หลังจากที่เผยจิ้นโม่เดินจากไปได้ไม่นาน คนของคุณหญิงเผยก็ได้มาถึง ส่งสิ่งของทั้งหมดที่ประมูลได้ในงานเลี้ยงนั้นได้มาหมด
รวมถึงภาพวาดนั้นด้วย
เมื่อนึกถึงสนามรบในค่ำคืนนี้ เย่ชิงหลีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุก พวกเธอในตอนนี้...นี่มันสถานการณ์อะไรกันเนี่ย?
เธอและเผยจิ้นโม่มองหน้ากันไม่ติด? คุณหญิงเผยและเผยจิ้นโม่มองหน้ากันไม่ติด?
สนามรบนี่ ถือว่าเป็นของเผยจิ้นโม่หรือเปล่า...!?
“ไม่คาดคิดว่าคุณหญิงเผยจะส่งสิ่งของมาเยอะขนาดนี้เลยนะคะ”ป้าเจิ้งมองดูสิ่งของเหล่านี้ พูดไม่ออกว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน
เย่ชิงหลี “ใช่ค่ะ!”
เรื่องนี้ เธอก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
ในการรับรู้ของเธอ คุณหญิงเผยเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยจะเข้ากันได้ง่ายๆมาโดยตลอด มีใบหน้าที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา
ท่าทีที่มีต่อเธอนั้นชัดเจนเป็นพิเศษ ในตอนที่เธอและเผยจิ้นโม่แต่งงานกันนั้น เธอที่เป็นแม่สามีก็ไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเลย
แต่การกลับมาครั้งนี้ แม้ว่าเย่ชิงหลียังคงรู้สึกว่าเธอมีท่าทีที่เย็นชาเช่นเคย แต่ว่า...เมื่อเทียบกับเผยจิ้นโม่แล้ว ทางเธอจะดีกว่าเยอะเลย
สายเรียกเข้าจากเผยเยว่
“พี่สะใภ้รองคะ วันนี้คุณแม่กลับมาแล้วดูอารมณ์ดีไม่น้อยนะคะ”
“หืม?”แตกคอกันกับลูกชายตัวเองแล้ว อารมณ์ดีได้อยู่อีกหรือ
เผยเย่วได้กล่าว “พี่สะใภ้รองคะ ครั้งนี้ฉันไปเมืองซีโจวกับพี่ได้ไหมคะ?”
“เธอก็ไปหรือ?”
“ใช่ค่ะ ฉันก็ไปด้วยค่ะ ฉันอยากไปเจอคนคนหนึ่ง”
เย่ชิงหลี “...”ดูเหมือนว่าเด็กจะโตแล้วนะ
“ฉันอยู่ทางนั้นคงไม่มีเวลามากพอที่จะมาดูแลเธอนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสามารถดูแลตัวเองได้ค่ะ ฉันแค่ต้องการเดินทางพร้อมกับพี่ค่ะ”
“โอเคค่ะ!”
ในเมื่อได้พูดเช่นนี้แล้ว เธอยังคงปฏิเสธอีกละก็ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีมากนัก ดังนั้นเย่ชิงหลีจึงได้ตอบตกลงทันที
“พี่เห็นข่าวหรือยังคะ?”
“มีอะไรหรือคะ?”
“ฉางซินเอ๋อร์ถูกชาวเห็ตด่ายับเลยค่ะ!”ในตอนที่พูดคำนี้นั้น น้ำเสียงของเผยเย่วเต็มไปด้วยความสะใจ เห็นได้ชัดว่าดีใจอย่างมาก
เย่ชิงหลีรับรู้
คนในตระกูลเผย นอกจากคุณหญิงเผยที่ดูมีท่าทีที่เย็นชาแล้ว นอกนั้นทุกคนต่างชื่นชอบเธอหมดเลย
แต่ว่าการมีอยู่ของฉางซินเอ๋อร์ ช่างทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย! แม้ว่าตระกูลใหญ่เช่นนี้จะเห็นมามากพอ แต่ก็ปฏิเสธจากใจจริงเช่นกัน
เย่ชิงหลี “เย่วเย่ว”
“คะ?”
“ความสัมพันธ์ระหว่าพี่รองเธอกับฉางซินเอ๋อร์นั้น เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ...”และอีกอย่าง เริ่มต้นอย่างไรหรือ?
เรื่องนี้เย่ชิงหลีไม่เคยมีความชัดเจนมาโดยตลอด
ฉางซินเอ๋อร์เรียนโรงเรียนเดียวกับเธอตอนมัธยมมาโดยตลอด ในช่วงมัธยมนั้นเธอไม่มีแฟนเลย เรื่องนี้เธอรู้อยู่แล้ว
สวนตัวเองได้แต่งงานกับเผยจิ้นโม่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย
และเห็นได้ชัดว่าเผยจิ้นโม่กับฉางซินเอ๋อร์มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันอีก มันมีได้อย่างไรละ!?
“พี่ไม่รู้หรือคะ?”เผยเย่วที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ได้พูด เมื่อได้ยินเย่ชิงหลีถามถึงเรื่องนี้ ตกตะลึงอย่างมากที่เรื่องใหญ่โตเช่นนี้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองสามีภรรยานั้นต่างไม่รู้กันเลย
ทั้งตระกูลเผย ต่างรู้กันหมด!
โดยเฉพาะคุณแม่...!
“คืออะไรหรือคะ?”เย่ชิงหลีไม่ใช่คนที่ขี้สงสัยง่ายๆ แต่ว่าตอนที่เผยเย่วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึงนั้น
เธอก็สงสัยเกี่ยวกับเรื่องของเผยจิ้นโม่ขึ้นมาทันที
-เมื่อสามปีก่อน...
ในตอนที่เธอรู้จักชื่อฉางซินเอ๋อร์นั้น ก็เป็นฉีลั่วที่บอกกับเธอบนรถ ในตอนนั้นเธอสิ้นหวัง ท้อแท้ ท้ายที่สุดก็ได้ทำเรื่องแบบนั้นบนสะพานแม่น้ำลี่ขึ้นมาจนได้
ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป รู้สึกไม่คุ้มค่าเลยสักนิด!
หลังจากนั้นทางเมืองเสว่เฉิง เธอได้บล็อกทุกอย่างที่เกี่ยวกับเผยจิ้นโม่โดยอัตโนมัติ
“เรื่องนั้น เกิดขึ้นช่วงประมาณที่พี่รองอายุ24ปี คืนหนึ่งเขาถูกผู้อื่นคิดร้ายในงานเลี้ยงนั่น และรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางไป”
หลายปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกของเธอที่นั่งอยู่ท่ามกลางความมืด ณ ตอนนั้นรู้สึกเพียงเหมือนมีอสูรที่มีดวงตาแดงก่ำได้จ้องมองมาที่ตัวเองในความมืดนั้น
ชาไปหมดทั้งตัว ขนลุกไปหมดทั้งตัว
ท้ายที่สุดเย่ชิงหลีก็ทนไม่ได้จนต้องเปิดไฟ...! ความรู้สึกที่น่ากลัวอย่างมาก
นั่นเป็นคืนฝนตกที่เธอไม่ต้องการนึกถึงอีกในทั้งชีวิตนี้เลย คืนฝนตกนั้น ได้พาเธอจมดิ่งสู่เหวลึก และฝันร้ายที่ไม่จบสิ้น
ไม่มีใครรู้เลย ว่าคนในครอบครัวพยายามมากแค่ไหน ในการพาเธอเดินออกมาจากฝันร้ายนั่น
ในระยะเวลาสองปี ได้ไปพบจิตแพทย์หลายต่อหลายคน ได้ทำจิตบำบัดหลายต่อหลายครั้ง เธอแทบจะลืมมันไปหมดแล้ว
ในค่ำคืนนี้...
เย่ชิงหลีถูกฝันร้ายนั่นตามหลอกหลอนตลอดทั้งคืนอีกครั้งหนึ่ง
แต่หลังจากผ่านค่ำคืนนั้นไปแล้ว ราวกับเธอไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้น ตื่นมาอีกครั้ง ก็ยังคงไม่ส่งผลต่ออารมณ์ที่ดีของเธอเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น
เย่ชิงหลีกินอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นไม่น้อย ป้าเจิ้งได้มองดู นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกินอร่อยเช่นนี้หลังจากที่กลับมาแล้ว
“วันนี้คุณหนูน้อยดูอารมณ์ดีมากเลยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ!”
“มีเรื่องอะไรที่น่าดีใจหรือเปล่าคะ?” ป้าเจิ้งนึกไม่ออกเลยสักนิด ในตอนนี้ด้านนอกเต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์
เย่ชิงหลียังสามารถดีใจได้ขนาดนี้เลยหรือ!
เย่ชิงหลี “เพราะว่าในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็ตอบตกลงที่จะหย่าแล้วค่ะ”
เมื่อป้าเจิ้งได้ยินเช่นนี้ ก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ในไม่ช้าก็รู้สึกปล่อยวาง “หย่าก็ดีแล้วค่ะ อันที่จริงการเป็นผู้หญิงนั้นไม่ได้มีเพียงทางเลือกเดียวในการใช้ชีวิตเลยค่ะ หากคุณหญิงยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องสนับสนุนคุณแน่นอนค่ะ”
เย่ชิงหลี “...”
คุณยายไม่มีความมั่นใจกับชีวิตแต่งงานที่สุด
หากว่าตอนนั้นคุณยายสามารถผ่านตรงนั้นมาได้ละก็ เธอคงจะไม่แต่งงานเช้าขนาดนั้น มากไปกว่านั้นคือคุณยายก็สามารถสนับสนุนเธอไม่ต้องแต่งงานได้อีก
เห็นได้ชัด ว่าคุณตาในตอนนั้นได้ทำร้ายคุณยายในชีวิตแต่งงานมากแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า
แอดมิน...กลับมาต่อเรื่องด้วยจ้า😁😁😁...