ตอนที่ 99 ขุดเธอออกมา
ความงุนงงในสีหน้าของมู่น่อนน่อนลึกขึ้นทุกที“หาฉันมีธุระอะไรคะ”
แต่เธอก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ๆจะคุย จึงดึง“เฉินเจียฉิน”ออกไปข้างนอก
เฉินถิงเซียวค่อยๆดึงเธอออกไป เพราะว่าตัวสูงขายาว เขาเดินก้าวเดียวเท่ากับเธอเดิน
สองก้าว แบบนี้ทั้งตัวเขาก็ให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัด
“หาฉันมีธุระอะไรหรือคะ”พอออกมาจากบริษัทมู่ซื่อ มู่น่อนน่อนก็ถามคำถามนี้อีกรอบ
สำหรับเธอแล้ว “เฉินเจียฉิน”ไม่มีธุระก็ไม่มาหาเธอหรอก
“เฉินเจียฉิน”ไม่ได้ตอบคำถามเธอทันที แต่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
มู่น่อนน่อนร้องไห้ก่อนหน้า แม้ว่าตอนนี้อาจจะไม่เห็นคราบน้ำตาแล้ว แต่เฉินถิงเซียวก็ยังคงสังเกตเห็นว่าตาเธอนั้นบวม เป็นรอยแดงๆผิดปกติ
ร้องไห้มาเหรอ
เขาหรี่ตาเล็กน้อย เขาคิดเชื่อมโยง“มู่น่อนน่อน”กับ“ร้องไห้”ไม่ออกเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังอยู่บริษัทมู่ซื่อ เธอคงไม่ร้องไห้ต่อหน้ามู่ลี่เหยียนหรอกมั้ง
ผ่านไปแบบนี้ไม่กี่วินาที เฉินถิงเซียวจึงพูดออกมาว่า“ผ่านมา คุณเลี้ยงข้าวผมหน่อย”
แน่นอนว่าตอนพูดน้ำเสียงกวนประสาท
แต่ว่า“เฉินถิงเซียว”อย่างไรก็เป็นผู้มีพระคุณของเธอ ถ้าไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินไป มู่น่อนน่อนมักจะทำให้เสมอ
มู่น่อนน่อนพาเขาไปที่ร้านอาหารที่ไกลออกไปจากบริษัทหน่อย จะได้ไม่ต้องเจอเพื่อนร่วมงาน ไม่ต้องมีเรื่องยุ่งยาก
พอมาถึงร้านอาหาร หลังจากที่ทั้งคู่นั่งลง“เฉินเจียฉิน”แม้ว่าจะไม่พูดอะไร แต่มู่น่อนน่อนสัมผัสได้ว่าเขาไม่ค่อยจะชอบที่นี่นัก
ที่จริงมู่น่อนน่อนก็พอเข้าใจเขาอยู่
เขาเป็นคุณชายตระกูลใหญ่โต เวลากินข้าวก็ไปสถานที่แบบโรงแรมจีนติ่ง แทบจะจัดให้โรงแรมจีนติ่ง
เป็นห้องอาหารที่บ้านได้อยู่แล้ว
แต่เขาจะให้เธอเลี้ยงข้าวเองนี่ ร้านแบบนี้กินมื้อนึงก็เป็นร้อยอยู่นะ สำหรับเธอแล้ว……ก็ยังนับว่าแพง
มู่น่อนน่อนคิดมาถึงตรงนี้ จึงแอบลูบกระเป๋าตังค์ตัวเอง สีหน้าปวดใจนิดหน่อย
เฉินถิงเซียวสังเกตเห็นสีหน้ามู่น่อนน่อน จึงแอบยิ้มขึ้น แน่นอนเขารู้ว่าเธอจน
แต่ก็ยังจะให้เธอเลี้ยงข้าว เอาเปรียบเธอหน่อย สำหรับเขาเป็นเรื่องสนุก
บริกรมารับออเดอร์ มู่น่อนน่อนเลื่อนเมนูอาหารไปตรงหน้า“เฉินเจียฉิน” “คุณเลือกก่อน”
“เฉินเจียฉิน”ก็ไม่เกรงใจ พอเปิดเมนู ก็อ่านชื่ออาหารออกมาสามอย่างรวดเดียว
มู่น่อนน่อนรู้ ด้านหน้าของเมนูเป็นอาหารขึ้นชื่อของทางร้านทั้งนั้น มีแต่ของแพงๆ
เฉินถิงเซียวพลิกไปด้านหลัง สั่งน้ำแกงมาอีกอย่าง จากนั้นเงยหน้ามองมู่น่อนน่อน ถามอย่างจริงจัง“ผมสั่งมากไปมั้ย”
