ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 299

หมอตัวสั่นเทา ดูเหมือนกำลังจะพูดแต่ไม่กล้า

ดูสภาพของเขา น่าจะโดนฉินซูโหรวกลั่นแกล้งมาแน่

เซียวเฉวียนวางสมุดบัญชีในมือลง "คุณหมอ ทำไมคุณถึงตื่นตระหนกขนาดนี้?"

“ใต้เท้าเซียว” หมอมือถือกล่องยาอาการหวาดหวั่น เหงื่อเย็นไหลพราก "โปรดยกโทษให้ผู้น้อยก่อน ผู้น้อยถึงกล้าบอกได้"

แค่ให้ไปจับชีพจรของฉินซูโหรว จะมีโทษอะไร?

”เด็กในท้องมีอะไรผิดปกติหรือ?” เซียวฉวนขมวดคิ้ว ใจของไป่ฉีบีบรัดขึ้นทันที นั่นคือนายน้อยของตระกูลเซียวนะ!

“นี่...... นี่......” หมอเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก “เด็กไม่เป็นไร”

”ไม่ต้องตื่นเต้น ค่อยๆ ว่ามา ท่านเป็นหมอ มีประสบการณ์มากกว่าข้ามาก ข้าจะตำหนิท่านได้อย่างไร?” เซียวเฉวียนยิ้มๆ “ภรรยาของข้าทำให้ท่านลำบากใจหรือเปล่า? เธอเป็นคนที่เอาแต่ใจ พูดจาไม่สำรวม หมอจงอย่าไปถือสาเธอเลย”

เซียวเฉวียนมีชื่อเสียงเลื่องลือ ตอนนี้ยังเป็นเจ้าของโรงเรียนชิงหยวน

หมอได้ยินมาว่าเซียวเฉวียนเป็นคนที่ไม่เคยกล่าวหาตำหนิผู้อื่นอย่างรุนแรง ถ้าอย่างนั้น เขาก็ได้แต่บอกตามความเป็นจริงเท่านั้น

”รายงานใต้เท้าเซียว คุณนายเซียวไม่มีชีพจรลื่น......”

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว

หมอตะโกน “เธอ......เธอไม่ได้ตั้งท้อง!”

พูดจบปุ๊บ หมอก็คุกเข่าลงบนพื้นทันทีและขอร้องว่า "อาจเป็นเพราะผู้น้อยฝึกเรียนมาไม่เก่ง จึงจับชีพจรผิด! โปรดยกโทษให้ผู้น้อยด้วย ใต้เท้าเซียว!"

หมอพูดแบบนี้เพียงเพื่อรักษาหน้าให้เซียวเฉวียน

หมอมักจะพูดด้วยความระมัดระวัง คนที่ฟังเข้าใจ ก็จะเข้าใจได้ทั้งหมด!

เซียวเฉวียนสะดุ้งทั้งตัว!

ฉินซูโหรวหลอกลวงเขาเหรอ?

ไป่ฉีและอาสือยิ่งตกตะลึงจนตาโตอ้าปากค้าง!

ฉินซูโหรวอาศัยการตั้งครรภ์ มีความยโสโอหังมาตลอด และรอดพ้นจากการถูกลงโทษมาหลายต่อหลายครั้ง!

เจ้านายก็ยอมผ่อนปรนให้โดยส่วนใหญ่ทุกครั้ง!

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้านายยังตั้งหน้าตั้งตารอลูกที่กำลังจะเกิดมาอีกด้วย!

ดังนั้น แม้ว่าฉินซูโหรวจะทำผิดมาหลายครั้ง เจ้านายก็ไม่ได้กล่าวว่าเธอรุนแรงนัก

แม้ว่าจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับอี้กุยขนาดนั้น เซียวเฉวียนก็จะผ่านมันไปเพื่อเห็นแก่เด็กในท้อง!

แต่ตอนนี้ การตั้งครรภ์นี้เป็นของปลอมจริงเหรอ?

”คุณหมอแน่ใจเหรอ?”

”แน่ใจครับ ชีพจรของคุณนายราบเรียบ ไม่ได้มีท้อง”

เซียวเฉวียนพยักหน้า ไม่เพียงแต่ไม่ตำหนิ แต่ยังให้รางวัลคุณหมอด้วยตั๋วเงินอีกด้วย

รางวัลจากผู้อื่นเป็นเพียงเศษเงิน

แต่เซียวเฉวียนให้ที เป็นหนึ่งร้อยตำลึง

หมอไม่เคยเห็นคนมีน้ำใจขนาดนี้มาก่อน เขามองดูตั๋วเงินในมือของไป่ฉี แต่ก็ไม่กล้ารับ "ใต้เท้าเซียว ผู้น้อยขอพูดความจริง เมื่อครู่นี้คุณนายเซียวก็ให้เงินผู้น้อยเช่นกันและขอให้ผู้น้อยเก็บเป็นความลับ”

”ผู้น้อยไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องยอมรับเงินของคุณนาย แต่ในฐานะหมอ จะไม่อาจปิดบังเรื่องของทายาทได้”

ขณะที่พูด หมอก็หยิบพวกเศษเงินที่ฉินซูโหรวให้มาออกจากแขนเสื้อของเขาแล้ววางลงบนพื้น "ผู้น้อยไม่สามารถรับเงินจำนวนนี้ได้"

”เก็บมันไว้หมดเถอะ” เซียวเฉวียนยิ้มๆ “หนึ่งร้อยตำลึงนี้เป็นค่าปิดปากที่ข้าให้เจ้า อย่าให้คุณหนูฉินเธอรู้ว่าข้ารู้แล้ว”

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของเซียวเฉวียน น้ำเสียงของเขายากที่จะปฏิเสธได้ หมอตกใจ หยิบตั๋วเงินของเซียวเฉวียนทั้งตัวสั่นแล้วรีบถอยออกไป

“อาสือ ไปหาหมอหญิงแล้วแอบเข้าไปหาฉินซูโหรว พิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้”

"ครับ"

”พี่จะรอผลของเจ้า”

“ได้ครับ พี่ใหญ่ ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

อาสือทำงานอย่างว่องไวและออกไปหาคนทันที

เซียวเฉวียนรู้สึกใจหายเล็กน้อย

เขาซื้อของเล่นและเสื้อผ้าให้เด็กมากมาย ทั้งยังคิดตั้งชื่อเตรียมไว้ให้เด็กแล้วด้วย

สุดท้ายทุกอย่างว่างเปล่า?

ความว่างเปล่าแบบนี้ ทรมานยิ่งกว่าไม่ได้อะไรสักอย่างอีก

ไม่ได้อะไรสักอย่าง เพราะว่าไม่มีความสามารถเพียงพอ

แต่ความว่างเปล่าแบบนี้ เกิดจากคนอื่นให้ความคาดหวังมาเต็มๆ แล้วมาทำลายความคาดหวังของคุณจนหมดสิ้น

มีขนไก่อยู่เต็มพื้น ดูเลอะเทอะไปหมด

ใบหน้าของเซียวเฉวียนไร้ความรู้สึก แต่ไป่ฉีรู้ถึงความเจ็บช้ำในใจของเขา

”บอกข้าหน่อยว่าทำไมเธอถึงโกหกข้า” เซียวเฉวียนเชื่อว่าตัวเองไม่เคยรุนแรงกับฉินซูโหรวมากนัก เขาสั่งสอนฉินซูโหรวเพียงต้องการให้เธอควบคุมยับยั้งตัวเองบ้าง

”เรามาดูกันว่าเธอจะเล่นตลกยังไงกัน”

คำพูดของเซียวเฉวียนนี้ เป็นเหมือนก้อนกรวดที่ถูกโยนเข้าไปในจวนตระกูลฉินอันเงียบสงบ

หินก้อนนี้อยู่เงียบ เงียบ รอให้ฉินซูโหรวถูกเปิดโปงทีละก้าวๆ

ตอนนี้เซียวเฉวียนมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ เขาตื่นเช้านอนดึกทุกวันเพื่อฝึกกำลังกาย

พู่กันจินหลุนเฉียนคุนทรงพลังมากเกินไป เขาไม่สามารถนำมันไปใช้ในการประลองยุทธหาคู่ได้

เขาจึงเลือกดาบจิงหุนเล่มหนึ่ง

ดาบเล่มนี้ไม่ได้รับว่าเขาเป็นเจ้านาย สำหรับเซียวเฉวียน มันก็เป็นเพียงอาวุธธรรมดาชิ้นหนึ่ง

ผู้รู้หนังสือคนอื่นๆ ต่างใช้อาวุธที่จดจำเจ้าของของตนได้ ในด้านนี้ เซียวเฉวียนไม่มีข้อได้เปรียบเลย

ไป่ฉีกังวลเล็กน้อย "เจ้านาย อย่าไปประลองยุทธเลือกคู่นี้เลยดีกว่า"

ดาบจิงหุนไม่รู้จดจำเจ้าของของมัน พรสวรรค์ด้านวรรณกรรมของเซียวเฉวียนจึงใช้งานอะไรไม่ได้ ต้องอาศัยวิชาศิลปะการต่อสู้เท่านั้น

แต่ได้ยินมาว่าทักษะศิลปะการต่อสู้ของเจ้านายไม่ดีเลย เกือบเป็นศูนย์ด้วยซ้ำ ถึงเขาจะมีวิชาดาบซินโหย่ว แต่อาวุธไม่รู้จักเจ้าของ กลัวว่าจะไม่สามารถสู้ได้ถึงสิบกระบวนท่าของเว่ยชิงได้!

แล้วจะรอดไปถึงรอบสุดท้ายได้ไง?

”เพื่อสิทธิ์ประโยชน์ในการใช้ครึ่งหนึ่งของเมืองไป๋ลู่ ข้าจะต้องยับยั้งเว่ยชิงให้ได้”

”เจ้านาย ท่านไม่ได้บอกว่าเว่ยเจียนกั๋วมีแนวโน้มจะจัดให้เหลียงหวายโหรวเป็นราชบุตรเขยหรือ? เว่ยเจียนกั๋วจะหยุดเว่ยชิงเอง ทำไมท่านต้องไปด้วยตนเอง?”

”ไป่ฉี ตำราวิทยายุทธเคยสอนไว้ว่า ไม่กลัวหนึ่งหมื่น แต่จงกลัวหนึ่งในหมื่น อยู่ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ก็ไม่อาจสรุปอะไรได้อย่างแน่นอน”

เซียวเฉวียนกลัวว่าเว่ยเจียนกั๋วจะเปลี่ยนใจกะทันหันและจัดให้เว่ยชิงได้เป็นราชบุตรเขย

เนื่องจากเว่ยชิงกับองค์จักรพรรดิเพิ่งจะโกรธเคืองกันเรื่องเหวินอิ้นและชาวนักพเนจร เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเว่ยเจียนกั๋วที่จะเข้าไปงัดข้อในเวลานี้

“ตำราวิทยายุทธนั้นเขียนขึ้นเมื่อไหร่?” ไป่ฉีเกาหัว ช่วงนี้เจ้านายบอกให้เขาอ่านตำราวิทยายุทธอันโด่งดังของต้าเว่ยอยู่ แต่เขาไม่เคยเห็นประโยคนี้

“ตำราวิทยายุทธตระกูลเซียว ข้าเพิ่งจะเขียนมันเมื่อกี้”

เซียวเฉวียนหัวเราะ ฮึๆ

"…..."

โดนเจ้านายหลอกอีกแล้วเรา

ไป่ฉีส่ายหัว ได้แต่หัวเราะ เขากอดอก และใช้ข้อศอกแตะไปที

ม้วนภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิเขาคุนหลุนซึ่งไม่เคยเปิดมาก่อน ร่วงลงกับพื้นเสียงดัง “เพี้ยะ” ดึงความสนใจของไป่ฉี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย