สนามสอบระดับเมืองหลวง ช่วงเช้าเป็นการสอบวิชาเลข
ผู้เข้าสอบต้องล้างมือสองข้างให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าสอบเพื่อแสดงความเคารพต่อการสอบ
และนี่ก็ตรงใจเซียวเฉวียนอยู่พอดี มือเขาเปื้อนไปด้วยเลือดของจูเหิง จะใช้มืออย่างนี้ถือฟู่กันก็เบื่อกลิ่นคาวนั่น
มันต่างกับตอนสอบระดับชนบท ผู้เข้าสอบทุกคนแสร้งทำเป็นมีอารมณ์ผ่อนคลาย พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือมาจากที่ต่างๆ มีความเย่อหยิ่งและดูแคลนผู้อื่น อันที่จริง พวกเขาก็ได้ยินเกี่ยวกับโจทย์วิชาเลขของปีนี้ ดูผิวเผินสุขสบาย แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเครียดจนฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
นับตั้งแต่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนชิงหยวน เหวินเจี้ยวยวี่ผู้กระตือรือร้นและขยันขันแข็งได้สอนเซียวเฉวียนทุกวันทบทวนอย่างหนักในวิชาเลขของเขา เซียวเฉวียนก็เข้าใจวิชาคำนวณโดยส่วนใหญ่ของต้าเว่ยแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียนหนังสือวิชาเลขของจีนโบราณด้วยตนเองตามความจำ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเรียนด้วยตนเองอย่างถูกวิธี
ระดับวิชาเลขของต้าเว่ยนั้นเทียบเท่ากับของสมัยราชวงศ์หนานซ่งของจีน เนื้อหาวิชาเลขของต้าเว่ยส่วนใหญ่คล้ายกับ "ซู่ซู้จิ่วจาง" (ตำราเลขเก้าบท)
ในบรรดาคำถามเก้าประเภท แยกออกเป็น ต้าเอี่ยน (ความสอดคล้อง) เทียนสือ (คำนวณปฏิทินและปริมาณฝน) เถียนอวี่ (พื้นที่นา) ชึว่าง (เส้นระยะมุมฉาก) ฟู่อี้ (ภาษี) เฉียนกู่ (ขนส่งเมล็ดพืช คลังจัดเก็บ) อิ๋งเจี้ยน (งานก่อสร้าง) จวินจู๋ (วางผังค่ายและเสบียงทหาร) ซื่ออู๊ (ค้าขายแลกเปลี่ยน ดอกเบี้ย)
แม้ว่าต้าเว่ยยังไม่มีสูตรคูณ แต่เขาก็มีวิชาเลขที่เทียบได้ไม่ด้อยกว่าของราชวงศ์หนานซ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์
วิชาเลขของต้าเว่ยเน้นในการนำไปใช้ได้จริง ข้อสอบวิชาเลขในการสอบแข่งขันมักจะถามปัญหาประเภทคำนวณปฏิทิน คำนวณพื้นที่นาเป็นต้น
ประเภท เทียนสือ คือสอบวิธีคำนวณเวลาปฏิทินและปริมาณของฝน
ประเภท เถียนอวี่ คือสอบวิธีคำนวณพื้นที่ของที่ดิน
ก่อนสอบ ผู้สมัครสอบจะเดิมพันกับประเภทของข้อสอบ มุ่งเน้นทบทวนหัวข้อเฉพาะบางประเภท ผู้สมัครสอบส่วนใหญ่มุ่งเน้นประเภทคำนวณเวลาปฏิทิน ประเภทคำนวณหาพื้นที่ ประเภทคำนวณภาษี
คิดเดาอย่างไรก็สู้พยายามด้วยตนเองไม่ได้ พวกเขารู้ว่าโจทย์วิชาเลขที่ออกโดยฝ่าบาทนั้นยาก แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่าโจทย์วิชาเลขปีนี้ไม่เพียงยากเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมครบถ้วนด้วย!
โจทย์วิชาเลขมี 10 ข้อ เก้าประเภท ประเภทละหนึ่งข้อ! คำถามข้อสุดท้ายที่เหลือเป็นคำถามประเภทคำนวณเส้นระยะมุมฉากที่ยากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งเกี่ยวข้องกับทฤษฎีพีทาโกรัส
คำถามสิบข้อไม่ได้ยากหรือง่ายกว่ากันสักนิด! แต่เป็นทำนองว่าให้สอบครบทุกเนื้อหาที่มีอยู่ใน “ตำราเลขเก้าบท”นั้นเอง!
ผู้เข้าสอบที่ได้รับโจทย์ข้อสอบมาต่างสูบลมหายใจที่เยือกเย็นเข้าจมูก
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ละเลงพู่กันเขียนอย่างเร่งรีบ โจทย์ทั้ง 10 ข้อนี้อาจจะค่อนข้างยากสำหรับคนสมัยก่อน แต่สำหรับเซียวเฉวียนแล้ว โจทย์เหล่านี้เทียบเท่ากับประมาณระดับมัธยมต้น บวกกับมีสูตรคูณช่วย เขาจึงไม่ต้องนับนิ้วไปมาเหมือนคนอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงสามารถตอบข้อสอบได้อย่างรวดเร็ว
เขาละเลงพู่กันเขียนอย่างรวดเร็วและมีสมาธิ เมื่อผู้คุมสอบม่านชั้นในเดินผ่านก็อดแอบตะลึงไม่ได้
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดโชยมา ใบต้นแปะก๊วยสีทองร่วงหล่นลงบนพื้น ผู้เข้าสอบมองไปที่ใบไม้ร่วงหล่น ความเย็นในใจก็คล้ายมากกับลมในฤดูใบไม้ร่วงในเวลานี้
ใบไม้สีเหลืองตกลงบนกระดาษข้อสอบของเซียวเฉวียนอย่างช้าๆ เขาเขียนอักษรตัวสุดท้ายเสร็จ แล้ววางพู่กันลง
”นายท่าน ส่งข้อสอบครับ” เซียวเฉวียนยื่นกระดาษข้อสอบให้ด้วยความเคารพ ผู้คุมสอบม่านชั้นในขมวดคิ้ว เห็นคำตอบของเขาเขียนอย่างหนาแน่น ลายมือเบี้ยวๆ เอียงๆ
มือขวาของเซียวเฉวียนได้รับบาดเจ็บ เขาจึงใช้มือซ้ายเขียน ลายมือของเขาจึงดูไม่ตั้งตรงเหมือนแต่ก่อน
”กรุณาไปคอยที่จิ้งเตี้ยน (หอสงบ)” ผู้คุมสอบม่านชั้นในเก็บกระดาษข้อสอบ ชี้ไปที่ประตูเล็กข้างๆ ท่าทางดูแคลนเซียวเฉวียนอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงบ่ายยังมีการสอบคัดลายมือ ผู้เข้าสอบที่สอบเสร็จในช่วงเช้ายังไม่สามารถกลับบ้านได้ จึงต้องอยู่รอคอยในหอสงบจิ้งเตี้ยนที่ติดอยู่ข้างๆ
เซียวเฉวียนพยักหน้าและก้าวไปข้างหน้า เหยียบบนใบไม้สีทอง เสียงดังกรอบแกรบดังเข้าไปถึงหูของผู้ทีกำลังทำข้อสอบที่กำลังเกาหัวยิกๆ อยู่ มันชั่งเสียดแทงความรู้สึกมากซะเหลือเกิน!
