ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 119

ที่ตำหนักฉางอัน.

ขันทีหม่ากงกงจุดเทียนขึ้น จักรพรรดิทรงตรวจดูสาส์นราชการเสร็จแล้ว แต่พระองค์ยังไม่คิดจะพักผ่อน

จักรพรรดิดีใจ ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

ขันทีหม่ากงกงพูดเบาๆ ว่า "ฝ่าบาท อัครเสนาบดีกำลังรออยู่ข้างนอกพร้อมกับคนจากจวนว่าการชั้นใน โดยบอกว่าจะมาสารภาพผิดที่ได้ทำร้ายเซียนกระบี่และฉินเฟิงโดยมิได้ตั้งใจขอรับ"

มิได้ตั้งใจ? จักรพรรดิยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ

หลังจากเซียนกระบี่ได้รับการช่วยชีวิตไว้ ก็ตรงเข้าไปในพระราชวัง

ถือเป็นพระกรุณาอย่างยิ่ง

พระประสงค์ของจักรพรรดินั้นชัดเจนในตัวเอง เซียนกระบี่ตกเป็นคนของพระองค์แล้ว

"สั่งให้พวกเขาถอยไปเถอะ เรื่องนี้ให้เอาโทษแต่จวนว่าการชั้นในก็พอ" จักรพรรดิพูดเบาๆ

“ไม่ปราบหวางเก๋อหรือ?”

จักรพรรดิเลิกคิ้ว ขันทีหม่ากงกงตบปากตัวเองทันที "ข้าน้อยปากเสีย พูดเลยเถิดไปแล้ว"

องค์จักรพรรดิกระซิบ "อัครเสนาบดีเจ้าเล่ห์ ลงโทษเขาด้วยเรื่องเล็กน้อย มันไม่สะทบสะท้าน แค่ตักเตือนเขาพอ ตอนนี้การฟื้นฟูระบบอารักขาปัญญาชน ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"

ด้วยการฟื้นฟูระบบอารักขาปัญญาชน จักรพรรดิไม่เพียงแต่สามารถควบคุมเจ้าหน้าที่กันใหม่ แต่ยังปกป้องปัญญาชนได้ด้วย

แบบนี้ เส้นทางนองเลือดของการสอบขุนนางสำหรับผู้รู้หนังสือก็ไม่ลำบากแสนเข็ญอีกต่อไป

"ใช่ ใช่ ใช่...... ข้าน้อยเรียนน้อยเบาปัญญา ไม่สามารถคิดรอบคอบดั่งเช่นฝ่าบาทได้ขอรับ"

"ร่างพระราชกฤษฎีกาให้เชิญตัวฉินเฟิงและเซียวเฉวียนเข้าวังในวันพรุ่งนี้ ฎีกานี้ ข้าพเจ้าขอเขียนเอง"

จักรพรรดิมีความสำราญใจอย่างยิ่ง ในที่สุดจะได้พบเซียวเฉวียนแล้ว

ขันทีหม่ากงกงเริ่มฝนหมึก ยิ้มแล้วยิ้มอีก รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ากลายเป็นลายดอกไม้ "นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าน้อยเห็นฝ่าบาทมีความสุขขนาดนี้ ว่ากันว่าเซียวฮุ่ยหยวนคนนี้เฉลียวฉลาดมากจริงๆ เรื่องของอ้านย้วน แม้เขาจะไม่เคยสื่อสารกับพระองค์แม้แต่คำเดียว แต่เขามีสายสัมพันธ์ทางใจถึงพระองค์ ประเด็นนี้ แม้แต่ข้าน้อยที่อยู่กับพระองค์มาหลายปีดีดัก ก็ยังเทียบไม่ได้เลย”

องค์จักรพรรดิหัวเราะเสียงดัง ไม่พูดอะไรต่อ ยกมือขึ้นแล้วร่างฎีกาทันที

ที่ผ่านมาผู้สมัครสอบที่สามารถเข้าเฝ้าจักรพรรดิได้ จะต้องผ่านการสอบระดับพระราชวังเท่านั้น

ยังไม่ได้สอบระดับพระราชวัง เซียวเฉวียนก็สามารถเข้าเฝ้าพระองค์ได้ เกียรติยศนี้นับเป็นครั้งแรกในต้าเว่ยตั้งแต่เปิดประเทศมา

เมื่อพระราชกฤษฎีกาลงมาที่จวนฉิน จวนฉินซึ่งโศกเศร้ามาทั้งวันก็เดือดพล่าน

ฝ่าบาทเชิญตัวคุณชายใหญ่!

ตามกฤษฎีกาเขียนไว้ว่า คุณชายใหญ่มีความกล้าหาญหาตัวจับยาก ลงโทษข้าราชการผู้ทรยศ ปกป้องท่านอ๋อง ได้รับความดีความชอบอันดับหนึ่ง! ให้คุณชายใหญ่เข้าวังเพื่อรับบำเหน็จในวันพรุ่งนี้!

เห็นได้ชัดว่ายังมีเซียวเฉวียนในกฤษฎีกา แต่คนในตระกูลฉินเลือกที่จะเพิกเฉย

ในพระราชกฤษฎีกาเขียนไว้ว่าฉินเฟิงจะได้รับบำเหน็จเป็นรางวัลชั้นหนึ่งและทองคำสามพันตำลึง และให้ฉินเฟิงเข้าวังในวันพรุ่งนี้เพื่อรับรางวัล แต่สำหรับบำเหน็จของเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่อักษรตัวเดียว

ดูผิวผืน ฉินเฟิงถึงจะเป็นพระเอกในกฤษฎีกานี้ เซียวเฉียนเป็นเพียงตัวประกอบ

ท่านยายฉินมีความดีใจมาก ฉินเฟิงได้ความดีความชอบอันดับหนึ่งครั้งนี้ จะเป็นแต้มต่อสำหรับการสมรสกับองค์หญิงเพิ่มขึ้นอีก!

เซียวเฉวียนไม่ติดใจว่ากฤษฎีกาจะเขียนว่าอย่างไร เขาเพียงยอมรับพระราชกฤษฎีกามาเฉยๆ จักรพรรดิกล่าวแล้วว่าเขาต้องการรางวัลอะไร ไว้คุยกันต่อหน้าพระพักตร์ได้ อันนี้ดีกว่าฉิงเฟิงไปไหนๆ

เซียวเฉวียนเปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อจักรพรรดิ เขาเคยคิดว่าจักรพรรดิถูกควบคุมโดยเว่ยเจียนกั๋วตั้งแต่ยังเด็ก อารมณ์ของพระองค์คงจะนุ่มนวลสักหน่อย

แต่เมื่อดูจากเรื่องของอ้านย้วน จักรพรรดิเป็นราชา เป็นคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ ทหารม้าที่พระองค์ส่งไปนั้นกลายเป็นกบฏจากจวนว่าการชั้นในหมด

เมื่อต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอย่างกะทันหัน อัครเสนาบดีน่ากลัวจะตั้งตัวไม่ทัน หน้าตาดูมึนตึ๊บไปหมด

เซียนกระบี่ที่ยิ่งดูน่าสงสาร ถูกจักรพรรดิตัดข้อมือ จะเป็นคนพิการในชั่วชีวิตนี้ ไม่สามารถถือดาบได้อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่เขาสมควรได้รับและไม่สมควรได้รับความเห็นอกเห็นใจ เรื่องน่าเศร้าคือเขาคิดว่าจักรพรรดิคือผู้ช่วยชีวิตของเขา เป็นคนน่าสมเพชที่ถูกคนอื่นวางแผนทำร้ายแล้วยังไม่รู้ตัว

จักรพรรดิสั่งสอนผู้คนอย่างเงียบๆ แถมเลี่ยงพระองค์เองพ้นจากเหตุการณ์อย่างขาวสะอาด

อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิยังมีด้านของความเมตตากรุณาและความชอบธรรม ถึงแผนดูโหดร้าย แต่เซียนกระบี่ ฉินเฟิงและเซียวเฉวียนยังมีชีวิตอยู่

เข้าวังพรุ่งนี้ เซียวเฉวียนตั้งหน้าตั้งตารอ พระราชวังต้าเว่ยต้องเต็มไปด้วยอัญมณีและวัตถุโบราณ ถึงเวลานั้นขอจักรพรรดิสักชิ้นสองชิ้นไว้ประดับในร้านอาหาร จะดูยิ่งใหญ่ขนาดไหน

คนในตระกูลฉินมีความสุขมาก ฉินเฟิงซึ่งเคยดูซึมๆ มาก่อนก็ดูเบิกบานขึ้นในที่สุด เขารับมอบพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิด้วยตัวสั่นเทา โค้งคำนับขอบพระคุณแล้วกลับเข้าบ้านไป

"ลุงเขยค่ะ ลุงเขยค่ะ"

ทันทีที่เซียวเฉวียนได้รับกฤษฎีกา เขาก็ถูกอาเซียงเรียกไปอย่างลึกลับ "คุณหนูเตรียมอาหารและเหล้าอร่อยๆ กำลังรอลุงเขยอยู่ที่ริมทะเลสาบค่ะ"

ผู้ใดมาประจบประแจงโดยไร้เหตุ ไม่หวังร่างก็หวังทรัพย์

ฉินซูโหรวกำลังคิดแผนอะไรอยู่?

หรือว่าเธอจะมาเอาใจเขา ให้เขาเลิกทวงคืนดาบฉุนจวีน?

เซียวเฉวียนอ้าปากก็สาธยาย ฟังจนฉินซูโหรวผงะแล้วผงะอีก “มีความสุขกับชีวิตหมายถึงอะไร?"

“นางไม่เพียงแต่มีความสุขกับชีวิต ยังถนัดป้อนยาพิษให้สามีด้วย เป็นสตรีพิศสงร้ายอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์”

ตอนนี้ฉินซูโหรวเพิ่งรู้ว่าเซียวเฉวียนล้อเล่นเธอ เขาไม่รู้ดีชั่ว เธอไม่พอใจอย่างมาก "คุณหมายความว่า ที่ฉันชวนคุณมาดื่มเหล้านี้เพื่อจะทำร้ายคุณ?"

"ใช่แล้ว"

เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความมั่นใจมาก

“คุณอย่ามาใส่ร้ายคนอย่างชั่วช้าสามานย์นะ คุณมีหลักฐานอะไร?”

“ก็เธอไม่ชอบหน้าฉันมาตลอด!”

ทำไมคำเหล่านี้ถึงคุ้นเคย? ฉินซูโหรวรีบโต้เถียง "แต่ฉันไม่เคยคิดจะทำร้ายคุณนะ!"

“ใครจะเชื่อล่ะ”

"คุณ!"

ฉินซูโหรวกระแทกแก้วเหล้าลงกับพื้น กลิ่นหอมของเหล้ากระจาย "คุณใส่ร้ายคน! คุณไม่รู้จักดีชั่ว! ฉันนี้อุตส่าห์จะเลี้ยงคุณเป็นการส่วนตัว แต่คุณไม่รู้จักแยกแยะอะไรดีอะไรชั่ว! เป็นไอ้ตัวที่มีคนให้กำเนิดแต่ไม่มีคนสั่งสอนนี่เอง!"

ความร้อนพวยพุ่งออกจากระหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวพูดจาหยาบคายครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สั่งสอนสักหน่อยคงไม่อาจดับไฟที่ลุกไหม้ในใจได้!

เขาหายใจเข้าลึกๆ คำพูดของเขาเหมือนก้อนหินที่ขว้างเข้าไปในทางช้างเผือกที่เงียบสงบ ทำให้เกิดคลื่นเป็นระลอกๆ คลื่นหมู่ดาวกระเพื่อม "คุณหนูใหญ่ วันนี้เธอมาใส่ความว่าฉันทำร้ายฉินเฟิง ฉันแค่ตอบโต้ด้วยตาต่อตา เพื่อให้เธอได้ลองลิ้มรสชาติของการถูกใส่ความว่าเป็นยังไง ทำไมต้องไปเกี่ยวโยงกับแม่ฉันด้วย?”

ฉินซูโหรวผงะ เธอคิดว่าเหตุการณ์ในกลางวันของวันนี้จบลงแล้ว เซียวเฉวียนทำไมถึงกัดไม่ปล่อยเช่นนี้!

“ฉันเป็นลูกสาวคนโตตระกูลฉินแท้ๆ คุณมาใส่ความฉัน คุณก็ต้องผิด!” ฉินซูโหรวนิดๆ หน่อยๆ ก็เอาชื่อตระกูล ฉินมาอวดอ้าง เซียวเฉวียนเบื่อสุดๆ แล้ว

“ฉันก็คือเซียวเฉวียนแท้ๆ !” เซียวเฉวียนตบโต๊ะลุกขึ้นยืน ฉินซูโหรวสะดุ้งจนได้แต่จ้องตาค้าง “เธอจ้องแต่จะคอยเหยียดหยามฉันและตระกูลเซียว เธอคิดว่ามันไม่มีค่าตอบแทนงั้นหรือ!"

"คุณอวดดี! คุณตะโกนใส่ใคร? ใครให้ท้ายคุณ?" ฉินซูโหรวไม่ยอมอ่อนข้อ ร้องแรกแหกกระเชอขึ้นมา

เซียวเฉวียนกระชากฉินซูโหรวอย่างแรง ข้าวของบนโต๊ะอาหารกระจายกลาดเกลื่อน เทร่วงบนพื้น เธอตกใจตะโกน "คุณบ้าไปแล้วหรือ อาหารพวกนี้ฉันอุตส่าห์ใช้เวลาเตรียมมาตั้งนาน!"

“เธอไม่อยากรู้หรือว่าการมีความสุขกับชีวิตหมายความว่าอย่างไร”

เซียวเฉวียนโอบกอดฉินซูโหรว เธอรู้สึกเอะใจ "คุณจะทำอะไร?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย