ณ สำนักบัณฑิต
ปีศาจกวีและเซียวเฉวียนนั่งอยู่ตรงกันข้ามกัน
ด้านนอกยังคงคึกคักอย่างมาก ประชาชนลงสมัครกันขวักไขว่ไปมาไม่ขาดสาย
ในมือของเซียวเฉวียนถือพู่กันจินหลุนเฉียนคุน ตราประทับมือ และยังมีพระราชโองการหนึ่งเล่ม
ในพระราชโองการ เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า เซียวเฉวียนได้เป็นผู้สืบทอดสถานศึกษาชิงหยวนแล้ว
ต่อจากนี้ เซียวเฉวียนก็คือเจ้าของสถานศึกษาชิงหยวน
เซียวเฉวียนมีคำถามมากมาย แน่นอนว่าปีศาจกวีย่อมต้องเข้าใจ
นานทีที่ปีศาจกวีจะจริงจังสักครั้ง พูดจาด้วยความสุขุม “เซียวเฉวียน จวนเซียวล้มสลาย เจ้าก็เป็นแค่ลูกเขยของจวนฉิน และไม่ได้มีอำนาจวาสนาในต้าเว่ย วันนี้ได้เป็นเจ้าของสถานศึกษาชิงหยวน มีตำแหน่งที่มั่นคงแล้ว คนอื่นจะได้เคารพเจ้าบ้าง”
“ในฐานะอาจารย์ นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะมอบให้เจ้าได้”
“ท่านอาจารย์...” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว จริงด้วย อาจารย์กำลังฝากฝังเรื่องสุดท้ายในชีวิต “ท่านไม่สบายตรงไหน? หรือว่าท่านป่วย? ข้าจะหาหมอมารักษาท่าน และเป็นหมอที่ดีที่สุดในเมืองหลวง”
ปีศาจกวีแทบพ่นน้ำใส่ใบหน้าของเซียวเฉวียน “พรวด! เจ้านี่มันเป็นศิษย์ไม่รู้คุณจริง ๆ เจ้าแช่งให้ข้าตายงั้นรึ?”
“ข้าพูดด้วยความจริงจังในฐานะอาจารย์! เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนกำลังฝากฝังเรื่องสุดท้ายก่อนตายงั้นรึ?”
เซียวเฉวียนตะลึงงัน “เหมือนขอรับ”
“เจ้าดูสภาพร่างกายและจิตวิญญาณของข้า! ดูเหมือนคนใกล้ตายงั้นรึ!” ปีศาจกวีทุบกำปั้นลงบนไหล่ของเซียวเฉวียน “ไร้สาระ! ท่านอาจารย์มีอายุยืนยาว! มีชีวิตไปถึงร้อยปีก็ไม่มีปัญหา!”
“แต่ท่านบอกว่า ปีนี้ท่านอายุเก้าสิบเก้าปีแล้วไม่ใช่รึ?” เซียวเฉวียนยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่เบา ๆ
ปีศาจกวีชะงัก
เอ๋?
ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น!
ปีศาจกวีตบลงที่โต๊ะ “เจ้านี่! ข้ารับคนอย่างเจ้ามาเป็นลูกศิษย์ได้อย่างไรกัน! คนไม่รู้คุณ!”
“คืนตราประทับมือมาให้ข้า!”
เมื่อปีศาจกวีพูดออกมา เซียวเฉวียนก็รีบส่งคืนให้อย่างไม่ลังเลในทันที!
ปีศาจกวีเห็นว่าเขากำลังจะคืน จึงรีบผลักมือออก “ออกไป! ข้าไม่อยากได้ของที่เจ้าเคยจับแล้ว!”
เซียวเฉวียนดึงมือกลับด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ “ว่ามาเถอะท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เหตุใดจึงต้องล้อมปราบผู้คนในเจียงหูอย่างกระทันหัน?
เหตุใดจึงให้เซียวเฉวียนเป็นผู้สืบทอดสถานศึกษาชิงหยวน?
เหตุใดก่อนหน้านี้จึงหายไปนานขนาดนั้น? เพื่อตามหาพู่กันให้เซียวเฉวียนงั้นหรือ?
“เจ้าอ้าปากก็พูดฉอด ๆ ๆ เลยนะ เอาคำถามมาจากไหนเยอะแยะแบบนี้?”
ปีศาจกวีทำทีแคะหู นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเซียวเฉวียนพูดมากเช่นนี้!
“อ้อ สามคนในตระกูลสวี่ได้ช่วยลูกศิษย์ข้าไว้ หากข้าไม่จัดการกับผู้คนในเจียงหู จะไม่เป็นคนเนรคุณต่อพวกเขาหรืออย่างไร?”
คำว่าจัดการของปีศาจกวี ทำให้ซือชือต้องเสียความพยายามที่ทำมาทั้งชีวิต
ภายใต้พระราชโองการของฮ่องเต้ กองทัพตระกูลฉินกวาดล้างเมืองหลวงได้หมดจด
และผู้คนในเจียงหูที่รัฐไป๋ลู่ ก็จะต้องเริ่มเข้าร่วมกองทัพด้วย
เว่ยชิงสูญเสียแขนที่ใช้เวลาสี่สิบปีในการสร้างกำลังที่แข็งแกร่ง นี่ก็คือ...
การจัดการของปีศาจกวีงั้นหรือ?
เซียวเฉวียนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ ปีศาจกวีกลับพยักหน้า “ใช่ ก็ง่าย ๆ แค่นี้เองแหละ”
“สามีภรรยาตระกูลสวี่ช่วยเจ้าไว้ ถือเป็นผู้มีบุณคุณของปีศาจกวีอย่างข้า คนที่ช่วยลูกศิษย์ของข้าไว้ได้ จะต้องตายอย่างไร้การอภัย!”
เซียวเฉวียนตะลึง ใบหน้าปีศาจกวีไม่มีท่าทีพูดเล่นแม้แต่น้อย
“เหตุใดท่านจึงไม่มาช่วยข้า?”
“เพราะข้าไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ตอนนั้นข้าอยู่ต่างเมือง” ปีศาจกวีส่ายหัว พร้อมกับถอนหายใจ “เดิมทีข้าอยากให้เจ้าได้ใช้เวลาปลูกรากเหง้าการฝึกตนสักสามเดือน แต่ใครจะคิดว่าฉินเฟิงจะโหดเหี้ยมเพียงนี้ หลังจากนำตัวเจ้าไปทิ้งบนพื้นหิมะ และยังใช้มีดแทงเข้าที่กระดูกสันหลังของเจ้าอีก”
ปีศาจกวีบรรยายออกมาเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ขึ้นมาที่กระดูกสันหลัง
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “ท่านอยู่ต่างเมือง ท่านยังส่งหิมะตกหนักมาให้ข้าอีกหรือ?”
“แน่นอน ข้าไม่ได้เป็นอาจารย์เล่น ๆ นะ” ปีศาจกวียิ้มเบา ๆ
“เช่นนั้น ที่ท่านให้ข้าสืบทอดสถานศึกษาชิงหยวน ก็เพื่อให้ข้ามีตำแหน่งทางสังคมงั้นหรือ?”
ปีศาจกวีทำสีหน้าไม่สนใจใยดี “ข้าจัดการศิษย์น้องเว่ยชิงให้เจ้าแล้ว เจ้าสั่งสอนเขาให้ดี ๆ ล่ะ!”
“อ้อ ขอรับ”
หากเว่ยชิงได้ยินประโยคนี้เข้า เกรงว่าจะกลัวจนตัวสั่น เพิ่งจะไหว้ครู แต่ท่านอาจารย์ก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงา แล้วยังต้องเจอกับศิษย์พี่อย่างเซียวเฉวียนอีก
ปีศาจกวีพยักหน้าอย่างพอใจ “ภารกิจสุดท้ายที่จะมอบให้เจ้า แต่งงานกับองค์หญิงสักพระองค์”
“ห๋า?”
“ทำไมกัน? เป็นศิษย์ของข้า และเป็นเจ้าของสถานศึกษาชิงหยวนยังไม่คู่ควรกับองค์หญิงสักพระองค์เลยรึ? ใครจะพูดว่าเจ้าไม่คู่ควร! แต่ข้าจะบอกว่าเจ้าคู่ควร!”
“ท่านอาจารย์ ข้ามีภรรยาแล้ว ข้าเพียงช่วยฝ่าบาทขวางทางเว่ยชิง ให้เว่ยชิงตกแต่งไม่สำเร็จ หากให้ข้าสู่ขอองค์หญิงละก็ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย...”
“เจ้าชอบองค์หญิงไม่ใช่รึ?” ปีศาจกวีถามขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
เซียวเฉวียนไม่ตอบ เขารับปากฉินปาฟางว่าจะดูแลฉินซูโหรวให้ดี เขาต้องรักษาสัญญาไว้ให้ได้
“เจ้าดูแลฉินซูโหรว พร้อมกับดูแลองค์หญิงไปด้วยจะเป็นอะไรกัน? ไม่ต้องกลัวรถไฟจะชนกันหรอก! เป็นผู้ชายก็ควรใจกว้าง ดูแลผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีกสักคนจะเป็นอะไรไปเล่า”
เซียวเฉวียนตะลึง เพิ่งรู้ว่าท่านอาจารย์ก็สามารถฟังเสียงของหัวใจได้ด้วย นึกไม่ถึงว่าท่านอาจารย์ก็เปิดกว้างเหมือนกัน...
เขาส่ายหัว “ท่านอาจารย์ องค์หญิงเป็นสตรีนางหนึ่ง แต่ยังคงเป็นองค์หญิง นางแต่งงานกับข้าไม่ได้หรอก”
ฉินซูโหรวนิสัยไม่ดี องค์หญิงอ่อนโยนนุ่มนวล หากองค์หญิงแต่งงานกับเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวจะทำให้ผู้หญิงดี ๆ อย่างองค์หญิงต้องคอยลำบากใจอย่างแน่นอน
ความชอบ ถือเป็นคนละเรื่องกัน เขาไม่สามารถทำลายทั้งชีวิตขององค์หญิงได้ ผู้หญิงโบราณใส่ใจเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีมาก ต่อให้องค์หญิงแต่งงานกับเขา ฉินซูโหรวก็ต้องหาทางหยามเกียรติองค์หญิงเป็นแน่ องค์หญิงเพิ่งแต่งเข้ามาไม่กี่วัน คาดว่าองค์หญิงคงถูกฉินซูโหรวที่เอาแต่ใจ อาละวาดใส่จนอยากฆ่าตัวตาย
“เจ้าสบายใจได้! เรื่องนี้ข้าจัดการเอง! ก่อนข้าจะไปเจียงหนาน ข้าจะจัดการกับฉินซูโหรวให้!”
เมื่อเซียวเฉวียนได้ยิน ก็ถึงกับตกใจ “ท่านอาจารย์! ไม่ได้นะขอรับ!”
“โปรดอภัยให้ศิษย์ด้วย เรื่องขององค์หญิง ข้ายากที่จะทำตามคำสั่งได้”
ปีศาจกวีกัดฟันกรอด “ข้าเพียงต้องการหาคนดี ๆ ให้เจ้า ฉินซูโหรวนางปฏิบัติเช่นนี้ต่อเจ้า นางไม่ใช่คนที่แสนดีของเจ้า”
ดูเหมือนว่า เรื่องที่ฉินซูโหรวนอกใจสามี ไปโปรยเสน่ห์ให้คนอื่นนั้น ปีศาจกวีก็รู้เรื่องแล้ว เซียวเฉวียนส่ายหัว “โปรดให้ศิษย์ได้จัดการด้วยตัวเอง”
ปีศาจกวี ดูเหมือนท่านพ่อผู้ที่กำลังออกเดินทางไกล และไม่วางใจในลูกชายตัวเองอย่างมาก เขาจ้องเซียวเฉวียน “ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริง ๆ ใช่หรือไม่?”
“ท่านอาจารย์ ไม่พูดเรื่องของนางดีกว่า แล้วท่านจะกลับมาเมื่อไหร่?”
เซียวเฉวียนพยักหน้า ถามด้วยสายตาสุกสว่าง “ศิษย์จะเฝ้ารอท่าน ท่านจะกลับมาเมื่อใด?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...