มู่น่อนน่อนส่ายหน้า“ไม่มาก……”
เธอจำได้คราวที่แล้วที่กินข้าวด้วยกันที่โรงแรมจีนติ่ง กินกันสี่ห้าคน อาหารเต็มโต๊ะ ไม่น้อยหน้าอาหารราชวงศ์แมนจูเลย
เฉินถิงเซียวพยักหน้าอย่างจริงจัง“งั้นผมสั่งอีกสอง”
มู่น่อนน่อน“……”
เฉินถิงเซียวมองดู ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่มีอะไรน่ากินแล้วอ่ะ”
จากนั้นเขาจึงยื่นเมนูส่งให้มู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนที่จริงเป็นคนง่ายๆ สองคนกับข้าวสามอย่างน้ำแกงหนึ่งอย่าง เธอก็รู้สึกว่า
เพียงพอแล้ว
แต่ว่านั่งต่อหน้าคุณชายอย่าง“เฉินถิงเซียว” ก็เลยเพิ่มกับข้าวอีกสอง ของกินเล่นอีกหนึ่ง ไม่งั้นเธอจะรู้สึกทรมานเขาจนเกินไป
หลังจากสั่งกับข้าวเสร็จ มู่น่อนน่อนจึงลุกขึ้นไปห้องน้ำ
เฉินถิงเซียวมองดูเงาที่หายไปของเธอ แล้วเรียกบริกรมา ยื่นบัตรให้“คิดเงิน”
มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจลึกๆ ผ่อนคลายอารมณ์ พอกลับมาถึงโต๊ะอาหารที่“เฉินเจียฉิน”นั่งอยู่
อาหารขึ้นมาหลายอย่างแล้ว “เฉินเจียฉิน”ไม่ได้แตะต้องตะเกียบแม้แต่น้อย หยิบมือถือไม่รู้ทำอะไร
รู้สึกเหมือนมีคนมา เขาเงยหน้าขึ้น แววตาค่อยๆหยุดลงบนหน้ามู่น่อนน่อน จากนั้นวางมือถือลง แล้วเอ่ยปากขึ้น“ผมกำลังจะโทรหาสือเย่”
มู่น่อนน่อนทำสีหน้าแปลกใจ“โทรทำไม”
“เฉินเจียฉิน”พูดจริงจัง“ให้เขาพาคนไปขุดคุณออกมาจากส้วม”
มู่น่อนน่อน“……”
เอาเถอะ เธอไปห้องน้ำตั้งยี่สิบนาที
มู่น่อนน่อนไม่ตอบ “เฉินเจียฉิน”อาจจะรู้สึกเบื่อ เลยไม่พูดอะไร และก็ไม่ค่อยกินอะไร
ตอนคิดเงิน บริกรยื่นบัตรให้มู่น่อนน่อน“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชายชำระเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งหมดหกร้อยแปดสิบหยวนค่ะ”
“สามีฉันเหรอ”
มู่น่อนน่อนยังไม่ทันตั้งตัวว่าบริกรหมายถึง“เฉินเจียฉิน” คนที่เธอคิดถึงคนแรกคือเฉิน ถิงเซียว
เธอหันไปถาม“เฉินเจียฉิน” “พี่ชายคุณมากินที่นี่ด้วยเหรอคะ”
“เฉินเจียฉิน”เดิมทีสีหน้าไร้ความรู้สึก จู่ๆก็นิ่งขรึมขึ้น หมุนตัวก้าวเท้าออกไป
ก้าวเท้าออกไปราวพายุ เดินเร็วมาก
เฉินถิงเซียวรู้สึกว่า ถ้าเขาไม่เดินให้เร็วกว่านี้ อาจจะอดใจไม่ไหวซัดมู่น่อนน่อนเข้าสัก
เปรี้ยง
บริกรมารู้ตัวว่าเข้าใจความสัมพันธ์ของลูกค้าทั้งคู่ผิด เลยรีบอธิบาย“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าพวกคุณเป็นสามีภรรยากัน เมื่อกี้คุณผู้ชายท่านนั้นจ่ายเงินค่ะ”
มู่น่อนน่อนตกตะลึง จึงรีบรับบัตรวิ่งตามออกไป
“เฉินเจียฉิน”ไม่ได้ไปไกล ตอนที่มู่น่อนน่อนวิ่งตามไป เขากำลังรับโทรศัพท์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...