ซือเฉิงหยู้ได้ยินแล้ว เลยถามกลับ “คุณมีช่องทางการติดต่อกับเขาไหม?”
มู่น่อนน่อนอึ้งไปสักพัก “มี”
หลังจากที่เธอกลับมาแล้วนั้นก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับเฉินเจียฉินเลย บางครั้งเฉินเจียฉินก็ส่งข้อความผ่าน Wechat มาหาเธอ ทั้งสองคนก็แค่ทักทายกันตามปกติก็เท่านั้นเอง
เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับซือหมิงหวน ในใจเธอก็คอยเป็นห่วงเฉินเจียฉินอยู่ตลอด แต่ทว่าไม่สามารถไปหาเฉินเจียฉินได้
ถึงอย่างไรตอนนี้เธอ “ไม่ใช่ภรรยาของเฉินถิงเซียวแล้ว” แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าซือหมิงหวนประสบอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต
ตอนนี้ซือเฉิงหยู้เป็นคนออกหน้ามาหาเธอเองเลย และเป็นเหตุผลให้เธอได้ไปหาเฉินเจียฉินได้อย่างสมเหตุสมผล
ซือเฉิงหยู้พยักหน้า น้ำเสียงดูขอบคุณเล็กน้อย “รบกวนคุณแล้วนะ”
“ถ้ารู้ว่าเสี่ยวฉินเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องให้คุณมาพูดหรอก ตัวฉันจะไปหาเขาด้วยตนเองเลย” น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนดูเย็นชาและห่างเหิน
ซือเฉิงหยู้ก็ไม่รู้ว่าฉุกคิดอะไรได้ การแสดงออกเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็แค่ยิ้มให้
……
หลังจากที่ซือเฉิงหยู้กลับไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็โทรศัพท์หาเฉินถิงเซียวทันที
เฉินถิงเซียวที่กำลังเตรียมจะประชุมอยู่นั้น เมื่อเห็นว่ามู่น่อนน่อนโทรศัพท์เข้ามาหา ก็หยิบโทรศัพท์และลุกขึ้นและเดินออกไปทันที
เฉินถิงเซียวเดินออกมาจากห้องประชุม จากนั้นก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทำไมเหรอ?”
“เมื่อกี้ซือเฉิงหยู้มาหาฉันแล้ว”
“เขามาหาคุณทำไมกัน?” เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชาลงทันที เห็นได้ชัดว่าเขาก็เหมือนกับมู่น่อนน่อน และมีการหวาดระแวงต่อซือเฉิงหยู้อย่างเต็มเปี่ยม
“เขาพูดถึงเรื่องอาเขยของคุณ ให้ฉันพอมีเวลาก็เข้าไปคุยเป็นเพื่อนเสี่ยวฉินหน่อย” มู่น่อนน่อนบอกคำพูดของซือเฉิงหยู้ที่พูดกับเธอให้เฉินถิงเซียวฟังด้วย
เฉินถิงเซียวที่อยู่ปลายสายเงียบงันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถึงได้มีเสียงตอบกลับมา “งั้นคุณยินยอมไปหรือเปล่า?”
“ฉันก็ต้องยอมสิ” มู่น่อนน่อนพูดเว้นจังหวะ “ความจริงแล้ว ฉันรู้สึกว่าเสี่ยวฉินเขาชอบคุณมาก บางครั้งคุณมีเวลาก็สามารถเข้าไปพูดปลอบโยนเขาได้”
แม้ว่าเธอกับเฉินเจียฉินรู้จักกันจะเพียงแค่เวลาระยะอันสั้นแค่นั้น ทั้งสองคนต่างมีความรู้สึกต่อกัน แต่ว่าเธอรู้อยู่เต็มอกว่าในใจของเฉินเจียนฉินนั้น ตำแหน่งของเฉินถิงเซียวต้องเป็นตำแหน่งที่พิเศษที่สุด
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ผมไม่มีเวลา คุณเข้าไปหาเขาเถอะ เดี๋ยวผมจะประชุมแล้ว วางสายแล้วนะ”
“อืม”
มู่น่อนน่อนกดวางสายโทรศัพท์ มือที่กำโทรศัพท์เริ่มคิดจินตนาการเตลิดไป เฉินถิงเซียวคงไม่โทษตัวเองใช่ไหม?
ในตอนนั้นซือหมิงหวน รีบไปตามที่ได้นัดหมายกับเฉินถิงเซียวเอาไว้ และประสบอุบัติเหตุตรงถนนหน้าประตูทางเข้าร้านกาแฟที่ทั้งสองคนนัดหมายกันเอาไว้ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
เมื่อฟังดูแล้วก็รู้สึกว่าอยู่เหนือการคาดเดาได้ ทว่ามันกลับเป็นความจริงไปเสียนี่
เมื่อมองจากทัศนคติของเฉินถิงเซียวแล้ว เฉินถิงเซียวไม่คิดว่าอุบัติเหตุรถชนในครั้งนั้นจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุจริงๆ ...
ช่างเถอะ เรื่องที่คิดไม่ออกก็อย่าไปเพิ่งคิดถึงมันเลย
คืนนี้เอง มู่น่อนน่อนก็ส่งข้อความผ่านทางWechatให้เฉินเจียฉิน
“เสี่ยวฉิน กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
ผ่านไปหลายนาที เฉินเจียฉินถึงได้กลับมา “ทำการบ้านอยู่”
มู่น่อนน่อนเหลือบมองปฏิทิน ถึงได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะเข้าเดือนกันยายนแล้ว พวกของเฉินเจียฉินจะเปิดเรียนแล้ว
“ยังมีอีกเยอะไหมที่ยังทำไม่เสร็จ? พรุ่งนี้มีเวลาพอจะไปทานข้าวด้วยกันไหม?”
“อื้อ”
มู่น่อนน่อนเห็นคำว่า “อื้อ” ของเฉินเจียฉิน ถึงกลับหมดคำพูด
เด็กคนนี้โดยปกติแล้วเวลาคุยกันใน Wechat นั้นก็จะพูดมากหน่อย พูดไม่เคยหยุดหายใจเลย แต่ตอตตนี้ใกล้จะเหมือนเฉินถิงเซียวที่พูดแล้วกลัวดอกพิกุลจะร่วงไปทุกที
จากนั้น มู่น่อนน่อนก็ส่งเวลาและสถานที่ไปให้เฉินเจียฉิน
……
เช้าวันต่อมา มู่น่อนน่อนมายังร้านอาหารที่ได้จองไว้ก่อนอย่างตรงเวลาแล้ว
“ได้ งั้นเราไม่กินแล้วนะ ไปหาร้านตัดผมให้นายกันเถอะ” มู่น่อนน่อนเรียกพนักงานมาเช็กบิล เพื่อเตรียมจะพาเฉินเจียฉินไปตัดผม
ทั้งสองคนเดินออกจากร้านอาหาร ก็ถูกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งขวางทางเอาไว้
สายตาของพวกเขามองมาที่ตัวของเฉินเจียฉิน หนึ่งในนั้นเดินออกมาด้านหน้าและเรียนเฉินเจียฉินว่า “คุณชายเจีย”
มู่น่อนน่อนหันหน้าไปมองเฉินเจียฉินทันที
เฉินเจียฉินขมวดหัวคิ้วเอาไว้ น้ำเสียงดูเย็นชายากที่จะเห็นได้ “พวกนายสะกดรอยตามฉันทำไม? ฉันไม่ได้ไปตายสักหน่อย เดี๋ยวสักพักฉันจะกลับไปเอง!”
ตอนที่เขาพูดออกมานั้นไร้ความรู้สึกใด ๆ กลิ่นอายความเย็นชาช่างละม้ายเฉินถิงเซียวบ้าง
มู่น่อนน่อนได้ยินเขาพูดเช่นนี้แล้ว พลันหันหน้าไปมองเขาทันที
เธอย่อมรู้ดีว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นคนทางตระกูลเฉินจัดการส่งตัวมาให้คุ้มครองเฉินเจียฉิน
แต่กลุ่มบอดี้การ์ดกลับไม่ได้พูดอะไร
เฉินเจียฉินหันหน้าไปมองมู่น่อนน่อน “พี่น่อนน่อน เราไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนเดินไปทางด้านหน้า กลุ่มบอดี้การ์ดที่ขวางทางอยู่ก็รีบหลีกทางให้ทั้งสองคนทันที
มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่กลุ่มบอดี้การ์ดกลุ่มนี้หลีกทางให้กับพวกเขา แต่พอเธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าเฉินเหลียนเดินมุ่งหน้ามาทางนี้
เฉินเหลียนรีบสาวเท้ามุ่งหน้าเดินมาทางด้านนี้ ในแววตาของเธอมีแค่เฉินเจียฉินเท่านั้นเอง แถมยังไม่ได้สังเกตมู่น่อนน่อนด้วยซ้ำ
“เสี่ยวฉิน ทำไมลูกถึงออกจากบ้านมาคนเดียวล่ะ? ลูกไม่รู้หรือยังไงว่าแม่เป็นห่วงลูกมากขนาดไหนกัน” เฉินเหลียนเดินเข้ามาหา และค่อยๆ ประเมินเขาอย่างละเอียด เหมือนเป็นการมองว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจำพวกนั้น
“ร่างกายของผมครบ 32 สมองก็ปกติดี ตอนนี้ก็อายุ 15 ปีแล้ว ในบางประเทศถือว่าบรรลุนิติภาวะไปแล้ว ทำไมถึงออกจากบ้านคนเดียวไม่ได้ล่ะ?”
มู่น่อนน่อนฟังความหมายออก น้ำเสียงของเฉินเจียฉินเป็นการแขวะกลับอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการชี้เฉพาะมายังเฉินเหลียนที่เป็นแม่บังเกิดเกล้าแท้ๆ
เฉินเหลียนที่ใบหน้าซีดเผือดอยู่ก่อนแล้ว พลันใบหน้าขาวโพลนหนักกว่าเก่า “แม่แค่เป็นห่วงลูกเท่านั้นเอง’
“ผมสบายดี ไม่จำเป็นต้องมาคอยเป็นห่วง คุณกลับไปได้แล้ว” เฉินเจียฉินพูดจบ ก็หันหน้ามามองมู่น่อนน่อนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...