ใบหน้าข่งซูแข็งค้าง ทันทีทันใดก็ยิ้มกว้างมากขึ้น
เธอแกล้งทำทีเป็นดึงเซิงเกอแยกออกมา แล้วกระซิบไปที่ข้างใบหูว่า“กรรมการสามท่านนี้เป็นผู้ที่มีอำนาจในเชิ่งซื่ิอ ศิลปินของบริษัทเราจะได้รับเลือกให้เป็นตัวแสดงนำหรือไม่ พวกเขาชี้นิ้วสั่งการได้เลย เวลาที่ ผอ. พูดอะไรอย่าไปล่วงเกินพวกเขาเชียว ”
เซิงเกอพยักหน้าให้ ใบหน้าไม่ได้แสดงออกใดๆ
ทั้งสองซุบซิบกันเสร็จ ก็หันกลับมาอย่างสุภาพ
กรรมการทั้งสามคนจ้องมองเซิงเกอตาไม่กะพริบ สายตามีไฟราคะลุกวาว เมื่อมองเซิงเกอแล้วถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลาย
“ผอ.เซิงช่างสมคำร่ำลือจริงๆ หน้าตาสวยไม่พอ หุ่นยังดีอีกด้วย”
กรรมการหวางหนึ่งในคนกลุ่มนั้นเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน
“ที่ไหนกัน กรรมการทั้งสามท่านต่างหากที่เป็นบุรุษเหนือบุรุษ” เซิงเกอยิ้มและตอบกลับอย่างสุภาพ
ข่งซูทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเองแล้วชวนกันนั่งลง
ยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วดื่มเพื่อเป็นเกียรติกับเซิงเกอ“นี่เป็นครั้งแรกที่ ผอ. ออกมาคุยงานเองหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง แก้วนี้ฉันขอดื่มเพื่อแสดงความยินดีกับคุณ ขอให้ประสบความสำเร็จทุกๆอย่าง”
ไวน์แดงแก้วหนึ่งถูกจับยัดไปที่มือของเซิงเกอ
เซิงเกอแกว่งแก้วไวน์ไปมาอย่างสง่างาม ปลายจมูกสูดดมกลิ่นเบาๆ“ Lafite ปี 1982 เป็นไวน์รสเยี่ยม”
เธอยิ้มและชนแก้วกับข่งซูเบาๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น กระดกทีเดียวหมดแล้ว
กรรมการหลิวประจบสอพลอ“ไม่คิดว่า ผอ.เซิงจะรู้ลึกเรื่องไวน์พวกนี้ด้วย ดื่มเก่งใช้ได้เลย ช่างมีเสน่ห์จริงๆ แก้วนี้ของผมคุณต้องให้เกียรติผมด้วยนะ ”
เซิงเกอถาม“วันนี้มาคุยกันเรื่องคัดตัวนักแสดงของเชิ่งซื่ิอไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมไม่เห็นกรรมการทั้งสามท่านพูดคุยเรื่องนี้กันเลย?”
กรรมการทุกคนไม่ได้ร้อนรน“ ต้องคุยอยู่แล้ว บนโต๊ะเหล้าดื่มก่อนแล้วค่อยคุย มันเป็นธรรมเนียมผอ.เซิงคงไม่ใช่คนที่ไม่รู้กาลเทศะหรอกมั้งครับ?”
กรรมการทั้งสามคนหัวเราะร่า ยกแก้วขึ้นแล้วมาชนแก้วกับเธอ
เซิงเกอไม่ปฏิเสธ ดื่มมันอยู่อย่างนั้นแก้วแล้วแก้วเล่า
……
เฟิงซื่อกรุ๊ปห้องทำงานของท่านประธาน
หลิวเหนียนเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา ยื่นเอกสารข้อมูลประวัติชีวิตของเซิงเกอให้อย่างนอบน้อม
“บอสครับ คนของเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดมาสามรอบ นี่เป็นข้อมูลล่าสุดที่ได้รวบรวมออกมา เชิญตรวจสอบครับ ”
เฟิงยู่เหนียนรับมันไป มองดูเอกสารนั้นไปมาอยู่หลายรอบ และขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในใบประวัตินี้ของเธอดูปรกติไม่มีข้อบกพร่องอะไร ชีวิตเรียบงานธรรมดาทั่วไป
แต่ในช่วงก่อนอายุสิบห้าในใบประวัติมีแค่คำว่าสถานสงเคราะห์ ไม่มีรายละเอียดอื่นกำกับ แม้แต่ถูกส่งไปอยู่สถานสงเคราะห์นานแค่ไหน ก็ยังเป็นปริศนา
บนโลกนี้ยังมีบุคคลที่แฮ็กเกอร์ฝีมือเยี่ยมยังหาตัวไม่เจออีกเหรอ?
หลิวเหนียนมองออกถึงความสงสัยที่เขามี ถามว่า“หรือให้พวกเขาตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้งไหมครับ ?”
“ไม่จำเป็น”
เฟิงยู่เหนียนปิดเอกสารลง แล้ววางมันรวมกับแฟ้มงานอื่น“เธอจงใจให้เราหาไม่เจอ หาต่อไปก็เปลืองแรงเปล่า แต่ชีวิตของเธอต้องไม่ธรรมดาแบบนี้แน่ ”
ขาวที่เรียวยาวของเขาเดินไปที่หน้าต่าง จุดบุหรี่มวนหนึ่งอย่างใจเย็น ดวงตามืดมน
หลิวเหนียนเปิดตารางงานบนไอแพด และถามว่า“บอสครับ คืนนี้บอสมีนัดทานข้าวที่นัดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะไปไหมครับ ?”
“ไป”
……
อาหารค่ำกับเชิ่งซื่ิอ
ทั้งสี่คนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันชนแก้วกับเซิงเกอ วนมาครบสามรอบแล้ว เซิงเกอยังไม่มีการปฏิเสธใครเลย
ไวน์แดงหมดไปหกขวด
แต่แล้ว ใบหน้าของเธอก็แค่ขึ้นสีเล็กน้อยเท่านั้น ภายใต้แสงไฟนี้มีความเย้ายวนเพิ่มมากขึ้น ดวงตากลมเด่นชัดกว่าปรกติ
ข่งซูส่ายหัวที่มีอาการมึน รู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย
ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะดื่มเก่งแบบนี้ ดื่มจนเธอกับกรรมการอีกสามคนมึนเมากันแล้วเล็กน้อย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย ?
บางคนก็ดื่มต่อกันไม่ไหวแล้ว
เมื่อเห็นเซิงเกอยังคงรินไวน์ใส่แก้วตัวเอง ในขณะที่พวกเขาไม่คิดจะมอมเธอแล้ว และยังยกดื่มจนหมดแก้วอีก
จากนั้น ดวงตาที่สุกใสคู่นั้นก็กวาดมองมาที่พวกเขาทีละคน รอยยิ้มสวยงาม ราวกับมีการเยาะเย้ยซ่อนอยู่
ยอมแล้ว!
เธอลุกขึ้นแล้วถือเอกสารในมือ เอนตัวไป ยื่นมันให้กรรมการจางได้ดู
กรรมการทั้งสามคนเห็นร่างกายที่แสนเย้ายวนของเธอ ก็ตะลึงตาค้างไปตามๆกัน
เนื่องจากไม่สะดวกในการจับถือ เซิงเกอจึงวางเอกสารไว้บนแก้วทรงสูงสองใบที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นก็ชี้ไปยังจุดที่มีปัญหา
ความคิดความอ่านของกรรมการทุกคนในตอนนี้กลับไม่ได้อยู่ที่เอกสารตรงหน้า หวังเพียงอยากจะคุยให้จบเร็วๆ
ไม่ว่าเซิงเกอจะเสนอหรือแสดงความคิดเห็นอะไร พวกเขาต่างก็เออออห่อหมกไปตามๆกัน
กรรมการจางเร่งรีบอยากจะยกแก้วอีกครั้ง“ผอ.เซิง ตอนนี้เรื่องงานก็ได้ข้อสรุปแล้ว เรามาชนแก้วกัน เพื่อดื่มฉลองให้กับความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นของเรา”
ทั้งสี่คนดื่มหมดในรวดเดียว และสายตาทุกคู่ก็มองไปยังเซิงเกออย่างคาดหวังและตื่นเต้น
ไวน์แดงสีเข้มมีกลิ่นที่หอมนิดๆและชวนมึนเมา
เซิงเกอยกแก้วขึ้นจรดไปที่ริมฝีปาก ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ยกกระดกหมดแก้ว
ไม่กี่วินาทีต่อมา ดวงตาของเธอก็พร่ามัว ส่ายหัวที่มึนเบลอไปมา สุดท้ายก็ฟุบลงบนโต๊ะอย่างต้านทานไม่อยู่
ทั้งสี่คนมองไปยังแก้วที่ไม่มีเหลือสักหยด มุมปากยกยิ้มกับความสำเร็จ
……
ระหว่างมื้ออาหาร เฟิงยู่เหนียนออกมาจากห้องรับรองส่วนตัว เดินไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างทางกลับเดินผ่านทางออกฉุกเฉิน บังเอิญเห็นผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตา กำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับชายอ้วนพุงพลุ้ยคนหนึ่งที่ตรงหัวมุม
เขามองเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนที่พูดโอ้อวดรถBMWกับเซิงเกอที่โรงจอดรถเมื่อครั้งก่อน
เฟิงยู่เหนียนไม่สนใจเรื่องซุบซิบนินทาเหล่านี้ หันหน้าและกำลังจะเดินจากไป แต่กลับได้ยินบทสนทนาในช่วงท้ายของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ
“กรรมการจางอย่าลืมเตือนกรรมการอีกสองท่านด้วยนะคะ เสร็จธุระกันแล้วอย่าลืมถ่ายคลิปของเซิงเกอส่งมาให้ฉันด้วย และต่อไปงานของกรรมการหวางกับกรรมการหลิวก็อย่าลืมพิจารณาฉันเป็นคนแรกนะคะ”
“ไม่ต้องห่วง ไม่ลืมตอบแทนคุณแน่”
กรรมการจางพูดจบ ถูมือไปมา จะรีบกลับไปที่ห้องรับรองเพื่อจะเชยชมความงามของหญิงสาวด้วยกัน
และทันทีที่เขาหันกลับมา ที่คอเสื้อจู่ๆก็ถูกใครบางคนกระชากอย่างเต็มแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...