ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 340

ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วจวนที่ว่าราชการ

ความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความอึดอัด...

แม้แต่เสียงกลืนน้ำลายที่เป็นไปด้วยความประหม่าของอัครเสนาบดีจูนั้น เซียวเฉวียนก็ยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

เซียวเฉวียนที่มักจะเป็นคนชอบยกตนข่มท่านนั้น ทั้งยังแสดงท่าทีข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเซี่ยวเฟิงที่มีหน้าที่ติดตามเจ้านายของมัน ก็ยังมองตรงไปที่อัครเสนาบดีจูด้วยดวงตาสีแดงก่ำ ราวกับจะสื่อออกมาว่า: อะไรกัน คำพูดของนายท่านของข้า เจ้ามิอาจยอมรับได้งั้นหรือ?

อัครเสนาบดีจูที่รับใช้ราชสำนักมานานหลายปี ทั้งยังได้รับความเคารพจากทุกคนเช่นนี้ ในยามนี้เซียวเฉวียนกล้าที่จะมาทำตัวหยิ่งผยองและทำตัวกำเริบเสิบสานบนหัวของเขางั้นหรือ

เดิมที เซียวเฉวียนหาได้มีความกล้าไม่

หากแต่ท่าทีของอัครเสนาบดีจูในยามนี้ กลับกระทำตัวดูถูกและประจบประแจงเขามากจนเกินไป หากมิจัดการกับเขาในตอนนี้แล้ว จักรอจัดการอีกเมื่อใดกัน?

ในความเป็นจริงแล้วนั้น เซียวเฉวียนกลับนึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่าหากอัครเสนาบดีจูเข้าไปในพระราชวังเพื่อทูลขอบทลงโทษนั้น ฝ่าบาทย่อจัดการท่านผู้เฒ่าอย่างแน่นอน เช่นนี้เว่ยเจียนกั๋วก็จักสูญเสียสุนัขรับใช้ไปอีกหนึ่งตัวแล้ว

ผู้ใดจักไปคิดกันว่า อัครเสนาบดีจูจักกลับมาได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของท่านอัครเสนาบดีจู หาใช่สิ่งที่แม้แต่ฝ่าบาทก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้ง่าย ๆ

อีกทั้งในยามนี้ หน่วยงานทั้งสิบสามที่ขึ้นตรงกับอัครเสนาบดีจูนั้น ต่างก็มีความสัมพันธ์อันดีกับอัครเสนาบดีจูทั้งหมด การที่จะหุบอำนาจทั้งหมดของอัครเสนาบดีจูออกมานั้น ย่อมมิอาจทำได้ในชั่วข้ามคืน

“ใต้เท้าเซียว ท่านเข้าใจข้าผิดไปแล้วกระมัง? ข้าจงรักภักดีต่อฝ่าบาทมาโดยตลอด ข้าจักไปเป็นคนของเว่ยเจี้ยนกั๋วได้อย่างไร?”

เมื่ออัครเสนาบดีจูเอ่ยเช่นนี้ออกมานั้น เขากลับมาท่าทีจริงจังและแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา เสมือนกับว่า แม้ว่าเซียวจักตบเขา เขาก็หาได้มีท่าทีโกรธเคืองอันใดไม่

เซียวเฉวียนพลันเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย "หืม? มิใช่ท่านหรือ? เช่นนั้นข้าขออภัย ที่ข้าเอ่ยออกไปเช่นนั้น"

เซียวเฉวียนตอบกลับด้วยท่าทีสบาย ๆ ราวกับมิคิดจริงจังอันใดมาก ทว่า มันกลับทำให้ใบหน้าของอัครเสนาบดีจูมืดครึ้มลงอีกครั้งไร้มารยาท ไร้มารยาทที่สุด!

ภายในใจของอัครเสนาบดีจูรู้สึกโมโหเสียจนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา!

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนยังคงยั่วยุปั่นประสาทเอัครเสนาบดีจูต่อไป จนทำเอาภูเขาไฟแห่งอารมณ์โมโหของอัครเสนาบดีจูแทบจะระเบิดออกมาในทันที ทว่า เขามิอาจระเบิดอารมณ์ออกมาเฉกเช่นในยามปกติได้ เขาจึงได้แต่เก็บอั้นความรู้สึกนั้นเอาไว้เท่านั้น

อัครเสนาบดีจูจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธของตนเองเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มว่า "ว่ากันตามตรง วันนี้ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องต่อใต้เท้าเซียว นั่นก็คือเรื่องราชบุตรเขยขององค์หญิง"

เวลาไม่คอยท่าแล้ว อัครเสนาบดีจูไม่มีเวลาให้แม่แต่จะระบายความโกรธอีกต่อไป เขาจึงได้เอ่ยเข้าประเด็นมาในทันที

ท้ายที่สุด อัครเสนาบดีจูจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาว่า "ฝ่าบาทตรัสถึง เรื่องการเดินทางไปยังซินเจียงกับองค์หญิงต้าถงนั้น ท่าน มีความคิดเห็นอย่างไร...?"

เอ๋

มีแผนการอันใดอีกเล่า?

เซียวเฉวียนที่เคี้ยวขนมอยู่ในปากนั้น พลางเอ่ยออกมาโดยมิได้สนใจว่า "ท่านหมายถึง ข้าจักต้องไปเป็นราชบุตรเขยที่ซินเจียงเช่นนั้นหรือ?"

"หึหึหึ..." อัครเสนาบดีจูอดไม่ได้ที่จะอยากให้เซียวเฉวียนนึกเห็นดีเห็นงามด้วยในทันที หากส่งเซียวเฉวียนออกจากต้าเว่ยไปได้เมื่อใดนั้น ต้าเว่ยคงจะสะอาดขึ้นมาเป็นกองในทันที

ในยามนี้เหตุการณ์สำคัญ ๆ ล่าสุดในต้าเว่ยนั้น ล้วนแต่เกี่ยวพันกับเซียวเฉวียน

“เช่นนั้นข้าขอคิด ๆ ดูก่อน” เซียวเฉวียนพลันยกขาขึ้นไขว่ห้าง ใบหน้าของท่านอัครเสนาบดีจูจึงเริ่มมีท่าทีวิตกกังวลไปในทันที

เซียวเฉวียนรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก ที่ได้เห็นท่าทางกังวลของอัครเสนาบดีจูเช่นนี้

“ทว่า ข้าเคยตบแต่งกับฉินซูโหรวมาแล้ว เช่นนี้ฝ่าบาทจักจัดการเช่นไรเล่า?”

ด้วยท่าทีไม่สนใจไยดีของเซียวเฉวียนเช่นนี้ ถือว่าเป็นประเด็นหลักของเซียวเฉวียน

ฉินซูโหรวเป็นสตรียิ่งผยอง มิกตัญญูรู้คุณ ทำสิ่งผิดจรรยาบรรณและหาได้มีความซื่อสัตย์ไม่ อีกทั้งการแต่สร้างเรื่องตั้งครรภ์จอมปลอมขึ้นมานั้น นับว่าเป็นการข้ามขีดความอดทนของเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก ทว่าเซียวเฉวียนก็ได้แต่ต้องอดทนเอาไว้ นั่นเพราะเขาเห็นแก่หน้าของฉินปาฟาง

ในเมื่อมีโอกาสที่จะจัดการกับฉินซูโหรวในยามนี้แล้ว ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างยินดีกันเช่นนี้ นี่ก็นับว่าเป็นตอนจบของเรื่องที่ที่ดีที่สุด

“ใต้เท้าเซียวมิจำเป็นต้องกังวล ฝ่าบาททรงตรัสออกมาแล้วว่า ได้ทำเรื่องหย่าร้างของท่านและจิ่ยโหรวจวิ้นจู่แล้ว”

เซียวเฉวียนพลางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า "หากว่าฉินซูโหรวไม่ยอมเล่า?"

อัครเสนาบดีจูรู้สึกสับสนไปเล็กน้อย เขามิค่อยเข้าใจว่าเซียวเฉวียนกำลังเอ่ยถึงเรื่องอะไร ทั้งยังรู้สึกว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนกล่าวออกมาเป็นเรื่องน่าขบขันยิ่งนัก ก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าจวน ตระกูลฉินจักมิยอมตัดขาดกับเขางั้นหรือ?

มิใช่กล่าวว่าจิ่นโหรวจวิ้นจู่รังเกียจในเซียวเฉวียนมากหรืออย่างไรกัน?

เกรงว่า การที่พวกเขาสามารถหย่าร้างในยามนี้ จิ่นโหรวจวิ้นจู่คงจะดีอกดีใจมากกว่ากระมัง มีสิ่งใดที่พระนางจะมิยอมกัน? แปลกยิ่งนัก หากเซียวเฉวียนมานึกกังวลเรื่องนี้

อัครเสนาบดีจูพลางหัวเราะเยาะกล่าวออกมาว่า "ใต้เซียวมิต้องกังวลไป ฝ่าบาทได้จัดเตรียมสัญญาหย่าร้างให้พวกท่านเอาไว้แล้ว หากจิ่ว่านโหรวจิว้นจู่เข้าวังเมื่อใดนั้น ท่านก็จักสามารถเตรียมตัวไปเป็นราชบุตรของซินเจียงได้ในทันที"

ฮ่าฮ่า

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

เยี่ยม!

ดียิ่งนัก!

เซียวเฉวียนพยักหน้าลงด้วยความพึงพอใจ ดี! ดีจริง ๆ !

