ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 271

เช้าวันรุ่งขึ้น

ในตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา กลับไม่เห็นร่างของเฉินถิงเซียวอยู่ข้างๆ

เธอลุกขึ้นจากเตียง หยิบเอาเสื้อคลุมมาใส่ แล้วเดินไปที่ประตูก็พบว่าประตูไม่ได้ถูกปิดสนิท

ห้องที่เฉินถิงเซียวจองเป็นห้องสูท ด้านนอกของห้องนอนคือห้องรับแขก

มองลอดผ่านประตูที่ปิดไม่สนิท มู่น่อนน่อนก็เห็นเฉินถิงเซียวที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังคุยโทรศัพท์อยู่

เฉินถิงเซียวตั้งใจพูดเสียงเบา มู่น่อนน่อนเห็นเพียงริมฝีปากของเฉินถิงเซียวขยับ แต่ไม่ได้ยินว่าเขากำลังพูดอะไร

ทันใดนั้น เฉินถิงเซียวราวกับจะรู้สึกได้ เงยหน้าขึ้นแล้วมองมาทางมู่น่อนน่อน

เมื่อถูกจับได้

มู่น่อนน่อนก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป

โทรศัพท์ในมือของเฉินถิงเซียวไม่ได้กดวางสาย เขาเอื้อมมือไปหยิบกาน้ำบนโต๊ะแล้วเทน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้มู่น่อนน่อนจากนั้นก็ยื่นมันส่งให้เธอ

มู่น่อนน่อนยื่นมือรับเอาไว้ เขาปล่อยมือออกจากนั้นก็คุยโทรศัพท์ต่อ

ในเวลานี้เอง ทางด้านนอกของประตูก็มีเสียงเคาะดังขึ้น

มู่น่อนน่อนมองไปที่เฉินถิงเซียวแวบหนึ่ง เฉินถิงเซียวก็พูดขึ้นว่า “ผมสั่งอาหารเช้ามา”

มู่น่อนน่อนเดินไปเปิดประตูโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอาการอะไร

พนักงานเข็นรถอาหารเช้าแล้วเดินเข้ามา วางอาหารลงบนโต๊ะ แล้วกล่าวอย่างสุภาพไปว่า “สวัสดีครับ นี่เป็นอาหารเช้าที่คุณเฉินสั่งครับ ทานให้อร่อยนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ”มู่น่อนน่อนกล่าวขอบคุณ แล้วเดินตามไปเพื่อจะล็อกปิดประตูห้อง

เมื่อมาถึงที่ประตู จู่ๆพนักงานก็หันกลับมาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณมู่”

มู่น่อนน่อนก็ตกใจ เงยหน้าขึ้นมองพนักงาน

พนักงานยื่นมือออกมาแล้วยัดเศษกระดาษใส่ในมือเธอ แล้วรีบจากไป

ไม่นานมู่น่อนน่อนก็ได้สติ หยิบเศษกระดาษนั้นใส่ลงในกระเป๋า

ในตอนที่เธอหันกลับมา เธอก็เหลือบมองไปที่เฉินถิงเซียวอย่างระแวดระวัง

เฉินถิงเซียวเองก็เพิ่งวางสายและหันมองมาที่เธอเช่นกัน “เป็นอะไร?”

“เปล่า”มู่น่อนน่อนใช้หลังมือดันประตูปิด ทำท่าทำทางให้ปรกติแล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหาร

มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าในกระดาษนั้นพนักงานคนนั้นเขียนอะไรไว้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะรีบร้อนเปิดมันดู ในตอนกินข้าวจิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลัวเฉินถิงเซียวจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ เธอจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตากิน

จนในที่สุดก็กินเสร็จ มู่น่อนน่อนจึงได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ

ล็อกประตูแล้ว เธอก็หยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมา มองไปแค่แวบเดียว ดวงตาก็ต้องเบิกกว้าง

เนื้อหาในกระดาษนั้น เป็นข้อความง่ายๆเพียงหนึ่งคำ “อยากหนีไหม?”

ตัวอักษรและตัวเลขที่รวมๆกัน ดูคล้ายกับเป็นเลขทะเบียนรถ

อีกทั้ง ทะเบียนรถคันนี้ดูๆไปแล้วก็คุ้นมากๆ

มู่น่อนน่อนดูวนข้อความนั้นเพียงสองรอบ ก็จำทะเบียนรถนั้นไว้ จากนั้นก็โยนกระดาษนั้นทิ้งลงในโถชักโครก แล้วกดน้ำทิ้ง

ในตอนที่เธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวน้ำเสียงไม่น่าฟัง“เข้าห้องน้ำล็อกประตูด้วย กำลังคิดหาวิธีหลบหนีอีกเหรอ ?”

“ใช่”มู่น่อนน่อนเชิดหน้าขึ้น พูดอย่างทีเล่นทีจริงไปว่า“หาวิธีอยู่นาน เพิ่งจะรู้ว่าหนีออกทางห้องน้ำไม่ได้ ”

สีหน้าของเฉินถิงเซียวแน่นิ่ง คำพูดที่ราวกับจะรอดออกมาตามไรฟัน“ยั่วโมโหผมมันไม่ส่งผลดีกับคุณหรอกนะ ”

มู่น่อนน่อนแบมือออก“ไม่ยั่วโมโหคุณ มันก็ไม่ส่งผลดีอะไรกับฉันเหมือนกันนี่ ?”

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นเฉินถิงเซียวโมโหแบบนี้ ในใจของของเธอก็รู้สึกราวกับมีความสุขขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

……

หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ เฉินถิงเซียวก็พามู่น่อนน่อนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เตรียมที่จะเดินทางกลับเมืองหู้หยาง

ออกจากประตูโรงแรมมา สือเย่ก็คุยธุระกับเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนก็จับจ้องมองไปยังรถที่จอดอยู่ตรงลานจอดของประตู

เมื่อมองไป เธอไม่เห็นทะเบียนรถที่เขียนอยู่ในเศษกระดาษนั่น

นี่มันเรื่องอะไรกัน ?

น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวที่ราวกับจะตามใจ“ อยากพักที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”

“จริงเหรอ?”

“แน่นอน”

สายตาของมู่น่อนน่อนก็เหลือบมองที่รถคันนั้นอีกครั้ง ในใจก็ตัดสินใจ เงยหน้าขึ้นแล้วจูบไปที่ริมฝีปากของเฉินถิงเซียว

เธอจูบอย่างกะทันหัน ทำให้เฉินถิงเซียวก็ตกใจไปด้วย ถูกมู่น่อนน่อนจูบอยู่นาน ก็เพิ่งจะรู้ตัวและได้สติเอื้อมมือไปกอดเอวของมู่น่อนน่อนเอาไว้

สือเย่กับบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆก็หันหลังให้อย่างอัตโนมัติ

มู่น่อนน่อนเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน ยังไงเขาก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน

ในตอนที่เขากำลังจูบอย่างดูดดื่ม จู่ๆมู่น่อนน่อนก็ผละตัวออก

เฉินถิงเซียวยังไม่หายอยากที่จะปล่อยเธอ แต่ก็คลายการเฝ้าระวังตัว

มู่น่อนน่อนใช้โอกาสนี้ ผลักร่างของเฉินถิงเซียวออกอย่างแรง

เฉินถิงเซียวที่ไม่ทันได้ระวังตัว ถูกมู่น่อนน่อนผลักออกอย่างนี้ ก็ล้มลงกับพื้นทันที

ในตอนที่เขาล้มลงกับพื้น มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวต่างจ้องมองหน้ากัน เห็นสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของเขา เธอก็เหยียดยกมุมปาก

มู่น่อนน่อนได้รับอิสรภาพ แล้วรีบวิ่งไปยังรถคันนั้น

ในตอนที่เธอกำลังวิ่งไป รถคันนั้นก็ได้เปิดประตูรอเธอเอาไว้อยู่แล้ว

ทางด้านหลังมีเสียงอันโกรธเคืองของเฉินถิงเซียวดังขึ้น “มู่น่อนน่อน!”

มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นกุมไปที่ท้องน้อยของเธออย่างไม่รู้ตัว แต่ฝีเท้าก็เร่งให้เร็วขึ้น

บอดี้การ์ดก็ได้สติขึ้นมาเหมือนกันในตอนที่เสียงคำรามของเฉินถิงเซียวดังขึ้น แล้วต่างก็วิ่งกรูกันตามไปที่มู่น่อนน่อน

ในจังหวะที่บอดี้การ์ดใกล้จะตามมู่น่อนน่อนทันนั้น เธอก็วิ่งไปถึงที่ตัวรถแล้ว และก้มตัวขึ้นรถไป

เธอปิดประตูรถอย่างแรง หายใจหอบแล้วหันไปมองดูคนที่ตามมาทางด้านหลัง

บอดี้การ์ดวิ่งตามอยู่อีกสองสามก้าว ก็หันหลังกลับเพื่อจะไปขับรถไล่ตาม และเฉินถิงเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด เธอมองกิริยาท่าทางของเขาได้ไม่ชัดเจน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม