ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 243

เว่ยชิงหายไปที่โรงเหล้า อาสือที่ยุ่งวุ่นมาทั้งวันแล้วก็ไม่ได้คิดที่จะกลับจวนเซียวด้วยเช่นเดียวกัน

เซียวเฉวียนอาศัยอยู่ในโรงเหล้า ก่อนหน้านี้มีไป๋ฉี่คอยติดตามอยู่

ตอนนี้มีโย่วควนเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว

จวนเซียวนั้นให้โย่วควนกลับเข้าไปพักอาศัย เพียงแต่เซียวเฉวียนขัดขวางไม่ยอมให้ไป นั่นเพราะไม่อาจทุกข์ทรมานอยู่คนเดียวได้ เป็นพี่น้องกันจะต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว โย่วควนจึงทำได้เพียงแค่นอนที่โรงเหล้าเป็นเพื่อนเซียวเฉวียนเท่านั้น

หลังลูกค้ากับลูกน้องแยกย้ายกันไปแล้ว ทั้งสามคนจึงนำสุราและเนื้ออบหอมกรุ่นออกมารับประทานเป็นอาหารมื้อดึก

เพราะโย่วควนเล่นงิ้วจึงทะนุถนอมลำคอเป็นอย่างมาก เหล้าเนื้อไม่แตะ

เซียวเฉวียนส่ายศีรษะ ริมฝีปากเต็มไปด้วยน้ำมัน "ไม่กินเนื้อแล้วชีวิตเจ้ามันจะไปมีความหมายอะไร? มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องกินเนื้อ เข้าใจไหม? เจ้านี่มันทึ่มจริง!"

โย่วควนไร้คำจะสนทนาด้วย ทุกคนล้วนกล่าวว่าเซียวเฉวียนเป็นจอหงวน [1] ของราชสำนัก มีจิตคิดเพื่อการใหญ่ ตอนนี้คนที่กำลังกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมาน่ะหรือที่มีจิตคิดการใหญ่?

โย่วควนเป็นนักแสดงงิ้วผู้หนึ่ง ทุกคนต่างก็ล้วนดูแคลน แม้จะเติบโตมารูปหล่อเพียงใด ทว่ากลับไม่ได้เป็นคนที่ชอบพูดมากนัก สีหน้าอึมครึมตลอดทั้งวัน

เซียวเฉวียนถือว่าเขาเป็นเพื่อน ในเมื่อโย่วควนสามารถทำเงินได้ เป็นต้นไม้เงินต้นหนึ่งที่หล่อเหลาเอาการขนาดนี้ พวกเขาย่อมต้องเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้ว

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เซียวเฉวียนจึงเย้ยหยันเขาอยู่ทุกวัน กล่าวว่าสีหน้าโย่วควนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เซียวเฉวียนจึงจะรู้สึกว่าชีวิตเขามีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย

โย่วควนกลับไม่กล้าทำสิ่งใด ในเมื่อเซียวเฉวียนเป็นคนซื้อคณะงิ้วมา เป็นนายท่านของคณะงิ้ว

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว บุรุษหล่อเหลารูปงามผู้นี้จึงถูกสตรีทั่วทั้งเมืองหลวงหมายตา ทว่ากลับไม่ได้มีอารมณ์ใด ๆ ต่อหน้าเซียวเฉวียนเลยแม้แต่น้อย

แม้เขาจะเป็นคนไม่หือไม่อือ ทั้งก็ไม่ได้พุ่งชนเซียวเฉวียนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวเซียวเฉวียนด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงยอมให้ปากของเซียวเฉวียนเยาะเย้ยเขา เขาเองก็ทำได้เพียงแค่ฟังอย่างเงียบเฉียบเท่านั้น

"เกร็ก ๆ"

ประตูโรงเหล้าที่ปิดสนิทกลับส่งเสียงดังขึ้นมา มีคนกำลังทำอะไรกับกลอนประตูอยู่

ไป๋ฉี่ระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที เนื้ออบเองก็ไม่ทานแล้วด้วยเช่นเดียวกัน จ้องไปยังทิศทางของประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย

โย่วควนสบตามองไปยังประตูอย่างเงียบเฉียบ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มีคนกำลังคิดอยากจะเปิดประตู

หากคนที่เปิดประตูออกผู้นั้นทราบว่าทางด้านหลังของประตูมีดวงตาสามคู่กำลังจ้องเขม็งเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วละก็ ไม่รู้เลยว่าควรจะรู้สึกอย่างไร?