ท่าทีมีความสุขของเซียวเฉวียนนั้น ทำเอาอัครเสนาบดีจูคาดไม่ถึงไปในทันที ดูเหมือนว่าเซียวเฉวียนจักเหมือนดั่งที่ผู้อื่นกล่าวกันว่า เขาเป็นตัวแมลงดาเกาะสตรีจริง ๆ ถึงได้ชื่นชอบการแต่งเข้าไปเป็นบุตรเขยเช่นนี้ได้

“ข้าไม่เป็นราชบุตรเขยแล้ว”

เซียวเฉวียนพลันกล่าวออกมา ทำเอาอัครเสนาบดีจูตกใจกลัวไปในทันที เมื่อครู่มิได้รับปากเสียบดิบดีไปแล้วหรือ เหตุใดเซียวเฉวียนถึงเอ่ยว่าจักไม่เป็นแล้วเล่า

อัครเสนาบดีจูเกือบจะร่ำไห้ออกมาเสียแล้ว เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วเช่นกัน !

“ใต้เท้าเซียว ท่านหมายความเช่นไรกัน? ข้าจักต้องทำเช่นไรท่านถึงจะยอมเป็น?”

อัครเสนาบดีจูเอ่ยออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ แววตาของเซียวเฉวียนพลันทอประกายเย็นชาออกมาในทันที ในที่สุดเขาก็เอ่ยเข้าประเด็นว่า "ข้ายากให้ท่านอาจารย์ของข้ามาอยู่ที่นี่"

อัครเสนาบดีจูถึงกับตกตะลึงไปในทันใด!

ปีศาจกวีหรือ?

“ครั้งหนึ่งเคยนับอาจารย์เป็นบิดา ในยามนี้ หากข้าต้องตบแต่งออกไปแล้วไซร้ หากว่าท่านอาจารย์ของข้าไม่มาละก็ ข้าก็จะไม่ไปเช่นกัน”

สีหน้าของอัครเสนาบดีจูพลันเปลี่ยนเป็นขาวซีดไปในทันที เดิมทีเขาคิดไปเองว่า คำขอของเซียวเฉวียนอาจจะจะเกี่ยวข้องกับฉินชูโหรว ทว่า ๆ จู่ ๆ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเสียจนท่านอัครเสนาบดีมิทันได้ตั้งตัว

เซียวเฉวียนที่ชำเลืองมองดูท่าทีของเขาอยู่นั้น ที่แท้คนของเว่ยเจียนกั๋วต่างก็รู้จักที่อยู่ของปีศาจกวีทั้งหมด

ท่านปีศาจกวีคงมิอาจมาได้อีกต่อไป ท่านอัครเสนาบดีจูครุ่นคิดเช่นนี้ เมื่อคิดดูดี ๆ แล้วนั้น เหตุใดเซียวเฉวียนถึงยืนกรานที่จะพบกับปีศาจกวีให้ได้เล่า?

“ใต้เท้าเซียว เกรงว่าท่านอาจารย์เหวินคุนคงจะออกไปเที่ยวเล่นท่องยุทธภพกระมัง ตาเฒ่าผู้นั้นไปมาร่องรอยรักอิสระเป็นอย่างยิ่ง ท่านจะรู้ข่าวถึงงานมงคลสมรสของท่านได้อย่างไร?”

เพียงแค่กวาดตามอง ก็สามารถมองเห็นถึงความตื่นตระหนกของอัครเสนาบดีจูได้ในทันที จบแล้ว ในเมื่อเว่ยเจียนกั๋วทำการสังหารปีศาจกวีไปแล้วเช่นนี้ ในยามนี้เขาจักไปหาปีศาจกวีคนใดมาให้กับเซียวเฉวียนกันเล่า?

“ข้าไม่สน หากท่านอาจารย์ไม่มา ข้าก็ไม่เป็นราชบุตรเขย”

อัครเสนาบดีจูเกือบหลั่งน้ำตาออกมาในทันที "หรือว่า ใต้เท้าเซียวมิสนใจมิตรภาพระหว่างซินเจียงและต้าเว่ยแล้วงั้นหรือ?"

"ใช่"

เซียวเฉวียนหันไปจ้องหน้าอัครเสนาบดีจูด้วยท่าทีจริงจัง

ในขณะเดียวกัน หลี่มู้ก็ได้สั่งการให้นายทหารทุกคนออกค้นหาตัวของปีศาจกวีในทันที

การที่มอบความกล้าหาญและหน้าที่ให้กับหลี่มู้เช่นนี้ ในยามฝันหลี่มู้คงไม่คาดคิดว่า เพียงเพื่อต้องการจะตามหาท่านอาจารย์ของตนเองนั้น เซียวเฉวียนจักกล้าทำร้ายและโจมตีอัครเสนาบดีจู ทั้งยังกล้าใช้สายสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างต้าเว่ยและซินเจียงมาเป็นเบี้ยหมากของเขาเช่นนี้ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย