ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 61

สีหน้าของเซียวเฉวียนดูไม่ค่อยดีนัก จูเหิงยิ่งดีใจ เขายืดตัวตรง ย้อนคิดถึงรสชาติที่ยังฝังแน่นและพูดว่า "เธอยังตักซุปเห็ดหูหนูใส่ชามมาให้ฉันเองด้วย ซึ่งทั้งอร่อยทั้งลื่นคออย่างเหลือไหล แต่เซียวเจี่ยเหยียนคงไม่รู้ว่าเห็ดหูหนูคืออะไร ของมีค่าอย่างนี้ เป็นของที่ได้มาจากพระราชทานเท่านั้น"

ในยุคโบราณ เห็ดหูหนูมีราคาแพงและมีน้อย เพาะปลูกยาก เห็ดหูหนูตัวนิดเดียวต้องซื้อมาด้วยเงินตั้ง 20 ตำลึง

ในศตวรรษที่ 21 เอาเห็ดหูหนูต้มน้ำดื่มกันทุกวันก็ไม่ใช่ปัญหา

ความสนใจของเซียวเฉวียนนั้นคงไม่ได้อยู่ที่เห็ดหูหนู ความรู้สึกเขาเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ จูเหิงปิดปากกระซิบข้างหูของเซียวเฉวียนว่า "ภรรยาตัวเองตักซุปให้ผู้ชายคนอื่นด้วยมือตัวเอง เซียวเจี่ยเหยียน ไม่รู้ว่าคุณจะรู้สึกยังไง?"

รู้สึกยังไงหรือ? ลูกตาของเซียวเฉวียนกระดิก ก็ต้องเอามันให้ถึงตายละสิ

"เฮ้ เซียวเจี่ยเหยียน อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น ฉันนะไม่มีผู้อารักขา ตามระเบียบแล้ว คุณไม่สามารถปล่อยให้คนหน้าโง่ที่อยู่ข้างหลังคุณมาทำร้ายฉันได้นะ" จูเหิงที่ชอบแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ แต่วันนี้เขามายั่วยุเซียวเฉวียนตลอดเวลา กลัวว่าเซียวเฉวียนจะไม่ทำอะไรอย่างงั้น

เซียวเฉวียนรู้ดี เขายื่นมือรับกล่องเครื่องเขียนมาไว้ “ไป่ฉี คุณกลับไปก่อน”

ไป่ฉีจ้องมองไปที่จูเหิงอย่างเยือกเย็น จูเหิงโบกพัดของเขาอย่างภาคภูมิใจ คนรับใช้ที่อยู่ข้างตัวเขาก็เลียนแบบนายเหมือนใช้สายตาของสุนัขดูถูกคนอื่น "ไอ้นี่เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง! ไปให้พ้นเลย!"

ไป่ฉีบีบกำปั้นอย่างแรง ดวงตาอย่างแน่วแน่ของเซียวเฉวียนบอกให้เขาถอยออกไป เขาจึงต้องออกไปก่อน ก่อนจากไป ไป่ฉีก้าวหนึ่งก้าวจะหันศีรษะกลับมาสามครั้ง เมื่อก่อนเวลามีเรื่องขัดแย้ง เขามักจะอยู่เคียงข้างเจ้านาย ถ้าจูเหิงยังไม่ยอมลดละในวันนี้ เรื่องจะลงเอยอย่างไร?

เซียวเฉวียนไม่กังวลแม้แต่นิด เขาไม่คิดว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไรด้วยซ้ำ

เซียวเฉวียนวางกล่องเครื่องเขียนไว้ข้างๆ อย่างเบามือ อย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสอบ มันสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

เขาขยับแขนเสื้อให้ดูเรียบร้อย สะบัดไหล่อีกครั้ง หายใจลึกๆ ยืนอยู่หน้าจูเหิงและยิ้มเล็กน้อย "จูเหิง คุณพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้ ฉันได้ยินไม่ชัดเจน คุณพูดมาอีกครั้งได้ไหม?"

คนรับใช้ของจูเหิงตะโกนว่า "เซียวเฉวียน! คุณกล้าดียังไงถึงมาเรียกชื่อนายน้อยโดยตรง! คุณแค่สอบได้ตำแหน่งระดับชนบท กล้าดียังไงไร้มารยาทสิ้นดี!"

แค่คนรับใช้กระจ้อยร่อย มาตะโกนเสียงเล็กเสียงใหญ่ ใช้ได้ที่ไหนกัน? เซียวเฉวียนฉุนเฉียวขึ้นตา ด้วยความเร็ว เขายื่นมือออกไปดุจสายฟ้าและตบหน้าคนรับใช้ดัง "เพียะ" ทุกคนตกตะลึง!

”สุนัขตัวหนึ่ง กล้าดีมาเห่าต่อหน้าฉันอย่างเซียวเฉวียน?” เซียวเฉวียนพูดเสียงเย็น ด้วยดวงตาที่หนาวดุจน้ำแข็ง

ไม่ทันได้รู้ตัว หน้าอีกข้างก็โดนพัวะไปอีกที ฝ่ามือนั้นทรงพลังจนใบหน้าของคนรับใช้บวมขึ้นมาทันที

เซียวเฉวียนก้าวไปข้างหน้า ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันราวกับว่าเขาต้องการที่จะฉีกคนที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นชิ้นๆ "ผู้อารักขาของเซียวเฉวียนนี่แท้ๆ กล้าดียังไงมาว่าเขาเหมือนสุนัข?"

ร่างคนรับใช้สั่นสะท้านไปทั้งตัว ประคองตัวแทบไม่อยู่ และถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตกใจกลัว! ดั่งคำกล่าวที่ว่า กล่าวว่าพระสงฆ์ให้ดูหน้าพระพุทธรูป จะทุบตีสุนัขต้องมองดูหน้าเจ้าของ เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนไม่ได้เกรงใจจูเหิงเลยแม้แต่น้อย!

"เซียวเฉวียน! แก!" จูเหิงตะคอก เขาเพิ่งรู้สึกรับรู้ว่าเขากำลังระบายโทสะแทนไป่ฉี เพื่อไพร่คุนหลุนคนหนึ่ง เขามาลงมือกับคนรับใช้ของตัว!

”แกอะไร” เซียวเฉวียนหันศีรษะไปทางด้านข้าง จูเหิงรู้สึกหนาวเหน็บ เขาพูดอะไรไม่ออกชั่วครู่หนึ่ง

จูเหิงหาเรื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นตัวร้ายที่ต้องกำจัดให้สิ้นซากจริงๆ!

เขาก้าวไปข้างหน้าและจับจ้องที่ดวงตาของจูเหิง เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ? พูดใหม่หน่อยซิ?"

เขาท่าทางดุดัน ความโกรธแค้นในดวงตาเขาเกือบจะกลืนร่างจูเหิงทิ้งไปให้ได้

จูเหิงเขย่าพัดและพูดด้วยความหวาดผวาว่า "ฉัน...... ฉันพูดอะไร ฉันแค่รับชามซุปจากเธอมาชามหนึ่ง ทำไม? จะตีฉันเหรอ? เซียวเฉวียน ฉันบอกให้นา วันนี้เป็นวันสอบ ตีกันก่อนสอบ เดี๋ยวโดนตัดสิทธิ์สอบนา!"

คนที่ไม่รู้เรื่องเงื่อนงำกระซิบถาม ที่ว่าเธอนี่หมายถึงใคร ทำไมเซียวเฉวียนถึงได้โกรธขนาดนี้?

”ฉันเป็นคนชินกับการส่งข้อตอบกระดาษเปล่าอยู่แล้ว กลัวอะไร?”

เซียวเฉวียนตอบอย่างเยือกเย็น จูเหิงผงะ เซียวเฉวียนสอบตกเรื่องเล็ก แต่จูเหิงยังต้องอาศัยผลคะแนนสอบเพื่อก้าวเข้าสู่ราชสำนัก! วันนี้เขาแค่ต้องการจะฉีกหน้าเขาสักหน่อยให้เขาอับอาย คิดว่าคนที่ต้องอาศัยการสอบเพื่อพลิกฐานะอย่างเซียวเฉวียนคงไม่กล้าสู้รบตบมือต่อหน้าสนามสอบอย่างนี้!

แต่เซียวเฉวียนกล้า!

เขาไม่คิดถึงอนาคตของเขาแล้วหรือ?

เซียวเฉวียนไม่คิด แต่จูเหิงต้องคิด!

จูเหิงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด "โอ้ยๆ! คนมา! เรียกคนมาเร็ว!

ที่จูเหิงมาสอบในวันนี้ เขาพาคนรับใช้มาด้วยเพียงคนเดียว คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ กลัวจนสลบไปกองอยู่กับพื้นไปนานแล้ว!

ผู้สมัครสอบคนอื่นๆ นอกจากได้ยินเรื่องซุปหนึ่งชาม ยังมีเรื่องเกี่ยวกับซ่งเชียนเวิ่นอีก ยิ่งไม่อยากที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม

ในที่สุดเพื่อนร่วมทีมตามปกติของจูเหิงก็มาถึง เมื่อเห็นจูเหิงตกอยู่ในสถานการณ์น่าเศร้าเช่นนี้ จึงแอบอ้างฐานะเป็นลูกหลานตระกูลขุนนาง ตะโกนเรียกร้องความเป็นธรรมว่า "เซียวเฉวียน หยุดนะ! เป็นศิษย์ของโรงเรียนชิงหยวนที่ด้วยกัน จะมาทำร้ายเพื่อนเรียนที่เดียวกันได้ไง?”

เซียวเฉวียนยิ้มเยาะอย่างเย็นชา ไม่เหลียวมองพวกนั้นแม้แต่นิด เขาหิ้วตัวจูเหิงขึ้นมา "ถ้าคุณยอมขอโทษ ฉันจะไว้ชีวิตคุณ"

"ฮ่าฮ่า......" จูเหิงกัดฟันจนเลือดไหล "เซียวเฉวียน ฉันพนันได้เลยว่าคุณไม่กล้าทุบตีฉันจนตาย......คุณไม่กล้า จะให้ขอโทษเหรอ? ฝันไปเหอะ เธอแค่อยากจะเป็นเมียของฉัน ฮ่าๆ"

ฉินซูโหรวจะชอบหมูหรือชอบหมา เซียวเฉวียนไม่อยากที่จะไปข้องแวะ แต่ถ้าเป็นพวกเลวยิ่งกว่าหมูหมา จะมาอวดดีอวดเก่งเหนือหัวเขา ไม่ได้แน่ๆ

”คุณดูให้แน่ๆ ว่า ฉันเอาอะไรทุบตีคุณ ฉันทำไมจะไม่กล้าตีคุณ”

เซียวเฉวียนยิ้มอย่างเย็นชา จูเหิงที่ถูกทุบตีจนจมูกเขียวตาบวมเป่งเหลือกตาขึ้น ทีนี้เขาก็มองเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่อยู่ในมือของเขาคือกระถางธูปขนาดเท่าฝ่ามือ

มันทำจากทองสัมฤทธิ์ ถ้าใช้มันทุบลงแรงๆ ก็เพียงพอที่จะทุบกระโหลกของมนุษย์ให้แตกละเอียดได้

มังกรตัวเดียวพันนอนอยู่รอบกระถาง ท่าทางดุดัน

ม่านตาของจูเหิงขยายโต กระถางธูปของจักรพรรดิ......กระถางธูปของจักรพรรดิ! ทรัพย์สินของจักรพรรดิไปอยู่ที่ไหน ก็เหมือนกับจักรพรรดิเสด็จด้วยพระองค์เอง!

”คุณกล้าฆ่าฉัน......” ปากของจูเหิงเต็มไปด้วยเลือด ตื่นตระหนกจนพูดไม่ได้ศัพท์ เขาจ้องมองที่เซียวเฉวียนและพูดอย่างโมโหโกรธาว่า “ฉันตระกูลจูจะสังหารตระกูลเซียวของคุณให้หมดสิ้น!"

จะหลบอะไรๆ ก็หลบไม่พ้น เซียวเฉวียนก็ไม่เคยคิดที่จะหลบ เซียวเฉวียนสายตาเย็นลง บีบคางของจูเหิงจนแน่น "งั้นมาเลย"

จูเหิงตกตะลึงจนตัวแข็ง อะไรนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย