ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 283

โรงเรียนชิงหยวนเปิดโดยราชสำนัก แต่เจ้าของเป็นพี่น้องเหวินคุนและเหวินฮั่น

ปีศาจกวีไม่พอใจกับโรงเรียนชิงหยวนในปัจจุบันมานานแล้ว เขาต้องการส่งมอบให้ใคร ก็สามารถสืบทอดได้

เหวินคุนผู้มีนิสัยหัวแข็งอารมณ์ร้อนไม่เคยดูแล ในขณะที่เหวินฮั่นผู้มีอารมณ์อ่อนโยนดูแลจัดการโรงเรียนชิงหยวนมาหลายปี เขาไม่แก่งแย่งกับใคร ไม่แยแสกับชื่อเสียงโชคลาภ ไม่ขัดแย้งผู้มีอำนาจ ตั้งแต่เริ่มแรกโรงเรียนชิงหยวนสอนไม่เลือกประเภท ตอนหลังกลายเป็นโรงรียนเฉพาะสำหรับลูกหลานของผู้ร่ำรวยมีอำนาจ

ตราประทับลายมือของโรงเรียนชิงหยวนเทียบเท่ากับตราประทับหยกขององค์จักรพรรดิ

ในโรงเรียนชิงหยวน ใครก็ตามที่มีตราประทับนี้อยู่ในมือก็คือหัวหน้าของโรงเรียนชิงหยวน และการงานทุกอย่างต้องฟังคำสั่งของผู้ที่ถือตราประทับ

จงกุ้ยขมวดคิ้ว แต่ไม่กล้ารอช้าจึงรีบกลับไปที่พระราชวัง

ปีศาจกวีจ้องมองนักพเนจรอ้วนกลมในมือของเขา "เอาเจ้านี่แหละมอบเป็นของขวัญให้กับลูกศิษย์ของข้า เป็นวาสนาของเจ้าที่ได้พบเขา นักพเนจรพวกเจ้ามักเป็นที่รู้กันว่ากล้าหาญ จะให้ดูลูกศิษย์ของข้าสิ แล้วจะรู้ว่าความกล้าหาญที่แท้จริงคืออย่างไร"

นักพเนจรนั้นตัวสั่นและฉี่รดกางเกง ไม่จำเป็นต้องดู เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของเซียวเฉวียนและไป่ฉี......

ทางนี้ ปีศาจกวีกำลังภูมิใจที่เซียวเฉวียนจะตายอย่างกล้าหาญ

ทางโน้น เซียวเฉวียนคำรามด้วยโทสะ "อา!"

ตราประทับสีแดงกลายเป็นสัญลักษณ์ประกายสีแดงและเริ่มกดลงมาจากเพดานของหอปี้เซิ่ง!

อัดลงมาที่เซียวเฉวียนโดยตรง!

พู่กันจินหลุนเฉียนคุนลอยอยู่กลางอากาศ!

ยันตราประทับไว้อย่างสุดชีวิต!

เว่ยชิงโมโหโทโส "เซียวเฉวียน! เจ้าต้องตายแน่นอน! ไม่ต้องดิ้นรน!"

เซียวเฉวียนจะตายหรือไม่ เซียวเฉวียนไม่รู้ แต่ฉินเฟิงกำลังจะถูกเหวินอิ้นกดอัดจวนจะตายอยู่แล้ว!

ตราประทับสีแดงยักษ์ใหญ่ ร้อนแรงมากสุดๆ !

เสมือนโดนภูเขาทั้งลูกค่อยๆ กดทับลงมา!

อา!

เจ็บปวด!

ฉินเฟิงคำรามด้วยความเจ็บปวด!

เขาเป็นข้าราชสำนักทั้งบู๊และบุ๋น!

เหวินอิ้นกดอัดมาอย่างหนักหน่วง!

ส่วนที่กดทับฉินเฟิงไว้ตอนนี้เป็นเพียงขอบริมๆ ของตราประทับ ฉินเฟิงก็ปวดหัวแทบแตกอยู่แล้ว!

ไม่ต้องพูดถึงเซียวเฉวียนที่อยู่ตรงกลางของตราประทับ!

เซียวเฉวียนเหงื่อแตกและรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่กระดูกสันหลัง!

ราวกับว่ามีมือยักษ์ใหญ่อยากจะขยี้หัวและร่างกายของเขาให้ระเบิด!

จริงด้วย! เหวินอิ้นสมชื่อตามที่เล่าลือ!

สิ่งนี้เกิดมาเพื่อปราบปรามพวกปัญญาชน!

มีรากเหง้าแห่งการฝึกตนยิ่งแข็งแกร่ง ความเจ็บปวดก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น!

”ตุบ!” ฉินเฟิงคุกเข่าลงบนพื้น คลุมศีรษะแล้วคำราม “อา!”

เจ้านี่มันโคตรโง่เลย!” เซียวเฉวียนจะเตะเจ้าโง่ฉินเฟิงให้ตาย สู้เขาไม่ได้ วิ่งไม่เป็นหรือไง “เจ้าหนีให้พ้นจากตราประทับไม่ได้เหรอไง?”

