ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 21

จู่ๆเสียงที่รุนแรงและไม่พอใจก็ดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ

ทำลายบรรยากาศที่หมิ่นเหม่นี้

ลู่ฮั๋วเดินเข้าไปหาด้วยใบหน้าที่มืดมน แยกคนทั้งสองออกจากกัน จากนั้นก็เหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของเฟิงยู่เหนียน

เฟิงยู่เหนียนหลบไม่ทัน รู้สึกถึงความเจ็บปวด ถูกหมัดที่รุนแรงกระแทกเข้ามาอย่างจังจนถอยร่นไปสองก้าว

เขาเม้มปากแน่น แล้วยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกจากมุมปาก

เซิงเกอถูกลู่ฮั๋วบังตัวไปไว้ข้างหลัง เห็นเขาถูกทำร้าย แววตาที่มีความกังวลเพียงชั่วขณะ ถูกแทนที่ด้วยความสะใจ ขาดก็แต่เสียงโห่ร้องดีใจเท่านั้น

กล้ามารังแกเธอ ถูกอัดแค่นี้ก็ถือว่าน้อยไป!

คนชั่วแบบนี้ควรเอาให้ตาย !

“ได้ข่าวว่าประธานเฟิงมีแฟนใหม่แล้ว แต่ยังมาก้อร่อก้อติกอดีตภรรยาอีก แบบนี้มันไม่ดีเลยนะครับ ?”มุมปากลู่ฮั๋วยกหยัก กลับคืนสู่ความอ่อนโยนและความสง่า ราวกับคนที่ทำร้ายคนอื่นเมื่อครู่ไม่ใช่เขา

เฟิงยู่เหนียนช้อนตาขึ้นมอง ถึงแม้ใบหน้าจะได้รับบาดเจ็บและมีเลือดออก แต่เขาก็ไม่ได้ดูด้อยไปกว่าลู่ฮั๋วแต่อย่างใด

“อดีตภรรยาก็เป็นภรรยา แล้วประธานลู่ใช้สิทธิ์อะไรมาปกป้องอดีตภรรยาของผมครับ ?”

เขาจงใจเน้นคำว่า“ของผม”ในประโยคสุดท้าย ราวกับสิงโตผู้เย่อหยิ่ง ที่ต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูที่ต้องการเหยื่อของตัวเอง แสดงอำนาจอย่างไม่กลัวเกรง

สิทธิ์ของการเป็นพี่ชายเธอ!

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ฮั๋วค่อยๆนิ่งลง

แต่คำพูดนี้กลับไม่ได้พูดออกไป เพราะเซิงเกอคว้ามือเขาเอาไว้แน่น

เขาเค้นเสียงหึในลำคอ“ ประธานเฟิงนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ เซิงเกอเป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเอง เธอมีสิทธิ์จะเลือกหรือไม่เลือกใคร ประธานเฟิงมีสิทธิ์อะไรมาคิดว่าเธอเป็นสมบัติของตัวเอง?”

ทั้งสองคนจ้องมองสบตากัน ออร่าที่ต่างสูสีกัน และไม่มีใครยอมใคร

สายตาราวกับจะฟาดฟันกัน อดไม่ได้ที่อยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย แต่จนแล้วจนรอดต่างก็ล้มคู่ต่อสู้ลงไม่ได้

กลิ่นของดินปืนอบอวลไปทั่วทั้งโรงรถ

เซิงเกอแทบสำลักกับกลิ่นดินปืนนี้ ทำงานมาทั้งวัน เธอก็เหนื่อยมากแล้ว อยากจะจบการรบราฆ่าฟันกันนี้ให้เร็วที่สุด

เธอกระแอมไอเสียงดัง “ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก คุณลู่กับคุณเฟิงแยกย้ายกันเถอะนะคะ ”

เมื่อเฟิงยู่เหนียนเห็นเธอกำลังจะจากไปเดินเข้าไปหาแล้วคว้าตัวเธอเอาไว้

ลู่ฮั๋วขยับเข้าไปหา ขวางเธอเอาไว้ แววตามีไอเย็นแผ่ซ่าน กำลังส่งสัญญาณเตือน

เพราะอยู่ในถิ่นที่ทำงานของเขา เฟิงยู่เหนียนก็จึงไม่กล้าดื้อแพ่งเท่าไร มองไปยังเซิงเกอแล้วยกยิ้ม “คุณน่าจะยังไม่ได้ทานข้าว ? เราไปทานข้าวกัน แล้วพูดคุยกันหน่อยเป็นไง ?”

เซิงเกอแทบไม่ต้องคิด

“ฉันไม่หิว ไม่กิน ไม่คุยอะไรทั้งนั้น !”

ใบหน้าของเฟิงยู่เหนียนมืดมนทันทีแต่ลู่ฮั๋วกลับหลุดขำออกมา

เจ้าหญิงน้อยของเขาช่างพูดจาฉะฉานเสียจริง !

ราวกับชนะไปยกหนึ่ง ลู่ฮั๋วจ้องมองเฟิงยู่เหนียนอย่างท้าทาย ถามเซิงเกอว่า “แม่สาวน้อย ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ผมไปส่งคุณแล้วกันนะ?”

เซิงเกอหันมอง เปลวเพลิงแห่งสงครามจากสายตาของสองหนุ่มกำลังจะลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

เธอหมดคำพูด เอาอีกแล้ว……

หวังเหลือเกินว่าสวรรค์จะช่วยจัดการกับสองหนุ่มนี้ซะ เธอจะได้สบายหูขึ้นบ้าง

เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ ไม่ต้องค่ะ พอดีเลยฉันจะได้สำรวจเส้นทางไปด้วย”

พูดจบ เธอก็ขึ้นรถซานตานาคันหนึ่ง แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนชายหนุ่มทั้งสองคนในลานจอดรถก็ยังคงเขม่นกันอยู่

เพราะเซิงเกอไม่ได้ตอบตกลงกับคำชวนของลู่ฮั๋ว เฟิงยู่เหนียนก็จึงได้แต้มคืน เขายกยิ้มอย่างมีเลศนัย “ ดูๆไปแล้วประธานลู่ก็ไม่ได้รู้จักอดีตภรรยาของผมดีพอนะครับ ”

ลู่ฮั๋วชำเลืองมองอย่างเย็นชา “ผมกับเธอ โตมาด้วยกัน สนิทกันมากกว่าคุณ”

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฟิงยู่เหนียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

เมื่อลู่ฮั๋วเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ก็รู้สึกลำพองใจอย่างมาก“ ขอเตือนประธานเฟิงว่าให้ดูแลคนที่อยู่ตรงหน้าตัวเองจะดีกว่า อย่าไปให้ความสนใจกับคนที่ไม่มีวันจะได้กลับคืนเลย”

พูดจบ ลู่ฮั๋วก็ก้าวเท้ายาวเดินตามฮัวหยุนขึ้นไปยังชั้นบน

โชคดีที่ครั้งนี้เขาเห็นมันผ่านกล้องวงจรปิดซะก่อน ออกคำสั่งให้ปิดทางเข้าออกของลานจอดรถชั้นล่างสุดทันที ไม่ให้พนักงานคนไหนเข้าไป ไม่อย่างนั้นเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาก็คงจะต้องเสียเปรียบอีกเป็นแน่

เซิงเกอเร่งความเร็ว ตั้งใจจะหาถนนที่ซับซ้อนกว่านี้เพื่อสลัดเขาทิ้ง

รถคันหลัง หลิวเหนียนเอ่ยถาม “ บอสครับ คนของเราได้ส่งสัญญาณก่อกวนจีพีเอสของคุณเซิงแล้ว แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วว่าพวกเราขับตามอยู่ ไม่ได้ขับไปในทิศทางที่เรากำหนดเอาไว้ เธออยากจะสลัดเราทิ้ง”

เฟิงยู่เหนียนจ้องเขม็งมองรถซานตานาสีเขียวตรงหน้า ในใจราวกับมีเปลวไฟที่มองไม่เห็นก่อกวน

เธอเย่อหยิ่ง!และถือตัวมาก!

ครั้งนี้ไม่มีลู่ฮั๋วคอยขัดขวาง เขาจะต้องลงมือจัดการให้ได้

หากไม่สั่งสอนเธอให้หลาบจำ ให้รู้ซึ้งถึงผลของการแข็งข้อกับเขา เขาก็จะเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลให้ดู !

“เร่งความเร็ว หาโอกาสขับแซงเธอ แล้วบังคับให้รถของเธอหยุดด้วยความปลอดภัย”

“ครับ”

รถทั้งสองคันขับไล่บี้กันด้วยความเร็วบนท้องถนน

รถซานตานาของเซิงเกอ จะไปสู้กับรถสปอร์ตลัมโบร์กีนี ฮูราแคนของเฟิงยู่เหนียนได้ยังไง ความเร็วของรถทั้งสองคันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

เมื่อเห็นรถของเฟิงยู่เหนียนกำลังจะไล่ตามทัน และคาดว่าน่าจะขับแซงเธอไป

เซิงเกอกัดฟันแน่น ตั้งสมาธิสำรวจมองไปยังทางแยกต่างๆ สายตามองเห็นสัญญาณไฟจราจรข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกล

เธอขบริมฝีปากแน่น มีแผนอยู่ในใจ

ก่อนถึงเส้นทึบของเลนถนนในช่วงหนึ่งเมตรสุดท้าย เธอหักหัวรถอย่างเร็ว แล้วขับไปในเลนซ้าย จังหวะสัญญาณไฟเหลืองในวินาทีสุดท้าย เหยียบคันเร่งจนมิด แล้วพุ่งทะยานออกไป

ในตอนที่รถของเฟิงยู่เหนียนสังเกตเห็นเธอ ก็เป็นสัญญาณไฟแดงแล้ว

เซิงเกอมองผ่านกระจกมองหลังเห็นรถถูกบังคับให้หยุด และรถของตัวเองที่ออกห่างจากลัมโบร์กีนี ฮูราแคน ไปเรื่อยๆ ในใจก็ลิงโลดเป็นอย่างมาก !

คิดจะมาแข่งรถกับเธอ ?

อย่างเฟิงยู่เหนียนยังอ่อนหัดไป!

ในขณะที่เธอกำลังดีอกดีใจ ที่ทางแยกฝั่งซ้ายและขวาก็มีรถสีดำสองคันพุ่งออกมา ขับมาด้วยความเร็ว ลักษณะเหมือนจะหยุดรถเธอให้ได้

นี่ยังมีคนอื่นที่คิดจะเล่นงานเธอด้วยงั้นเหรอ ? !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!