนนี้เธอจะต้องนอนข้างถนนงั้นหรอ?
รถยนต์คันนึงขับเข้ามาจากที่ไม่ไกลออกไป ค่อยๆจอดลงตรงหน้าเธอ
หน้าต่างรถเคลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อของชายหนุ่มคนนึง “คุณป้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...