ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 38

บรรดาบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์มักคิดว่าตัวเองหูตากว้างไกล สิ่งดีๆ ที่มีในโลกไหนจะรอดสายตาพวกเขาไปได้?

พ่อค้าเหล้าสองคนตบหน้าอกตัวเอง พูดด้วยความมั่นใจเต็มร้อยว่า "นายท่าน ฉันรับรอง ถ้านายท่านชิมแล้วไม่พอใจ ฉันจะไม่เก็บเงินแม้แต่สตางค์เดียว!"

สุรา เป็นอะไรที่ชวนหลงใหลที่สุด

บุตรหลานนายน้อยเหล่านี้คลุกคลีอยู่ในแวดวงคนร่ำรวยมา ถนัดในเรื่องชิมสุราที่สุด ดูถูกดูแคลนคนขายของข้างถนนมาตลอด พวกนี้ถ้ามีปัญญาจริง คงไม่มาหากินอยู่ข้างถนนหรอก

พ่อค้าเร่ขายของข้างถนนไม่เคยอยู่ในสายตาของบุตรหลานผู้มีอันจะกิน เหมือนขอทาน มักจะทักทายผู้คนด้วยรอยยิ้มแต่ขายสินค้าด้อยคุณภาพให้กับผู้สัญจรไปมา พวกเขาเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่เย่อหยิ่ง จะหลงกลคนต่ำต้อยพวกนี้ง่ายๆ ได้อย่างไร?

บรรดาบุตรหลานสูงศักดิ์ไม่มีใครขยับตัว และดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก พ่อค้าหาบเร่ในเมืองหลวงถนัดในการสังเกตสีหน้าคำพูด มีพ่อค้าเร่ร่างผอมบางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายท่าน เราพี่น้องสองคนนี้มีเครื่องหมายการค้านะครับ และร้านค้าอยู่ที่สุดถนนจูเชว่ เหล้านี้เป็นของใหม่ที่เพิ่งสั่งเข้ามา คิดว่ามีเพียงนายท่านที่โรงเรียนชิงหยวนในเมืองหลวงเท่านั้นที่คู่ควรชิมสุรานี้ได้ดีที่สุด จึงอุตส่าห์เข็นรถมาออกร้านแถวนี้ครับ แล้วก็คิดไม่ผิดครับ นายท่านทั้งหลายดูของเป็นครับ ผู้น้อยยังไม่ทันร้องเรียก นายท่านทั้งหลายก็เดินตามมาเจอพอดีครับ"

หลังฟังคำเยินยอ บุตรหลานสูงศักดิ์เหล่านี้ก็ภูมิใจจนตัวลอย พวกเขาโบกพัดในมือ ขนาดยังไม่ได้ลองชิม กลิ่นหอมของเหล้าก็ซึมซับเข้ายังทรวงอก พยาธิ์หิวในท้องไส้เริ่มส่งสัญญาณปั่นป่วน

อย่างไรก็ตาม พวกเขามีฐานะร่ำรวย ถึงเหล้าจะดีเลิศแค่ไหน พวกเขาจะยอมลดตัวลงมาชิมเหล้าที่นี่ได้อย่างไร แต่ถ้าไม่ลองชิม กลิ่นหอมๆ ของเหล้านี่มันเย้ายวนเสียเหลือเกิน......

เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังลังเล พ่อค้าเร่ที่มาก็หยิบแก้วดีๆ ออกมาและรินเข้าไปสัก 70%

ที่พ่อค่าว่านายท่านทั้งหลายที่โรงเรียนชิงหยวนชิมเหล้าเก่งที่สุดนั้น แม้มีส่วนยกยอสัก 30% แต่ 70% นั้นเป็นความจริง

สิ่งใดที่สามารถพิชิตใจของนายท่านทั้งหลายที่โรงเรียนชิงหยวนนี้ได้ มักเป็นสิ่งที่ขายได้ดีเสมอในเมืองหลวง ดังนั้นพ่อค้าจึงพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อเดินทางข้ามมาเกือบครึ่งเมืองหลวง เพื่อรอให้นายน้อยพวกนี้มาลิ้มลอง