ต้นแปะก๊วยทั้งต้นจะกลายเป็นสีทองในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นเหมือนพรมสีทองสว่างเจิดจ้า สะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากต้นไม้เต็มไปด้วยสีเหลืองทอง แปะก๊วยจึงสอดแทรกความหมายว่าจะสอบได้ชื่อขึ้นบันทึกไว้บนป้ายทองคำ ห้องสอบของต้าเว่ยปูด้วยปูนข้าวเหนียว และปลูกต้นแปะก๊วยที่ล้ำค่า จึงไม่ควรมองข้ามว่าต้าเว่ยทะนุถนอมบุคลากรที่มีความสามารถประการนี้ขนาดไหน
ข้อสอบวิชาเลขในปีนี้ยากที่สุดในประวัติศาสตร์
การสอบคัดลายมือเขียนพู่กันในช่วงบ่ายนี้ นอกจากตัวเซียวเฉวียน คนอื่นๆ ต่างก็ฝึกฝนมาอย่างหนักด้วยพู่กันกับหมึก คะแนนเลขไม่ดี พวกเขาจึงหวังจะเอาคะแนนจากการสอบคัดลายมือมาชดเชยได้บ้าง
”ไม่เป็นไร ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้แล้วก็พอ” ฉินซูโหรวปลอบใจน้องชายของเธอด้วยเสียงเบาๆ คนอื่นๆ ดูหดหู่หายใจอ่อนแรง น้องชายก็หน้าย่อยคอตกเช่นกัน เธอยิ้มและพูดว่า “คุณย่าเตรียมอาหารดีๆ ไว้ให้แล้ว สอบแล้วก็แล้วไปไม่ต้องคิดมาก กลับบ้านเหอะ"
ฉินหนานและฉินเป่ยพยักหน้า น้ำตาแทบจะไหล ครั้งนี้สอบไม่ผ่าน ทำให้ตระกูลฉินขายหน้าจริงๆ!
เวลานี้ เซียวเฉวียนเดินส่ายร่างอาดๆ ออกมา แม้มือข้างขวาจะถูกห้อยด้วยแถบผ้า แต่เขาดูมีอารมณ์พออกพอใจ แตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
ไป่ฉีที่รอคอยอยู่ตลอดเวลา รีบเข้าทักทายเขาทันที "เจ้านาย สบายดีนะครับ?"
”สบายดีมากมาก!” เซียวเฉวียนตบไหล่ของไป่ฉี กระพริบตา “ไม่ต้องห่วง เลขไม่มีปัญหา”
ผู้สอบคนอื่นได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งปล่อยโฮดังยิ่งกว่าเดิม
หลงตัวเอง ฉินซูโหรวตะคอกอย่างเย็นชา แขนหักขาด้วน ยังมาสอบทำหาอะไรอีกเนี่ย?
เซียวเฉวียนก็คิดจะหลบคนของตระกูลฉิน เขาไม่คิดที่จะไปตอแย เขาคุยกับไป่ฉีไม่กี่คำอย่างมีความสุข แล้วเตรียมตัวจะกลับบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน
ฉินเฟิงตะโกนมาว่า "เซียวเฉวียน คุณไม่เห็นฉันเหรอ"
ในสมัยโบราณ พี่ชายคนโตมีสถานะเสมอเหมือนบิดา มีฐานะสูงยิ่ง น้องเขยเซียวเฉวียนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ทำความเคารพ ยังคิดจะหนีจากไปเฉยๆ อย่างนี้หรือ?
ฉินหนานนึกถึงเรื่องจูเหิงถูกนำตัวไปคุมขังในวันนี้ เป็นไปได้ไหมว่าตระกูลจูเปิดข่าวเรื่องนี้ไว้ พี่ชายและพี่สาวยังไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้?
พี่เขยถูกจูเหิงเอาเรื่องซุปชามหนึ่งมาฉีกหน้าเหยียดหยามกัน เขาอาจยังไม่หายโกรด มาเจอหน้าพี่สาวตอนนี้จะไม่เกิดเรื่องตูมตามขึ้นมาหรือ?
ฉินหนานแอบดึงแขนเสื้อของฉินเฟิง "พี่ใหญ่ เรากลับกันเถอะ ฉันหิวแล้ว"
ฉินเฟิงเหลือบมองไปที่เขา "น้องสาม เจ้ากลัวเขางั้นหรือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...