เซียวเฉวียนที่กำลังเคี้ยวเนื้ออย่างปีติอยู่นั้นล้วนออกแรงเล็กน้อย หากเว่ยชิงต้องการลงมือเช่นนั้นก็ดียิ่ง เพราะเขาก็กำลังรออยู่เลย

ประตูดังก็อกเกร็กอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงียบลงไปอีกครั้ง

คงเป็นเพราะกลอนแก้ได้ไม่ง่าย คนผู้นั้นจึงถอดใจไปแล้ว

จอมยุทธ์ในตอนนี้คุณสมบัติและฝีมือแย่ขนาดนี้เลยหรือ?

เซียวเฉวียนบันดาลโทสะเล็กน้อย กระทั่งกลอนประตูก็เปิดไม่ออก เจ้านี่มันอยู่ในยุทธภพได้อย่างไรกัน?

"ไป๋ฉี่ เจ้าไปเปิดให้เขา!"

"ขอรับ"

ไป๋ฉี่สาวเท้าขึ้นไปทางด้านบนอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปเปิดประตูแล้ว เสียง "ปัง" ดังขึ้นหนึ่งเสียง มีซอมบี้คนหนึ่งยืนงง ๆ อยู่ที่หน้าประตู

เหตุใดประตูบานนี้จู่ ๆ จึงเปิดเสียแล้วเล่า?

เขาเงยศีรษะขึ้นสบตากับไป๋ฉี่อย่างเงียบเฉียบหนึ่งหน

คนผู้นี้รูปร่างสูงเจ็ดฟุต ดวงตาทางด้านซ้ายมีไฝดำหนึ่งเม็ด ลำคอมีรอยแผลเป็นสองทาง

เป็นเขา!

คืนส่งท้ายปีเก่า เป็นเขา จอมยุทธ์ที่สังหารสามีภรรยาคู่นั้น!

ในมือเขาถือถุงอะไรสักอย่างเอาไว้อยู่ ยามที่ดวงตาของเขาสบตามองกับไป๋ฉี่นั้น ทั้งก็มองผ่านไป๋ฉี่ไปด้วยเช่นเดียวกัน ก่อนจะพบว่าเซียวเฉวียนกับโย่วควนเองก็อยู่ด้วย

กลิ่นเนื้อหอมกรุ่นกลุ่มหนึ่งลอยมาอย่างเงียบงัน

เที่ยวคืนแล้ว เจ้าสามคนนี้ยังไม่นอน ทั้งก็ไม่ได้จุดไฟด้วยเช่นเดียวกัน แต่มากินเนื้อกันที่กลางโรงเหล้า?

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจอมยุทธ์ผู้นั้นไม่ได้คาดการณ์เอาไว้มาก่อน เป็นครั้งแรกที่คุณสมบัติพ่ายแพ้ไป เขาพ่ายให้กับเนื้อไม่กี่คำ

เขาตั้งท่าจะวิ่งหนี หันหลังกลับไป คนของเหมิงเอ้าสิบเอ็ดคนอยู่ทางด้านหลังของเขา ทั้งก็กำลังมองเขาอย่างเงียบเฉียบด้วยเช่นเดียวกัน

จอมยุทธ์เข่าอ่อนทันที ไม่ได้บอกว่าคืนนี้มีเพียงเซียวเฉวียนกับไป๋ฉี่อยู่กันสองคนหรอกหรือ?

หน้ามีไป๋ฉี่ หลังมีเหมิงเอ้า คนผู้นี้ช่างยากจะปลีกตัวหลบหนีโดยแท้!

เมื่อเซียวเฉวียนเห็นเขาเข้า ความเจ็บปวดในคืนส่งท้ายปีเก่าก็พรั่งพรูขึ้นมาทันที

สายตาของเซียวเฉวียนหนึ่งหน ไป๋ฉี่เองก็ไม่ได้กล่าวคำใดเช่นเดียวกัน ก่อนจะปะทะกับเขาก่อนหนึ่งยกไปเสียแล้ว!

ชาติกำเนิดจากราชองครักษ์ทาสคุนหลุน หมัดมวยย่อมหนักกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว!

ในเมื่อจอมยุทธ์เหล่านี้ใช้โลหิตคนอาบปลายดาบ ภายในหมัดเหล็กของไป๋ฉี่แล้ว ดูเหมือนว่ากระดูกจะกลายเป็นเครื่องตกแต่งบ้าน เสียงแตกหักดังกรอบแกรบ

หมัดแล้วหมัดเล่า กระดูกล้วนจะแหลกละเอียดอยู่แล้ว!

"นายท่านของเจ้าส่งเจ้ามาหรือ?"

ไป๋ฉี่สู้ไปเซียวเฉวียนก็เอ่ยถามไป

จอมผู้หนึ่งที่ดูแล้วไม่คล้ายคนฉลาดหลักแหลมอะไรคนหนึ่ง กำลังยุ่งวุ่นอยู่กับตั้งรับการโจมตีของไป๋ฉี่ เซียวเฉวียนเอ่ยถามสิ่งใดเขาก็ล้วนไม่ได้ยินทั้งสิ้น

คนเขลาเบาปัญญาผู้หนึ่ง แต่กลับเป็นคนที่ร้ายกาจคนหนึ่ง

ยามที่สังหารสตรีตั้งครรภ์คนนั้น เซียวเฉวียนยังคงจดจำได้ว่าเขาล้วนไม่กะพริบตาเลยแม้แค่ครั้งเดียว

"นายท่านของข้ามีคำสั่งการมาว่าผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเซียวเฉวียนก็คือศัตรูของรัฐไป๋ลู่" เซียวเฉวียนยังคงจดจำประโยคนี้เอาไว้ได้ ถูกไป๋ฉี่ชกจนคุกเข่าลงไปกับพื้น เซียวเฉวียนเหยียบเท้าข้างหนึ่งเอาไว้บนศีรษะของเขา "ประโยคนี้เจ้าเป็นคนพูดใช่หรือไม่?"

"อึก! ใช่!" จอมยุทธ์กัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด

"นายท่านของเจ้าช่างมีอำนาจบาตรใหญ่เสียจริง กลับเอาทั้งรัฐไป๋ลู่มาเป็นแต้มต่อเพื่อกดดันข้า!" เซียวเฉวียนออกแรงที่เท้าเบา ๆ "เจ้าชื่อว่าอะไร?"

"ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า!"

"อ๋อ เช่นนั้นข้าก็มั่นใจแล้ว" เซียวเฉวียนยกยิ้มบางเบาหนึ่งหน โย่วควนมองดูแล้วน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก

แม้ตอนนี้เซียวเฉวียนจะไม่ได้ระเบิดโทสะออกมาแต่อย่างใด ทว่าไอสังหารและไอเย็นยะเยือกบนร่างกายของเขากลุ่มนั้น มันกลับเข้มข้นจนทำผู้คนขาดอากาศหายใจ

"คุกเข่าไป!" ไป๋ฉี่เตะไปยังหัวเข่าของจอมยุทธ์หนึ่งหน จอมยุทธ์ถูกบังคับให้คุกเข่าต่อหน้าเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนถือเนื้ออบที่กวนเชียนจีจานนั้นเอาไว้ ยกยิ้มหนึ่งหน "เจ้าคิดว่าเนื้อพิษจานนี้คืออาหารที่จะให้เจ้าหรือไม่?"

จอมยุทธ์ชะงักนิ่งไปทันที เซียวเฉวียนส่งเสียงหึเย็นชาหนึ่งเสียง "เข้าไม่คู่ควรหรอก นี่คืออาหารที่ข้าจะเก็บเอาไว้ให้กับนายท่านของเจ้า"

นัยน์ตาของเขาดำขลับเป็นอย่างมาก ไอสังหารพรั่งพรูปะทุอยู่ด้านใน ไอสังหารกลุ่มนี้คือสิ่งที่จอมยุทธ์จะคุ้นเคยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

ไม่ได้กล่าวว่าเซียวเฉวียนก็เป็นเพียงแค่ขุนนางฝ่ายบุ๊น เป็นเพียงแค่ไอ้ขยะแห่งจวนฉินเท่านั้นหรอกหรือ เหตุใดไอสังหารของเขามันช่างเข้มข้นถึงเพียงนี้?

"เจ้าไม่บอกชื่อของเจ้ากับข้า เจ้านึกว่าข้าจะไม่รู้หรือไง?"

ท่าทีเซียวเฉวียนดุดันเป็นอย่างมาก ในความมืดมิดนั้น ราวกับว่าเป็นยมทูตแห่งการแก้แค้นเย็นชาไร้ความรู้สึกผู้หนึ่งเลยก็ไม่ปาน "สังหารคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต ในเมื่อเจ้าฆ่าคนตายไปสามคนแล้ว เช่นนั้นเจ้ากับคนในครอบครัวของเจ้าเองก็ต้องเอาชีวิตมาแลกด้วยเช่นกัน"

จอมยุทธ์ปิดปากแน่นไม่ยอมบอกชื่อ เพราะนั่นย่อมเป็นจุดอ่อนอยู่แล้ว

เป็นดังที่คาดการณ์เอาไว้ จอมยุทธ์คำรามลั่น "เจ้ากล้าหรือ?"

"กลับไปบอกนายท่านของเจ้า ในเมื่อเขาเอารัฐไป๋ลู่มาเป็นแต้มต่อ เช่นนั้นก็ส่งสารไปถึงเขาเสียว่ารัฐไป๋ลู่น่ะ ข้าจะเอาแน่"

เซียวเฉวียนโบกมือไปมา สั่งการให้ไป๋ฉี่ปล่อยจอมยุทธ์ ปล่อยเขากลับไป

รัฐไป๋ลู่ เซียวเฉวียนจะเอารัฐไป๋ลู่?

จอมยุทธ์ชะงักนิ่งไปทันที กระทั่งอยากจะหัวเราะเยาะกับความคิดแสนใสซื่อของเซียวเฉวียนเองก็ไม่กล้ามี เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนนั้นกำลังยิ้ม กำลังหัวเราะอยู่

สีหน้านั้นของเซียวเฉวียนแทบจะกำลังบอกกับเขาอยู่เลยว่าไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ข้าล้วนค้นหาเจ้าพบได้เสมอ

จอมยุทธ์เข่าอ่อนทันที เขาสมควรที่จะสังหารเซียวเฉวียนไปตั้งแต่คืนส่งท้ายปีเก่าตั้งนานแล้ว!

"ไปสิ ทำไม? ไม่กล้าไปหรือ?"

เซียวเฉวียนกล่าวคำขันหนึ่งประโยค จอมยุทธ์กัดฟันแน่น ถอยหลังออกไปสองสามก้าว ก่อนจะก้าววิ่ง!

ครอบครัว!

จะต้องย้ายคนในครอบครัวออกไป!

"ถุย" เซียวเฉวียนสบตามองเงาแผ่นหลังที่กำลังวิ่งตะบึงของจอมยุทธ์ ในทุกก้าวของเขาล้วนราวกับกำลังเคาะนาฬิกาศึกเลยก็ไม่ปาน

ในคืนมืดมิดนั้น ราชองครักษ์สิบสองนายที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเซียวเฉวียน พวกเขาส่งสายตามองไปยังจอมยุทธ์ผู้นั้นอย่างเงียบเฉียบมาโดยตลอด

มีเพียงสายตาทางด้านข้างเพียงคู่เดียวเท่านั้น ที่ยังมีความเมตตาดั่งคนปกติอยู่เล็กน้อย

เมื่อจอมยุทธ์ผู้นั้นหันหลังกลับมา เห็นท่าทีเช่นนี้ของเซียวเฉวียนเข้าแล้ว จึงตกใจจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง!

ต่อให้เขาจะโง่เง่าอีกสักแค่ไหนก็ตาม เขาย่อมทราบว่าเซียวเฉวียนกำลังประกาศสงครามอยู่ดี!

[1] จอหงวน หมายถึง ตำแหน่งของผู้สอบได้ที่หนึ่งของการสอบระดับพระราชวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย