ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 291

เซียวเฉวียนช้อนสายตามาดูหนึ่งหน ไม่รู้จักคนผู้นี้

คนผู้นี้สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ใบหน้าหมดจดงดงาม ภายในหนึ่งประโยคช่วงเวลาสั้น ๆ ดวงตาก็แอบสำรวจเซียวเฉวียนจากบนลงล่างจากล่างขึ้นบนไปสองรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมืองหลวง ณ ตอนนี้ ผู้ที่เห็นเซียวเฉวียนขวางหูขวางตานั้นมีเกลื่อนเป็นไปหมด เซียวเฉวียนย่อมไม่สนใจคนเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะในวันหนึ่งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นมีเรื่องราวมากมายที่จะต้องทำอย่างไรล่ะ!

ยิ่งไปกว่านั้นแล้วคนผู้นี้มองดูแล้วคำพูดคำจาถากถาง ไร้มารยาท ประโยคไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบสักประโยคก็ไม่มีเช่นกัน ราวกับว่ากำลังจงใจเย้ยหยันเซียวเฉวียนอยู่เลยก็ไม่ปาน

ดวงตาของเซียวเฉวียนไม่ว่อกแว่ก เดินมุ่งหน้าตรงไปต่อ เมื่อคนผู้นั้นเห็นเช่นนี้แล้ว ดังนั้นจึงรายงานชื่อเสียงเรียงนามของตนเองด้วยความหยิ่งผยองทันที "ข้าคือพ่อบ้านแห่งจวนอัครเสนาบดี ไม่ทราบใต้เท้าเซียวเห็นคุณชายของข้าบ้างหรือเปล่า?"

ที่แท้ก็เป็นคนที่มาจากตระกูลของไอ้งี่เง่าจูโชงนั่น

พ่อบ้านเอ่ยถามขึ้นมาเช่นนี้ย่อมที่จะต้องเป็นการแสร้งเอ่ยถามขึ้นมาอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของหอปี๋เซิ่งใหญ่โตเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ล้วนทราบอยู่แล้วว่าจูโชงอยู่ที่นั่น

"คุณชายของท่านร่ำสุรากับท่านอ๋องอยู่ที่หอปี๋เซิ่ง ท่านไปหาเขาที่นั่นเถิด"

เซียวเฉวียนส่งเสียงหึเย็นชาหนึ่งเสียง สะบัดชายเสื้อหนึ่งหน เดินจากไปแล้ว

เห็นเซียวเฉวียนใคร่จะไม่ไยดี ท่าทีไม่มีความรู้สึกเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว พ่อบ้านกระทืบเท้าด้วยความโกรธ "ใต้เท้าเซียว! ท่านอัครเสนาบดีมีกลอนประโยคหนึ่งมอบให้แก่ท่าน!"

ร่างทั้งร่างของเซียวเฉวียนพลันชะงักนิ่งทันที เขากลับอยากที่จะฟังดูเสียหน่อย ว่าอัครเสนาบดีชั่วช้าไร้ยางอายผู้นี้จะมอบบทกลอนอะไรแก่เขา!

"เจ้าปัญญาชนแลชื่อเสียเล็กจ้อยในพงศาวดาร ขยะไร้ค่าเทียบแม่น้ำยั่งยืนมิได้!"

ความหมายของกลอนบทนี้คือพวกเจ้าปัญญาชนกลุ่มนี้ เป็นเพียงแค่เศษเล็กเศษน้อยในแม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองชื่อเสียงจึงต้องมอดม้วยดับไป ส่วนพวกเขากลุ่มคนเหล่านี้กลับสามารถเป็นได้ถึงแม่น้ำไม่มีวันม้วยมลาย คงอยู่ยิ่งยืนนาน

อัครเสนาบดีก็คืออัครเสนาบดี ปรมาจารย์วรรณคดีก็คือปรมาจารย์วรรณคดี ด่าคนขึ้นมาแล้วก็ช่างมีมารยาทดีแท้

กลอนของอัครเสนาบดีบทนี้ แปลเป็นภาษาในยุคปัจจุบันก็คือ ถ้ายังตอแหลอีก แกโดนตีตายแน่

เซียวเฉวียนไม่สบอารมณ์ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจูโชงทำไปเพื่อเกาะขาเว่ยชิง ดังนั้นจึงทำเรื่องไร้ยางอาย ตอนนี้อัครเสนาบดียังจะมาข่มขู่เขาอีก

เป็นอัครเสนาบดีแล้วอย่างไร?

มีอาจารย์อยู่ ขนาดฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ!

เซียวเฉวียนแอ่นเอวตั้งตรง "มาแล้วไม่ทักทายไร้มารยาท ข้าเองก็ขอส่งกลอนบทนี้แก่ท่านอัครเสนาบดีหนึ่งบทด้วยเช่นเดียวกัน"

"อะไรนะ?" หัวคิ้วของพ่อบ้านขมวดกันแน่นทันที ท่านอัครเสนาบดีกำลังตักเตือนเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนยังจะกล้าต่อปากต่อคำอีกหรือ?

เซียวเฉวียนด่าคนอย่างมีมารยาทสู้คนโบราณไม่ได้

เซียวเฉวียนสูดลมหายใจลึก ๆ แรง ๆ หนึ่งหน ค่อย ๆ กล่าวทีละคำทีละประโยคอย่างเชื่องช้าว่า "ปัญญาเจ้า เกรงว่าจะมีปัญหาแล้ว!"

ปัญญาอ่อน!

ประโยคด่าคนในยุคปัจจุบันประโยคนี้ พอวางเอาไว้ในบทกลอนสมัยโบราณแล้วช่างเหมาะเหม็งดีเหมือนกัน!

"ท่าน!"

สุดท้ายพ่อบ้านก็บันดาลโทสะจนกระทืบเท้าจนได้ เซียวเฉวียนหัวร่อยกใหญ่ สะบัดชายเสื้อจากไปแล้ว!

ทว่าสุดท้ายเซียวเฉวียนก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดวันนี้จึงมีผู้คนมากมายมาให้คำแนะนำกับเขามากเช่นนี้ เจ้านี่มันจริง ๆ เลยเชียวฉินซูโหรว ตั้งครรภ์แล้วยังไม่ปล่อยให้อยู่อย่างสุขสงบ แต่กลับสวมหมวกเขียว [1] ให้เขาเสียใบใหญ่เช่นนี้!

ก่อนหน้านี้ตอนที่เซียวเฉวียนยังไม่เคยนอนกับนางมาก่อน นางกลับมีใจอาลัยต่อจูโชงไม่ขาดสาย

ตอนนี้ในท้องของนางมีเด็กอยู่แล้ว แต่กลับทำเรื่องไม่กล้าสู้หน้าคนพรรค์นี้เสียได้

!

ช่างเป็นสุนัขที่แก้การกินมูลไม่ได้เสียจริง! [2]

ซิ่งแดงออกนอกกำแพง? [3]

นางคบกับใครใหม่แล้วหรือ?

หากเป็นในตอนก่อนหน้านี้นั้น เซียวเฉวียนย่อมกลับไปถามหาความผิดที่จวนฉินอย่างบุ่มบ่ามแล้วเป็นแน่!

ทว่าวันนี้เป็นพิธีเปิดสถานศึกษาชิงหยวนเป็นครั้งแรกอีกครั้ง เรื่องนี้จึงสลักสำคัญกว่าฉินซูโหรวกว่ามาก

เซียวเฉวียนทราบดีว่าเหวินคุนและเหวินฮั่นเป็นประมุขที่แท้จริงของสถานศึกษาชิงหยวน ฮ่องเต้ให้เซียวเฉวียนสืบทอดสถานศึกษาชิงหยวนต่อ เช่นนั้นย่อมเป็นความประสงค์ของเหวินคุนอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

ทว่าเหตุใดจึงต้องให้เขารับช่วงต่อ?

ปีศาจกวีอุปนิสัยร้ายกาจรุนแรง ประเดี๋ยวโกรธประเดี๋ยวหาย แต่ก็ไม่เคยยุ่งเรื่องราวในราชสำนักมาก่อน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสถานศึกษาชิงหยวน

ตอนนี้ให้พู่กันจินหลุนเฉียนคุนแก่เซียวเฉวียนมาสักด้ามก่อน เพราะยังต้องกวาดล้างยุทธ์ภพ หลังจากนั้นก็ค่อยให้เขารับช่วงต่อสถานศึกษาชิงหยวน

กระบวนการดำเนินการทั้งหมดนี้คล้ายกับการร่างพินัยกรรมของคนสมัยปัจจุบัน

ก่อนที่จะตายก็ส่งมอบทรัพย์สินให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ

เซียวเฉวียนขมวดคิ้วแน่น คงไม่ใช่หรอกกระมัง

เขากราบอาจารย์ยังไม่ทันจะสองเดือนดี ปีศาจกวีก็จะ...

แม้เขาจะไม่ชอบความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของตาเฒ่าผู้นี้ก็ตาม ทว่าเขาเองก็เป็นศิษย์อาจารย์ภายใต้การสั่งสอนของอาจารย์เหวินฮั่นอยู่แล้ว ทั้งยังมีบุญคุณที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้อีก ปากบอกเอาแต่กล่าวว่ารังเกียจ ทว่าภายในหัวใจกลับเคารพนับถือ

เซียวเฉวียนกลับไม่เสียดายเงินกับสิ่งของเหล่านี้เลย เพียงแต่เขาแค่ไม่เข้าใจว่าปีศาจกวีกำลังทำอะไรอยู่ก็เท่านั้นเอง

ปีศาจกวีกำลังอาบแดดอยู่อย่างสบายใจเฉิบ ทางด้านข้างมีเสาไม้อยู่สองต้น มันกำลังมัดจอมยุทธ์หนึ่งอ้วนหนึ่งผอมเอาไว้อยู่

จอมยุทธ์สองผู้นั้นใบหน้าไร้ความรู้สึก สีหน้าเต็มไปด้วยความหดหู่ใจ เกรงว่าคงจะหวาดกลัวไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้กลับไม่กลัวอีกแล้วกระมัง

ไม่ถูกสิ

เซียวเฉวียนสบตามองดูดี ๆ อีกครั้ง สีหน้าของทั้งสองคนไร้โลหิต หายใจติด ๆ ขัด ๆ เหลือเพียงลมหายใจสุดท้ายเท่านั้นแล้ว

เซียวเฉวียนกำลังจะเดินเข้าไปทางด้านหน้า ปีศาจกวีกลับผุดลุกยืนขึ้นมาแล้ว สุรเสียงกังวานราวนาฬิกา สั่นสะเทือนไปทั้งสถานศึกษาชิงหยวน "วันนี้! สถานศึกษาชิงหยวนเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว!"

"ข้าเหวินคุนขอใช้พิธีนี้กราบไหว้บอกฟ้าดิน! ใช้โลหิตเซ่นวิญญาณก่อน! สถานศึกษาชิงหยวน นับตั้งแต่นี้ต่อไปจะมีศิษย์ของเหวินฮั่น ศิษย์เอกเซียวเฉวียนแห่งเหวินคุนคอยดูแล!"

"หวังว่าศิษย์ของสถานศึกษาชิงหยวน สานสัมพันธ์กับอาจารย์ เชื่อมั่นกับเต๋า! เคารพอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสอน! เคารพอาจารย์ ดำเนินตามคำสอน!"

ประโยคหลังนี้นั้น กำลังบอกคนที่มาเรียนหนังสือที่สถานศึกษาชิงหยวนว่าให้ตั้งใจร่ำเรียน เคารพครูบาอาจารย์

ปีศาจกวีออกแรงกล่าวจบ เหล่าประชาชนต่างก็ชะงักนิ่งกันไปทันที นอกจากได้ฟังว่าเซียวเฉวียนเป็นลูกพี่ใหญ่แห่งสถานศึกษาชิงหยวนแล้ว อย่างอื่นก็ฟังไม่เข้าใจเลย ต่างพากันตบมือเสียแล้ว!

"แปะ ๆ ๆ!"

เหวินคุนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ "วันนี้สถานศึกษาชิงหยวนจะสังหารจอมยุทธ์สองคนที่ทำร้ายประชาชน! ฆ่าหนึ่งเตือนร้อย ใช้การเตือนนี้เป็นประโยชน์! คนสองผู้นี้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์! รังแกสังหารประชาชน! เข้ามาเป็นศิษย์แห่งสถานศึกษาชิงหยวนแล้ว ควรที่จะจดจำวันนี้เอาไว้ให้ดี วันหน้าปัญญาชนผดุงความยุติธรรม ใช้แข็งช่วยอ่อน จอมยุทธ์สองคนพรรค์นี้ช่างย้อนแย้ง!"

เมื่อสุรเสียงเหวินคุนสิ้นสุดลองจึงแกว่งมือไปในอากาศหนึ่งหน!

จอมยุทธ์ทั้งสองคนยังไม่ทันที่จะได้หวาดกลัว ลำคอก็ส่งเสียง "กรอบ" ถูกตัดหักไปเสียแล้ว ก่อนจะกลิ้งหลุน ๆ ลงมาข้างล่าง!

สุรเสียงตบมือราวกับอัสนีดังขึ้น เหล่าประชาชนรังเกียจยอมยุทธ์สองผู้นี้มาตั้งนานแล้ว ก่อนจะออกแรงตบความโกรธแค้นในวันวานออกมา

เสียงตบมือราวกับเสียงคลื่นในมหาสมุทรเลยก็ไม่ปาน พรั่งพรูดังขึ้นทั่วทุกสารทิศรอบตัวเซียวเฉวียน ดังกระหึ่มกังวานราวกับคลื่นทะเล ส่งเสียงโห่ร้องอยู่ข้างใบหูเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนที่อ่านประวัติศาสตร์พันปีมา ในช่วงเวลานี้กลับสัมผัสได้ถึงความว่องไวหลักแหลมอย่างหนึ่งว่า ณ ตอนนี้เวลานี้นั้น เขากำลังยืนอยู่ในช่วงจุดเริ่มต้นแห่งการปฏิวัติของเว่ยชิง

"เซียวเฉวียน! รับตราประทับมือของสถานศึกษา!"

เหวินคุนคำรามหนึ่งเสียง เหล่าประชาชนต่างก็หันศีรษะไปมอง ทุกสายตาต่างไปรวมอยู่บนร่างของเซียวเฉวียนแล้ว สายตาวับวาวที่เต็มไปด้วยพลังกำลังนั่น เซียวเฉวียนไม่เคยเห็นมาก่อน

[1] สวมหมวกเขียว หมายถึง คบชู้ นอกใจ

[2] สุนัขที่แก้การกินมูลไม่ได้เสียจริง หมายถึง อุปนิสัยที่ไม่ว่าวันเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็แก้ไม่หาย

[3] ซิ่งแดงออกนอกกำแพง ซิ่งคือผลไม้ชนิดหนึ่ง สำนวนนี้หมายถึง ภรรยาที่ออกนอกลู่นอกทางไปมีรักใหม่ระหว่างการสมรส

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย