เย่ชิงหลีโกรธไม่เบา!
เวลาของเธอในตอนนี้นั้นเหลือน้อยแค่ไหนมีแต่เธอที่รู้ เดิมทีคิดไว้ว่าสามารถจัดการกับเรื่องนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนไปเมืองซีโจว
แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเรื่องที่เผยจิ้นโม่ได้ตอบตกลงไว้นั้น ยังสามารถเปลี่ยนได้อีก
เสียเวลาทั้งช่วงเช้าของเธอเลย!
ป้าเจิ้งเห็นเธออารมณ์ดีเมื่อตอนที่ออกไปช่วงเช้าอยู่เลย พอกลับมาตอนนี้กลับมีท่าทีที่โกรธเช่นนั้น
“คุณหนูน้อยเป็นอะไรหรือคะ?”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ ก็แค่เจอคนบ้าเท่านั้นเอง!”ด่าเผยจิ้นโม่นั่นแหละ
ป้าเจิ้งมองดูเธอโกรธขนาดนี้ รู้สึกตะลึงเล็กน้อย...!
มันทำให้เห็นถึงความเป็นจริงว่า ผู้หญิงคนหนึ่งหากไม่พบเจอกับสามีที่ดี นิสัยของเธอก็จะเปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อก่อนเย่ชิงหลีอ่อนโยนขนาดไหน?
ในใจของป้าเจิ้ง เธอเป็นผู้หญิงที่สง่างามเหมือนเจ้าหญิง แต่ตอนนี้ถูกเผยจิ้นโม่บีบบังคับจนกลายเป็นคนที่โกรธแบบไหนก็ทำแบบนั้นเลย
ในตอนเที่ยง
เผยจิ้นโม่ทำตามสิ่งที่พูดจริงๆ เขาได้มาแล้ว!
เย่ชิงหลีมองดูผู้ชายที่วางกล่องของขวัญอันงดงามไว้ตรงหน้าเธอ “นี่จะทำอะไร?”
“ให้เธอครับ”
เย่ชิงหลี “...”ช่างเป็นประวัติการณ์เลยจริงๆ!
เพราะว่าหลังจากที่พวกเธอได้แต่งงานกันก็ไม่เคยมีของขวัญให้กันเลย คนอื่นพอแต่งงานแล้วต่างมีของขวัญวันเกิด ของขวัญวันครบรอบ แม้กระทั่งวันวาเลนไทน์ก็จะทำพิธีต่างๆนานา
แต่ในตอนนั้นสิ่งที่เธอได้รับนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากความรับผิดชอบ ท้ายที่สุดแม้แต่ความรับผิดชอบอันน้อยนิดที่น่าสงสารนั่นก็ถูกเอาคืนไป
ตอนนี้คือ?“ของขวัญหย่าหรือ?”
เธอไม่ต้องการของขวัญอะไรเลย การหย่าอย่างรวดเร็วดีกว่าของขวัญอะไรทั้งนั้น
ตอนเช้าไม่ปรากฏตรงตามเวลา ตอนนี้ถือของขวัญมาทำเป็นพิธี คิดว่าคนอื่นจะสนหรือ!?
ทันทีที่พูดจบ!
สีหน้าของผู้ชายก็เคร่งขรึมเล็กน้อย
“ชิงหลี อย่างี่เง่าแล้วได้มั้ย”แม้ว่าสีหน้าจะเคร่งขรึม แต่น้ำเสียงยังคงพยายามระงับความโกรธเอาไว้อยู่
เย่ชิงหลีเลิกคิ้ว!
สำหรับท่าทีเช่นนี้ของเผยจิ้นโม่นั้น เห็นได้ชัดว่าเธอดูไม่ออกเล็กน้อย และยิ่งไม่เข้าใจไปอีก นี่หมายความว่าอะไร?
“นายคิดว่าฉันกำลังงี่เง่ากับนายอยู่หรือคะ?”วุ่นวายไปตั้งนาน ยังคิดว่ากำลังงี่เง่าอยู่อีกหรือ?
เผยจิ้นโม่มองไปทางเธอ ด้วยสายตาที่เย็นชาและจริงจัง “ทุกเรื่องควรรู้จักพอเหมาะนะครับ เธอเปลี่ยนไปเยอะจริงๆในสามปีที่ผ่านมา แต่มันไม่ได้หมายความว่าสามารถใช้วิธีนี้ในตัวผู้ชายคนอื่นได้ ก็สามารถมาใช้ในตัวฉันได้นะครับ!”
เย่ชิงหลี “...”
ครืนๆ!
รู้สึกเหมือนกับว่าโลกของตัวเองแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว
ผู้ชายคนนี้ สรุปแล้วกำลังพูดอะไรกันแน่!?
“ฉันใช้วิธีอะไร จำเป็นต้องให้นายมายุ่งด้วยหรือ?”
“ฉันไม่ยุ่งครับ แต่ในภายหลังไม่ต้องใช้วิธีเหล่านี้อีกนะครับ ฉันไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นเพื่อมางี่เง่ากับเธอ!”
ผู้ชายมีสีหน้าที่เคร่งขรึม ได้หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินข้าว
แม้จะพูดว่ามากินข้าวเที่ยงกับเธอ แต่ด้วยท่าทีเช่นนี้หรือ?และอีกอย่าง เขา...ใช้น้ำเสียงที่เย็นเยือกนี้พูดคำพูดที่ทะนุถนอม หมายความว่ายังไงกันแน่?
เย่ชิงหลีสับสนไปหมดแล้ว
มองดูผู้ชายที่กำลังกินอย่างสง่านั้น ไม่สามารถโต้ตอบได้เป็นเวลานาน
เมื่อเผยจิ้นโม่เห็นเย่ชิงหลีไม่แตะตะเกียบเลย คิ้วนั่น...ได้ขมวดเข้าด้วยกัน สุดท้ายได้คีบเนื้อวัวชิ้นหนึ่งใส่ลงในชามเล็กของเธอ
ในขณะนั้น เย่ชิงหลีก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที มองดูชามเล็กนั่นราวกับว่ากำลังดูอาหารบนโต๊ะที่จิ่นซานเช่นนั้น
หนังศีรษะแข็งและชาไปหมด!
“ปัง...”เสียงดังออกมา ชามเล็กได้ตกพื้นทันที
เมื่อป้าเจิ้งและพ่อบ้านเห็นเช่นนี้ ก็ต่างตกตะลึงกันหมด!
เพราะว่าพวกเขาไม่เคยเห็นเย่ชิงหลีอารมณ์เสียแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
เผยจิ้นโม่ที่ได้ยินเสียงที่เสียดหูนี้ แล้วมองดูชามที่พังทลายและยุ่งเหยิงบนพื้น ใบหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง
สายตาที่มองไปทางเย่ชิงหลีนั้น ก็จริงจังขึ้น และเย็นเยือกขึ้น!
บรรยากาศ ได้เงียบสงบลงทันที
และเผยจิ้นโม่รู้สึกถึงคนในอ้อมแขนที่ตัวสั่นอยู่
ได้อุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอนทันที
“นายปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ!”เย่ชิงหลีพยายามดิ้นรน และสุดท้ายเผยจิ้นโม่ก็ได้ปล่อยเธอ
ทันทีที่ได้รับอิสระนั้น เย่ชิงหลีหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องนอน และมองดูเผยจิ้นโม่ด้วยความตื่นตัวพร้อมตัวสั่น
ได้ยินเพียงเธอที่พูดอย่างปากสั่นว่า “เผยจิ้นโม่ หากนายกล้าทำร้ายฉันอีกละก็ ฉันจะฆ่านายแน่!”
เธอตะโกนด้วยความโกรธ
และทันใดนั้นเผยจิ้นโม่ก็ตั้งสติขึ้นมาได้สักที ทำไมเธอถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้ เพราะว่า...เมื่อสามปีก่อนนั่นเอง
เมื่อสักครู่ตอนที่คีบอาหารให้เธอนั้น ทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่จิ่นซานตอนที่เผยจิ้นโม่อ่อนโยนต่อเธอขึ้นมา!
แต่เธอไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากอันอ่อนโยนนั้น มียาพิษอยู่
ถ้าบอกว่าคืนฝนตกตอนเธออายุสิบแปดคือฝันร้ายในชีวิตแล้ว งั้นเมื่อสามปีก่อน...ผู้ชายคนนี้ก็เป็นฝันร้ายของเธอเช่นกัน
ใช้ความตายเพื่อมาต่อต้านผู้ชาย ไม่มีใครรับรู้ว่าเธอต้องใช้ความแข็งแกร่งแค่ไหนในการเผชิญหน้ากับเขา มาต่อต้านเขา!
แต่เมื่อความทรงจำบางอย่างโผล่ขึ้นมา ความรู้สึกลึกๆในใจของเธอได้ทะลักออกมา และไม่สามารถระงับได้
ในไม่ช้าคุณหมอก็ได้มาแล้ว
หมอประจำครอบครัวที่ป้าเจิ้งเรียกมานั้นเป็นหมอเมื่อตอนที่พ่อแม่ของเย่ชิงหลียังอยู่ และเขา...ก็รู้สถานการณ์ของเย่ชิงหลีเป็นอย่างดี
เย่ชิงหลีหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
ได้ตากแดดมาครึ่งวันและยังเป็นหวัดเล็กน้อย
ด้านนอกห้องนอนนั้น คุณหมอได้ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่ต้องยั่วยุเธอจะดีกว่านะครับ เรื่องในปีนั้นดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว แต่อันที่จริงเรื่องความทุกข์ใจนั้น สามารถอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตเลยครับ!”
สามารถพูดได้เพียงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความเจ็บปวดในใจค่อยๆจางหาย แต่บางความทรงจำไม่มีความสุขก็คือไม่มีความสุข
พอนึกได้อีกครั้ง ก็เหมือนว่าแผลเก่าที่ตกสะเก็ดถูกฉีกออก ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดกว่าเดิม
เผยจิ้นโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูเย่ชิงหลีที่อยู่ข้างใน เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงแค่เรื่องของเธอนั้น ยังมีเมื่อสามปีก่อนอีกด้วย...!
เมื่อสักครู่เธอถึงได้มีปฏิกิริยาที่รุนแรงเช่นนั้นได้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเมื่อสามปีก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า
แอดมิน...กลับมาต่อเรื่องด้วยจ้า😁😁😁...