ท่ามกลางความเจ็บปวดฉินเฟิงไม่ลืมที่จะกลอกตาให้เซียวเฉวียน!

เขาต้องการหลบหนี!

แต่ภายในระยะสิบเมตรจากตราประทับ ไม่มีทางหนีรอดได้!

พลังมหาศาลกำลังกดทับบนตัวเขา เขาจะถอยออกอย่างไร?

กระดูกของเขากำลังจะแหลกสลาย!

”เซียวเฉวียน ยอมตายซะเถอะ!” ดวงตาของเว่ยชิงแดงก่ำ “ข้าสามารถแผ่ความเมตตาและรักษาร่างกายของเจ้าให้ครบถ้วน!”

เว่ยชิงหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง!

เห็นแก่ชาวบ้านสามคน เซียวเฉวียนกล้าจะมาให้เว่ยชิงชดใช้ชีวิตของพวกเขา!

มันเป็นอะไร!

เขาเป็นเจ้าอ๋องครองเมืองทั้งคน!

ชดใช้ชีวิตให้ชาวบ้านสามคน?

ถุย!

ดวงตาของเว่ยชิงแดงก่ำ มีหลี่มู่มาห้ามเขาครั้งที่แล้ว เลยไม่ได้ใช้ตราประทับ

ช่วยเซียวเฉวียนไป!

เที่ยวนี้เซียวเฉวียนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คิดว่าได้อาวุธมาแล้วจะมาท้าทายเขาได้!

เขาจะต้องแสดงให้เซียวเฉวียนรู้ว่า ตราประทับเหวินอิ้นนั้นเป็นที่สูงสุดไร้เทียมทาน!

เมื่อมีตราประทับเหวินอิ้นอยู่ในมือ ปัญญาชนจะต้องก้มศีรษะให้และยอมจำนน!

มิฉะนั้น จะตายไม่เหลือซาก!

มันจะเหลือเพียงเลือดกองหนึ่งเท่านั้น!

”ไปตายซะ! คนหยิ่งผยอง!” เว่ยชิงคำรามด้วยความโมโห ในหอปี้เซิ่ง ลมอาฆาตกระเพื่อมขึ้นเป็นระลอกๆ !

มันพัดจนใบหน้าของเซียวเฉวียนและฉินเฟิงเจ็บแสบไปหมด!

พู่กันจินหลุนเฉียนคุนแกว่งอย่างบ้าคลั่งบนกลางอากาศ ลมแรงมากจนแทบจะพัดมันให้พลิกตัวไป!

เซียวเฉวียนกลั้นลมหายใจ ตั้งสมาธิโดยครุ่นคิดว่าบทกวีแนวไหนเหมาะสม เพราะบทกวีสามารถขับเคลื่อนพู่กันจินหลุนเฉียนคุนได้

เว่ยชิงหัวเราะ หัวเราะเซียวเฉวียนไร้เดียงสา! อ่อนหัด!

”เซียวเฉวียน! เจ้าคิดว่าเรากำลังแข่งท่องบทกวีอยู่หรือ? มีตราประทับเหวินอิ้นอยู่ในมือ ท่องบทกวีอะไรก็ไร้ประโยชน์!”

เว่ยชิงหัวเราะเสียงดัง!

“เจ้าเป็นคนอาศัยเขากิน เป็นผู้ชายที่ไม่สามารถดูแลแม้ภรรยาของตัวเองได้! ยังบังอาจมาต่อสู้กับข้า!”

“เจ้าบอกว่าโชคชะตามันขึ้นอยู่กับเจ้าไม่ขึ้นอยู่กับสวรรค์! วันนี้ข้าอ๋องอยากจะแสดงให้เจ้าเห็นว่า ชีวิตนี้ขึ้นอยู่กับเจ้า! หรือขึ้นอยู่กับข้า!”

เว่ยชิงผู้เย่อหยิ่งเปรียบเทียบตัวเองเป็นสวรรค์

ในสมัยโบราณ มีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอจะเปรียบเทียบตัวเองกับสวรรค์ได้!

เว่ยชิงซึ่งมีตราประทับเหวินอิ้นอยู่ในมือ ได้ลืมตัวตนของเขาไปแล้ว!

”ฆ่าเจ้าแล้ว ข้าก็จะได้เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของปีศาจกวี!”

เว่ยชิงพูดอย่างเย็นชา เขาต้องการผูกขาดวิชาของปีศาจกวีที่สะสมมาตลอดชีวิต!

สาวใช้ในวังที่คอยรับใช้ปรนนิบัติอยู่ข้างๆ กรีดร้องด้วยความตกใจ

ขันทีหม่ากงกงซึ่งสะดุ้งตกใจเช่นกันกล่าวดุว่า "เสียมารยาทยิ่งนัก! ถอยออกไป!"

เหล่าสาวใช้ถอยออกไปด้วยความเกรงกลัว องค์จักรพรรดิค่อยๆ วางตะเกียบลง มือสีขาวและอ่อนโยนคู่หนึ่งได้ยื่นถวายชามซุปมาให้ “ฝ่าบาท เสวยน้ำซุปหน่อยเถิด”

เป็นเม่ยซี

เม่ยซียิ้มน้อยๆ โฉมหน้างดงามมีเสน่ห์และอ่อนโยน

เธอได้กลายเป็นผู้หญิงของจักรพรรดิแล้ว

เพียงแต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

”ฟ้าร้องนี้เป็นเสียงขับเคลื่อนเหวินอิ้น ดูเหตุการณ์แล้ว พี่ใหญ่เซียวของเธอกำลังต่อสู้กับพี่น้องของข้าพเจ้า”

การต่อสู้ที่ทำให้โลกแตกนี้ฟังดูเบาหวิวมากในปากขององค์จักรพรรดิ ราวกับว่าเป็นเด็กเล่นตีกัน

”บอกข้าหน่อยว่าข้าควรช่วยใคร?”

องค์จักรพรรดิถามเชิงหยั่งใจ

เม่ยซียิ้ม "เม่ยซีเข้าข้างใครไม่ได้ พี่น้องของฝ่าบาทก็เสมือนเป็นพี่น้องของเม่ยซีเช่นกัน พี่เซียวก็มีบุญคุณชุบชีวิตกับน้อง"

องค์จักรพรรดิพอใจกับคำตอบของเม่ยซีมาก

แต่เสียงของเม่ยซีเปลี่ยนไป "แต่ว่าเรื่องนี้เกิดจากการที่นักพเนจรเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างพร่ำเพรื่อ ถ้าพวกนักพเนจรไม่ได้ฆ่าตระกูลสวี่ พี่เซียวก็คงไม่โมโหโกรธา นักพเนจรเหล่านั้นน่ารำคาญจริงๆ "

สิ่งที่ออกมาจากปากของผู้หญิง อาจทำให้ผู้ชายเวียนหัวหลงทางได้

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้หญิงที่สวยงามตระการตาอย่างเม่ยซี ขมวดคิ้วทีหนึ่งสามารถทำให้อารมณ์ของชายเปลี่ยนไปได้

เม่ยซีบรรยาย ตอนที่เซียวเฉวียนเป็นอัมพฤกษ์ พวกนักพเนจรเหล่านั้นรังควานหอปี้เซิ่งอย่างไร กินดื่มตามใจชอบในหอปี้เซิ่ง และลวนลามเธออย่างไร กล่าวทุกรายละเอียดออกมา

พูดถึงพวกนักพเนจรเที่ยวกินของฟรีนั้นเป็นเรื่องเล็ก

แต่ประเด็นเรื่องลวนลามเธอนั้น เป็นประสงค์สำคัญที่เม่ยซีจะฟ้องให้จักรพรรดิได้รับทราบ

ไม่ผิดหวัง คิ้วตาขององค์จักรพรรดิหล่นตุ๊บ "เรื่องนี้ เว่ยชิงส่งคนมาทำหรือ?"

องค์จักรพรรดิรู้ว่าพวกนักพเนจรเหิมเกริม แต่พระองค์ไม่รู้ว่าพวกเขาเหิมเกริมถึงขนาดนี้!

”ท่านอ๋องก็ไม่ได้ตั้งใจ ท่านไม่รู้ว่าพวกนักพเนจรชอบอวดอ้างอำนาจของเจ้านายมาทำเรื่องต่ำทรามชั่วร้าย” เม่ยซียิ้มเบาๆ อย่างเอาอกเอาใจ “ท่านเป็นพี่น้องของฝ่าบาท ฝ่าบาทอย่าไปถือสาท่านเลย ”

”พี่เซียวได้สังหารคนที่ดูถูกน้องไปแล้วสี่สิบกว่าคน ทำให้น้องได้คลายความขุ่นเคืองใจไปแล้ว”

”ไม่ได้” องค์จักรพรรดิกำหมัดแน่น พวกนักพเนจรโอหังเกินไปแล้ว!

ขันทีหม่ากงกงยืนฟังอยู่ข้างๆ รู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ

เม่ยซีคนนี้ที่ใต้เท้าเซียวส่งเข้ามาไม่ใช่ย่อยๆ เสียแล้ว! ในช่วงเวลาสั้นๆ ปั่นจนจักรพรรดิครึมหลงทิศทางไปหมด!

”มานี่! เรียกตัวแม่ทัพฉินเซิ่ง!”

เมื่อองค์จักรพรรดิตามตัวแม่ทัพ ไม่เคยจะเป็นเรื่องอะไรดีเลย

ดูแล้ว กลุ่มคนนักพเนจรนี้ จะโชคร้ายจริงๆ ซะแล้ว

ขันทีหม่ากงกงขมวดคิ้ว "ขอรับ"

”ถือโอกาส นำตราประทับลายมือของโรงเรียนชิงหยวนไปให้ปีศาจกวีด้วย” องค์จักรพรรดิยิ้มเบาๆ เดาไม่ถูกอารมณ์ที่แท้จริงของพระองค์ได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย