ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 35

“กล้าดียังไง!”

สิ่งที่ข่งซูสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกคือเธอนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะของห้องประชุม จากนั้นก็ถึงได้เข้าใจในคำพูดของเธอ ริมฝีปากสั่นระริก“นี่เธอ…เธอหมายความว่ายังไง?”

ริมฝีปากสีแดงสดของเซิงเกอ อวดดีและไม่ยำเกรง

เธอจ้องมองข่งซู และไม่ตอบอะไร

ข่งซูรู้สึกร้อนรนกับรอยยิ้มนี้ของเธอ และยิ่งผวากับพลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเธอจนเสียวไปที่สันหลัง

“บ้า!เธอมันบ้าไปแล้ว!”

ปากเธอพูดสบประมาท ขณะที่พูดก็ถอยร่นไปด้วยสองก้าว

กำลังจะหันหลังไป ที่ประตูทางเข้าของห้องประชุมจู่ๆก็มีชายสี่คนในเครื่องแบบตำรวจเดินเข้ามา เคาะประตูอย่างสุภาพ“ ไม่ทราบว่าใครคือข่งซูครับ?”

เมื่อได้ยินคนถามหาตัวเอง ข่งซูก็ตะลึงงัน “ พวกคุณมีธุระอะไร?”

เมื่อเห็นเธอตอบคำถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างมีใบหน้าจริงจัง เดินมาทางเธอ

ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความตกใจ“พวกคุณ……เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ? ฉันเป็นพลเมืองที่เคารพกฎหมายนะ!”

“คุณบริสุทธิ์หรือไม่ เราจะตัดสินเอง เชิญไปกับเราด้วยครับ”

“ไม่!ฉันไม่ไป!”

กรรมการหวางกับกรรมการหลิวก็อยู่ในนั้น สิ่งที่เธอได้ทำย่อมปกปิดเอาไว้ไม่ได้อีก เดิมทีก็หวังให้หลินหงมาปกป้องเธอ แต่หลินหงกลับไปก่อนเธอเสียอีก

แต่เธอจะติดคุกไม่ได้ หากเข้าไปแล้ว งานของเธอ อนาคตของเธอ ก็จะไม่เหลืออะไรเลย!

ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ เธอวิ่งมาหาเซิงเกอคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ วางศักดิ์ศรีทุกอย่างลง จับไปที่มือเธอและขอร้องอ้อนวอน

“คุณเป็นคนโทรหาตำรวจใช่ไหม ? เซิงเกอ ผอ.เซิง ฉันยอมแพ้ ฉันขอโทษ เพราะฉันอิจฉาเลยมีความคิดที่อยากจะทำร้ายคุณ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ?”

เซิงเกอใช้ปลายนิ้วเชยคางเธอขึ้นเบาๆ จ้องมองไปที่ตาของเธอ ยกยิ้ม“ คำขอโทษของเธอเกิดจากความกลัวและการปัดให้พ้นตัว มีความจริงใจแค่ไหนกัน เธอน่าจะรู้ดีกว่าฉัน”

“ไม่ ฉันพูดจริง ฉันผิดไปแล้วผอ.เซิง ฉันผิดไปแล้วจริงๆ”

“ข่งซู หากเธอหาเรื่องฉันเพราะไม่ประสา และมีจุดประสงค์ในการเข้าหาหลินหงเพื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน ฉันก็คงแค่ไล่เธอออก แต่เธอทำฉันประหลาดใจมาก ฉันประเมินเธอต่ำไป หากไม่ส่งเธอให้กับทางตำรวจการแสดงละครตบตาของเธอเมื่อคืนก็สูญเปล่านะสิ”

ข่งซูก้มหน้าและสะอื้นไห้ ในใจกัดฟันกร่อนด้วยความเกลียด

นังชั่วคนนี้พูดบ้าซะจนเลอะเทอะ!

รังแกกันเกินไปแล้ว!

ให้เธอผ่านเรื่องนี้ไปได้ จะหาโอกาสเล่นงานนังสารเลวนี่ให้ตายเลยคอยดู

เธอเก็บซ่อนความชั่วร้ายไว้ภายใน แสดงท่าทีร้องไห้เสียใจ กำลังจะอ้าปาก จู่ๆก็นึกถึงคำพูดของเซิงเกอที่เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญ“คุณบอกว่า คุณไล่ฉันออก?”

แค่ตำแหน่งผู้อำนวยการ เธอกล้าดียังไงพูดว่าจะไล่ใครออกแบบนี้ ?

หรือมีความสัมพันธ์กับลู่ฮั๋วไปแล้ว ทั้งบริษัทตกเป็นของเธอ ?

เซิงเกอโน้มตัวลงเล็กน้อย ยกยิ้มจอมปลอมแล้วขยับชิดมาที่ใบหูของข่งซู

“ไม่เคยได้บอกเธอ ว่าที่ที่เธอเหยียบอยู่นี้ เป็นอาณาเขตภายใต้การปกครองของฉันลู่เซิงเกอ ”

ในตอนที่พูดชื่อออกมานั้น เธอพูดออกมาอย่างช้าๆ ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

หัวโต๊ะของห้องประชุมเป็นเหมือนกับบัลลังก์ แต่เมื่อร่างที่เรียวบางของเธอนั่งลงไป ก็กลับมีความกลมกลืนอย่างพูดไม่ถูก ออร่ารอบกายดูสูงส่งและเย็นเยือก

พรึบ——

ข่งซูทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

เธอบอกว่า นี่คือบริษัทของเธอ……

เธอบอกว่าเธอนามสกุล……ลู่

ข่งซูยกมือปิดปาก ดวงตาเบิกกว้าง ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวเธอไป เธอก็ยังคงตกอยู่ในความเศร้าโศกสิ้นหวังอยู่แบบนั้น

จัดการกับพนักงานขยะไปได้สองคน หูของเซิงเกอก็ถือว่าได้อยู่อย่างเงียบสงบไปสองวัน

ก่อนเที่ยง เซิงเกอกำลังยุ่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

ฮัวหยุนก็เคาะประตูแล้วเข้ามา ไม่มีอาการใดๆ“ผอ.ครับ ประธานลู่ต้องการพบคุณ หากคุณว่างแล้วเรียนเชิญด้วยครับ”

พี่สามตามตัวเธอเพราะมีธุระ ?

มองดูสีหน้าของฮัวหยุน ราวกับไม่ใช่เรื่องดีอะไร

เซิงเกอไม่รอช้า เก็บโต๊ะอย่างลวกๆในสองนาที แล้วรีบไปที่สำนักงานชั้นบนสุด

เมื่อประตูปิดลง ห้องทำงานขนาดใหญ่ก็กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

ลู่ฮั๋วคีบเนื้อชิ้นหนึ่งที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซอสใส่ลงในชามเซิงเกอ“ กินเยอะๆ เราผอมไปแล้ว ”

เซิงเกอตอบรับอย่างใจลอย และถามหยั่งเชิงว่า “พี่สาม เหมือนพี่จะมีอคติกับคู่หมั้นคนนี้ของพี่มากเลยนะ?”

ใบหน้าของลู่ฮั๋วเย็นชาลง ร่างทั้งร่างมืดมนและเย็นเยือกอย่างที่สุด พูดอย่างรังเกียจว่า“ คู่หมั้นเหรอ ? เธอไม่คู่ควร เธอเป็นแค่คนต่ำทรามที่ไม่รู้จักอาย”

ดูจากสีหน้าของเขา การหมั้นหมายของพวกเขาดูจะมีเรื่องราวมากกว่าที่ตาเห็น

แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยากพูดถึงมัน เซิงเกอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

ไม่รู้จักอายงั้นเหรอ?

เธอเองก็นึกสงสัยไม่น้อยเหมือนกัน

ผู้หญิงที่สามารถทำให้พี่สามของเธอที่มีนิสัยอ่อนโยนรู้สึกรังเกียจได้ขนาดนี้ ต้องเป็นคนที่แปลกประหลาดแบบไหนกัน ?

“กำลังคิดเรื่องอะไรไม่ดีอยู่ รีบๆกินเร็ว”ลู่ฮั๋วเห็นสายตาของเธอที่มีรอยยิ้มชั่วร้าย ก็พูดขัดเธอขึ้นมา

เซิงเกอพยักหน้าให้อย่างเชื่อฟัง

สิบนาทีต่อมา หลังจากที่เซิงเกอกินอิ่ม เดินออกมาจากห้องทำงาน ก็เห็นฟู่อินที่ยังตามวอแวฮัวหยุนอยู่ข้างๆ

เห็นชัดว่าฟู่อินพูดจนปากจะฉีก และน้ำเสียงก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นข่มขู่

เซิงเกอละสายตาออก เพ่งมองตรงไปยังทิศทางของลิฟต์

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

ข้อมือของ เซิงเกอจู่ๆก็ถูกคนดึงเอาไว้

ฟู่อินหมุนตัวมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วจ้องมอง

“นี่เธอเองเหรอ ทำไมเธอถึงออกมาจากห้องทำงานของอะฮั๋วได้ ?”

เซิงเกอเลิกคิ้ว ยิ้มให้อย่างปรกติ“ ประธานลู่ชวนฉันไปทานอาหารกลางวัน ฉันยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญนี้ได้ ก็ย่อมต้อง……”

ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ ความโกรธที่ลุกโชนในดวงตาของฟู่อิน ก็แทบจะเผาไหม้เธอให้เป็นตอตะโก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!