ที่เรียกว่าการชิมรสสุรานั้น ก่อนอื่นต้องสังเกตดูสี สีจะเนียน ปราศจากสิ่งเจือปน เขย่าแก้ว หากมีความรู้สึกเหมือนเกาะอยู่บนแก้ว สุรานั้นจะต้องนุ่มนวลทนนานแน่นอน

ขั้นตอนต่อมาคือการค้นหากลิ่นหอม ค่อยๆ เอียงแก้ว แล้วค่อยๆ ใช้มือกระพืออากาศ จะได้กลิ่นหอมของสุราเข้าหาจมูก

สุราที่ดีจะมีกลิ่นหอมแต่ไม่จัดจ้าน ต่ำแต่ไม่เบา กลมกล่อมสง่างาม ไม่ข้นไม่แรง มีรสครองอยู่ยาวนาน สุราชั้นเลิศเมื่อเทใส่แก้วทิ้งข้ามคืน กลิ่นหอมจะคงอยู่ยาวนานไม่จางหาย แก้วเปล่าที่เคยใส่สุรานั้นจะมีกลิ่นหอมยิ่งกว่าแก้วที่ไม่เคยใส่ ผู้คนจะจดจำรสชาตินั้นไปนานแสนนาน

สุดท้ายให้ดื่มช้าๆ พลางไตร่ตรอง เวลาชิมต้องจิบเล็กน้อยก่อนแล้วปล่อยให้สุรากลิ้งไปมายังตำแหน่งต่าง ๆ ของลิ้นในปาก ซึ่งจะทำให้สัมผัสรับรู้รสชาติของสุราได้รอบทิศทาง สุราที่กลั่นโดยผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ดีพร้อม รสชาติจะเข้มข้น นุ่มนวมยาวนาน

ทันทีที่พ่อค้ารินเหล้าลงแก้ว บุตรหลานร่ำรวยทั้งหลายลูกตาสว่างขึ้นเป็นประกาย

สีของเหล้านี้ดูบริสุทธิ์ ผลการเกาะแก้วก็ดูดี

ผู้นำของบุตรตระกูลสูงศักดิ์ เป็นผู้สมัครสอบมีร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา ซึ่งเพิ่งผ่านการสอบระดับชนบทมา พ่อค้าที่มีสายตาเฉียบแหลมชูเหล้าขึ้นทั้งสองมือ แสดงความเคารพนอบน้อม “ผู้น้อยขอถวายเหล้าแก้วนี้แด่นายน้อย ขออวยพรให้ท่านสอบได้ตำแหน่งสูงสุดของการสอบครั้งนี้ครับ!”

"ขอให้สมพรปาก เหล้านี้ดูท่าไม่ชิมไม่ได้เสียแล้ว"

นายน้อยนั่นโบกพัดของเขา กลิ่นหอมของเหล้าก็โชยมาที่หน้า ดูเป็นสินค้าเกรดสูงจริงๆ

ไม่ไกลจากที่นั่น มีคนเฝ้ามองจากข้างถนนและบ่นด้วยเสียงเย็นๆ เห็นได้ชัดว่าเขาอยากดื่มจะตาย แต่ทำเป็นเล่นตัวหาข้อแก้ตัวต่างๆ นานา ราวกับว่าดื่มเหล้าแก้วเดียวจะทำให้ค่าตัวของเขาลดต่ำลงไปหลายลำดับชั้นงั้นแหละ

”ท่านครับ เชิญครับ!”

นายน้อยผู้สมัครคนนั้นรับแก้วมาอย่างสบายๆ ก้มหัวลงแล้วดม จิบไปหนึ่งคำ เมื่อเหล้ารสกลมกล่อมเข้าไปในปาก รู้สึกมีรสเผ็ดเล็กน้อยซึ่งแตกต่างจากเหล้าทั่วไปโดยสิ้นเชิง!

แต่หลังจากแรงกระตุ้นนี้ มันบรรลุถึงคุณลักษณะพิเศษของสุราชั้นยอด กลมกล่อมหรูหรา เวียนว่ายในความทรงจำเหลือหลายไม่รู้จบ! เหล้าของที่อยู่ในเมืองหลวงก็เหมือนน้ำเปล่าไม่ผิดถ้าเอามาเทียบกับเหล้านี้!

”เหล้าดี!” เขาทนไม่ได้จนตะโกนขึ้นเสียงดัง อย่างที่พ่อค้าว่าไม่ผิด ถึงแม้ท่านเทวดาดื่มแล้วก็ต้องกลับมาขอดื่มอีก!

"นายน้อยจู เหล้านี้เป็นไง?" คนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ตรงนั้น กั้นน้ำลายแทบไม่ทัน

ปรากฎว่าคนผู้นี้คือจูเหิง ดวงตาเขาสว่างแวววาว พูดว่า "ได้กลิ่นหอมจึงลงจากหลังม้า ได้รสชาติแล้วจึงหยุดรถ"

จูเหิงและคนอื่นๆ เดินจากไป พ่อค้ารีบตามไปข้างหลัง ส่งเหล้าไปยังที่จวนจูอย่างร่าเริงสำราญใจ

เหล้านี้เทียบเท่ากับเหล้าขาวเอ้อกัวโถวกลิ่นหอมกลมกล่อมของศตวรรษที่ 21 สำหรับคนโบราณที่ไม่เคยลิ้มรสอะไรเลย เปรียบได้กับน้ำทิพย์รสเลิศหรูของเจ้าแม่ราชินีแห่งสรวงสวรรค์

เริ่มแรกจูเหิงหยิ่งยโสโอหัง ต่อมาเขาก็ได้สยบต่อกลิ่นหอมของสุรา เซียวเฉวียนคาดหวังไว้ถูกต้อง จึงทวีความเหยียดหยามขึ้นมาอีกด้วย

มีความคิดอ่านอยู่เพียงเท่านี้ ยังคู่ควรเป็นนายน้อยคนโตแห่งบ้านตระกูลสูงศักดิ์งั้นหรือ?

ถ้าพวกนี้ได้ลองลิ้มรสจำพวกเหล้าเหมาไถละก็ จะไม่มาลงคุกเข่าร้องเรียกหาคุณปู่เจ้าละหรือ?

วันนี้เซียวเฉวียนไม่ได้ไปจับพ่อค้าขี้ขโมยนี่หรอก เพราะยังไม่ถึงเวลา ให้สองพี่น้องนี้กระโดดโลดเต้นไป ช่วยเขาโฆษณาเครื่องหมายการค้านี้จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายออกไปเสียก่อน

ที่เซียวเฉวียนข้ามมาได้ถึงที่โรงเรียนชิงหยวนนี้ เพราะเขาเดินตามพ่อค้านั้นมาตลอดทาง

คำว่าชิงหยวน ทำให้เซียวเฉวียนนึกถึงเพลง "ฉางเกอสิง" ที่เขาเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเขาอดไม่ได้ที่จะท่องว่า "ทานตะวันในสวนเขียวขจี น้ำค้างยามเช้าคอยอาทิตย์ ฤดูใบไม้ผลิแผ่คุณธรรม ทุกสิ่งล้วนส่งแสงสดใส”

“มักห่วงเทศกาลสารทเยือน ใบไม้อร่ามจะร่วงโรย น้ำร้อยสายสู่ทะเลอุทัย จะคืนทิศตกในยามใด วัยหนุ่มสาวมัวแต่เกียจคร้าน ถึงวัยแก่เถ้าเศร้าใจเอย”

บทกวีนี้บรรยายว่ากาลเวลานั้นสั้นนัก อุทานว่าชีวิตคนสั้นเหลือเกิน ให้กำลังใจผู้คนรักษาเวลา ไขว่คว้าชีวิตที่ผ่านพ้นไป ใช้ความพยายามทำงานให้หนัก และสร้างผลงานในขณะยังหนุ่มแน่น

ชิงหยวนใช้เป็นชื่อของโรงเรียนจึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ทันทีที่เซียวเฉวียนพูดจบ หนึ่งในนั้นรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก และส่ายหัวทั้งถอนหายใจด้วยอารมณ์สุดจะพรรณา "คำพูดเยี่ยมมากๆ วัยหนุ่มสาวมัวแต่เกียจคร้าน ถึงวัยแก่เถ้าเศร้าใจเอย......เศร้าใจเอย......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย