ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 275

ศิษย์พี่อะไรนะ?

เว่ยชิงตะลึงจนยังไม่ทันมีปฏิกิริยา

“เรื่องที่อาจารย์รับเซียวเฉวียนเป็นศิษย์ เจ้าไม่รู้หรือไร?” เหวินคุนหนีบหมูผัดผักกาดขึ้นมาหนึ่งชิ้น กร้วมๆๆ “เขาเข้ามาสำนักก่อน เจ้าย่อมเป็นศิษย์น้อง”

เซียวเฉวียนยังเป็นศิษย์ของปีศาจกวีงั้นหรือ?

เว่ยชิงขมวดคิ้วแน่น เขาเป็นท่านอ๋องรายหนึ่งยอมคุกเข่าให้ปีศาจกวี แน่นอนว่าเพราะปีศาจกวีสมควรได้รับมัน!

เซียวเฉวียน มีคุณสมบัติจะได้รับการคุกเข่าจากเขาด้วยหรือไร?

เมื่อเห็นเขามีท่าทีไม่ยินยอม เหวินคุนก็จะไม่บังคับ เขามอบโอกาสที่สอง “ข้ารู้ว่าเจ้ากับเซียวเฉวียนไม่ลงรอยกัน ตอนนี้เจ้าจะกลับใจก็ได้”

คำพูดประโยคนี้ เหวินคุนเรียกตัวเองว่าเจ้าข้าไปเลยตรงๆ เขาไม่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ด้วยซ้ำ เขาไม่กลัวเว่ยชิงจะกลับใจด้วยซ้ำ

เพราะว่าเว่ยชิงไม่มีทางทำ

ไม้นี้ของเหวินคุน เด็ดนัก

เขาโยนเนื้อติดมันชิ้นใหญ่ให้ชาวบ้าน แถมยังจะคว้ากลับมาจากมือของอีกฝ่ายอีก จะมีใครยินดีบ้างล่ะ?

เว่ยชิงกัดฟัน เขาตัดสินใจ “ศิษย์จะไม่เสียใจ!”

“ถ้าเช่นนั้นศิษย์จะไปกราบศิษย์พี่!”

“อื้ม ไปเถอะ! ศิษย์พี่ของเจ้ากำลังรับโทษอยู่”

เหวินคุนชี้ไปทางหนึ่ง หลี่มู่ก้าวขึ้นมาข้างหน้า “ท่านอ๋อง กระหม่อมจะพาท่านไปเอง”

เว่ยชิงขมวดคิ้วแน่น “ไม่จำเป็น ข้าไปคนเดียวก็พอแล้ว”

เขาไม่ยินยอมให้ผู้อื่นเห็นเขาคุกเข่าให้เซียวเฉวียน

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเดินไปทางทิศตะวันตก เดินไปจนสุดทางก็พอแล้ว”

เว่ยชิงพยักหน้า เขามองเหวินคุนครั้งหนึ่ง

เหวินคุนก้มสูดเส้นบะหมี่ คล้ายไม่ได้มองเขา

ทว่าเว่ยชิงไม่กล้าเสี่ยงทำเรื่องผิดพลาด

เขาทราบดี แม้ว่าปีศาจกวีจะสูญเสียการมองเห็นทั้งสองข้าง ทว่าสรรพสิ่งใดๆ ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการสังเกตของเขาได้

ก่อนหน้าที่เว่ยชิงจะยังเบื้องหน้าห้องอันหลีกเร้นนี้ ประตูห้องปิดสนิทแน่นหนา

คุกเข่าให้เซียวเฉวียน!

ฝันไปสิ!

ตอนนี้ทั้งสี่ด้านไม่มีคนอื่น เว่ยชิงทำเพียงแค่ประสานมือ เขาเอ่ยเสียงเบากระทั่งยุงยังไม่ได้ยินด้วยซ้ำ “น้อมพบศิษย์พี่”

เอาละ หมดเรื่องแล้ว

เว่ยชิงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง เขาหมุนกายคิดจะจากไป

เซียวเฉวียนทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าองค์หญิง เห็นแก่ฐานะของอาจารย์ เขาปล่อยเซียวเฉวียนไปครั้งหนึ่งก็ได้!

เว่ยชิงไม่ได้คุกเข่าคารวะเข้าสำนักให้แก่ศิษย์พี่อย่างเซียวเฉวียนนี้ ผู้อื่นไม่รู้ทว่าเหวินคุนกลับทราบ

เหวินคุนกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ รอจนกระทั่งเซียวเฉวียนออกมา การที่เว่ยชิงคุกเข่าเบื้องหน้าเซียวเฉวียนสิถึงจะนับว่าจริงใจ ทว่า เขาเองก็ดูออกเช่นกัน เว่ยชิงที่ดูเผินๆ อ่อนโยนสุภาพผู้นี้ แท้ที่จริงแล้วเป็นคนอำมหิตนัก

เหวินคุนเพียงแต่ยิ้มบาง “เอาละ อาจารย์ไม่มีเรื่องอันใด เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”

ก็แค่นี้?

ไม่มีอะไรแล้วหรือ?

วันที่ปีศาจกวีรับเซียวเฉวียนเป็นศิษย์วันนั้น ไฟผลาญหอบันทึกหลวง สั่นสะเทือนไปทั้งเมืองหลวง

กระทั่งฮ่องเต้ยังทรงลงมาทอดพระเนตรด้วยตนเอง

และในพริบตา เหล่าผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายต่างได้ทราบว่าเซียวเฉวียนกลายเป็นศิษย์คนแรกของปีศาจกวี

เว่ยชิงแค่คุกเข่า จากนั้นโขกศีรษะก็จบเรื่องแล้วหรือ?

ไม่จำเป็นต้องแจ้งเรื่องนี้แก่ทั้งเมืองหลวงหรือ?

คลื่นลมภายในใจของเว่ยชิงดังสมุทรโหม ทว่าเขาไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดมาก ทำได้เพียงคารวะอย่างเคารพนบนอบ “ศิษย์ขอลาก่อน”

เหวินคุนเพียงแค่พยักหน้าด้วยท่วงท่าชืดชาเป็นที่สุด คล้ายกับว่าเว่ยชิงยังไม่น่าสนใจเท่าเนื้อหมูผัดผักกาดดองในชามเลย

หลังจากที่เว่ยชิงออกจากจวนราชองครักษ์แล้ว เขาก็สะบัดชายเสื้อ “ใครก็ได้!”

ขันทีรายหนึ่งยิ้มตาหยีวิ่งมาหาเขา วันนี้ท่านอ๋ฮงนับว่าได้บรรลุเป้าหมายใหญ่หนึ่งในชีวิตของตนแล้ว “ท่านอ๋อง มีเรื่องใดกำชับให้บ่าวไปทำบ้างขอรับ?”

“เจ้าส่งคนไปตามถนนหนทางต่างๆ แล้วถ่ายทอดเรื่องที่ข้าได้กลายเป็นศิษย์ของปีศาจกวีออกไปซิ!”

เว่ยชิงโมโหเล็กน้อย แต่ก็ภูมิใจเช่นกัน

เรื่องนี้ จำเป็นต้องให้ทุกคนได้รับรู้เอาไว้!

“พ่ะย่ะค่ะๆๆ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้!” ขันทีแย้มยิ้มหวานเยิ้ม

“หากว่าทุกคนถามเรื่องศิษย์พี่อย่างเซียวเฉวียนผู้นี้ ก็บอกไปว่าไม่รู้แล้วกัน!”

เว่ยชิงกำหมัดแน่น เขาจะไม่ยอมให้คนรู้เด็ดขาดว่าเซียวเฉวียนเป็นศิษย์พี่ของเขา!

“เอ้อ พ่ะย่ะค่ะ! บ่าวจะไปดำเนินการ!”

ต้าเว่ยนั้นไม่มีเรื่องใดเร็วสักเรื่อง ทว่าข่าวลือนั้นกลับแพร่เร็วที่สุด ข่าวเรื่องเหวินคุนรับเว่ยชิงเป็นศิษย์นี้ ทำเอาวงการผู้สูงศักดิ์ตกตะลึงอึ้งไป สุดยอด สุดยอดไปเลย!

เหล่าคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ครั้นได้ฟังก็อิจฉาจนไม่รู้จะพูดเช่นไรดี เป็นพี่น้องกับฮ่องเต้นี่ดีจริง แค่ทะเลาะต่อยตีบนนนขบคิดอะไรเล็กน้อยก็พอ ยังได้โอกาสกราบปีศาจกวีเป็นอาจารย์

จวนฉิน

ฉินหนานคร่ำครวญอย่างไม่เป็นธรรม

สิ่งที่ฉินซูโหรวมอบให้นั้นคือพัดด้ามหนึ่ง

ในยุคโบราณ พัดนี้เรียกว่าพัดอู่หมิง

พัด เหมันต์หลับซ่อนคิมหันต์เผยโฉม ขับเน้นห้วงเวลา สิ่งที่เรียกว่า “ชี่”

มีโครงคอยค้ำยัน อันเรียกว่า “กู่”

กระดูกของพัดนั้นสร้างจากไผ่ แบ่งเป็น “เจี๋ย”

เมื่อพัดขยับไหว ก็มีลมพัดผ่านผิวหน้า อันเรียกว่า “เฟิง”

หนึ่งพัดอยู่ในมือ ก็คล้ายทั้งร่างมีชี่เจี๋ยเฟิงกู่ (เล่นคำแบบจีนหมายถึงความทรนงยึดมั่นในคุณธรรม) ดังนั้นแล้วบัณฑิตทั้งหลายจึงชมชอบพัดเป็นอย่างยิ่ง

“ฤดูร้อนใกล้เข้ามาร้อน อากาศอบอ้าว คุณชายอี้คงจะได้ใช้”

ฉินซูโหรวแย้มยิ้มเล็กน้อย นางมอบพัดหนึ่งให้อี้กุย หน้าพัดนั้นมีภาพวาดพู่กันลายนก และมีภาพบุปผาเบ่งบาน กำลังแข่งกันประชันความงาม

สีสันในภาพนั้นโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ชัดเจนและหนักแน่น แต่สีสันของมันนั้นเฉิดฉันครบครัน เส้นสายดูเป็นอิสระและงามสง่า ให้ความแข็งกร้าวและอ่อนช้อยในเวลาเดียวกัน ลายเส้นนั้นวิจิตรเปี่ยมความสมบูรณ์ สูงส่งสดใหม่

ลวดลายด้านหลังของพัดนั้น ใช้หมึกสีดำเข้มข้น ลงพู่กันอย่างทรงพลัง ยกพู่กันอย่างเบามือ เส้นอักษรนั้นดังเมฆาวารี ตัวอักษรเป็นระเบียบเรียบร้อยแฝงความมีเอกลักษณ์ เป็นธรรมชาติเป็นที่สุด รูปแบบและช่องไฟของตัวอักษรแต่ละตัวน่าพิศชมเป็นที่ยิ่ง

“พัดนี้ เพียงเห็นก็รู้ว่าล้ำค่า” อี้กุยเป็นคนที่รู้จักดูของคนหนึ่ง แม้ว่าจะชมชอบพัดนี้อย่างมากแต่ก็ยังปฏิเสธนาง “การโน้มน้าวคุณชายฉินนั้น เป็นงานเล็กน้อยสำหรับอี้โหม่วก็เท่านั้น พัดนี้ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ”

เกรงว่ากระทั่งท่านปู่น้อยก็คงไม่เคยรับของขวัญที่ล้ำค่าสูงส่งแบบนี้จากฉินซูโหรวมาก่อน

สตรีที่แต่งงานแล้วผู้หนึ่ง มอบพัดประจำตัวให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง นี่มิใช่ว่าโยนหัวข้อนินทาไปใส่ปากของคนพวกหนึ่งหรอกหรือ?

ทว่าฉินซูโหรวก็รั้นจะส่งเสียให้ได้ “คุณชายอี้รับไว้เถอะ หากว่าไม่รับ พรุ่งนี้ข้าก็จะมาส่งอีก”

“นี่...

ฉินซูโหรวไม่ได้เปิดโอกาสให้อี้กุยปฏิเสธ นางคารวะ จากนั้นก็จากไปพร้อมอาเซียงแล้ว

“คุณหนู หากท่านเขยรู้ว่าท่านมอบพัดล้ำค่าให้กับคุณชายอี้เช่นนี้ จะต้องโมโหแน่เจ้าค่ะ” อาเซียงเอ่ยพึมพำเสียงเบา

“คุณชายอี้นั้นดีกว่าเซียวเฉวียน อีกทั้งยังยอมช่วยข้า ข้าต้องการส่งให้เขา”

ฉินซูโหรวเอ่ยเสียงเย็น “ข้าไม่กลัวเขาโกรธหรอก!”

“คุณชายอี้อ่อนโยนกว่าหน่อยจริงเจ้าค่ะ” อาเซียงถอนหายใจเสียงเบา “คุณหนู อย่างไรเสียท่านก็อย่าได้...”

อย่าได้มีความคิดอะไรที่ไม่ควรมีกับคุณชายอี้เลย

ฉินซูโหรวรู้ว่าอาเซียงคิดอยากพูดสิ่งใด ทว่านางกลับไม่ตอบรับ อาเซียงร้อนรนใจแล้ว “คุณหนู หากพวกเราเป็นเช่นนี้อยู่อีก ท่านเขยก็จะโกรธจริงแล้วนะเจ้าค่ะ!”

“ข้าไม่กลัว! อี้กุยเป็นเจ้านายของเซียวเฉวียน เขายังสามารถโกรธอะไรได้?”

คิ้วดังกิ่วหลิวของฉินซูโหรวเลิกขึ้น “ประโยคหนึ่งของคุณชายอี้ เซียวเฉวียนก็ไม่กล้าขยับแล้วละ!”

เงินและที่พักของเซียวเฉวียนล้วนได้มาจากอี้กุยทั้งนั้น! เซียวเฉวียนนับเป็นตัวอะไรได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย