ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 75

น้ำเดือด 100 องศาเซลเซียส

ถ้าคนตกลงไปในหม้อที่มีน้ำเดือด ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายถ้าเขาถูกต้มเป็นเวลา 20 วินาที

หยางจูร่วงเข้าไปในตรงกลางของหม้อสี่เหลี่ยมพอดี ด้วยบั้นท้ายของเขาใหญ่ จึงคาอยู่ข้างในของหม้อ น้ำซุปเดือดลอยขึ้นด้านบนดังปุด ๆ

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! ดึงฉันออกเร็วเข้า เร็วเข้า!” เขากรีดร้อง เจ็บแสบจนตาเฉจมูกเบี้ยว

ลุงเต๊ากระโจนโดดลงมาจากชั้นสองและยืนที่ข้างหม้อ "ฮ่าฮ่าฮ่า! หมูต้ม! มาดูสิ! ฮ่าฮ่าฮ่า!"

พวกลูกหลานตระกูลขุนนางที่ถูกตีจนหัวยุ่งผมกระเซิงทั้งวิ่งทั้งกลิ้งลงมาจากบันได ดูจากสถานการณ์แล้วเห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่พอให้ลุงเต๊าตีจนหนำใจ

หยางจูคาติดอยู่ในหม้อสี่เหลี่ยม พวกเขารีบกุลีกุจอ คิดจะเอาเขาออกมา แต่เนื่องจากหยางจูอ้วนจนเกินไป พวกเขาได้แต่เดือดร้อนใจล้อมดูอยู่ข้างๆ

w✮ap.✵feng✬sh✷u✸ge.info

หานกุ้ยบ้าคลั่งจวนจะร้องไห้ "ทำไงดี! ทำไงดี!"

”คุณหาน จริงๆ แล้ว” เซียวเฉวียนชี้และเตือนบอก “คนยังเอาออกไม่ได้ แต่ฟืนข้างล่างสามารถเอาออกไปได้ก่อนนะ”

เงียบ......

สองวินาทีผ่านไป หานกุ้ยกลับมาตั้งสติและกระทืบเท้า ตะโกนว่า "เร็ว! ยังยืนเฉยอยู่ทำไม! ดับไฟ! ไปเอาน้ำมา! ไปเอาน้ำมาเร็ว!"

โกลาหลสับสน ทุกคนมือไม้อ่อนปวกเปียกทำอะไรไม่ถูก

ผิวหนังของหยางจูถูกลวกเสียหาย ร่างกายเต็มไปด้วยแผลพุพอง เขากรีดร้องเสียงดังอย่างทรมาน เมื่อเทียบกับการฆ่าคนแล้ว ลุงเต๊าดูเหมือนจะชอบแกล้งคนแบบนี้มากกว่า เขาถือมีดขนาดใหญ่ มือหนึ่งท้าวเอว อารมณ์เบิกบานยิ่งนัก "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มันเรียกว่าอะไรนี่? เขาว่า หมูตายไม่กลัวน้ำลวก! แต่เจ้า......"

ขณะที่ลุงเต๊ากำลังดูอย่างร่าเริง ลูกหลานตระกูลขุนนางก็ถือโอกาสที่เขาอยู่ในความประมาท ทันใดนั้นก็โจมตีลุงเต๊าจากข้างหลัง!

“ไปตายซะเถอะ!”

”ระวัง!” เซียวเฉวียนตะโกนในใจ แต่ภายนอกเขาส่งสายตาเตือนไปยังลุงเต๊า

ลุงเต๊ามือไม้ว่องไวชำเลืองมองไปที่เซียวเฉวียนแวบหนึ่ง มองไปข้างหลัง แต่ไม่ทันซะแล้ว ดาบหลายเล่มแทงทะลุเข้าไปที่เอว!

เลือดไหลทะลักออกมา ลุงเต๊าลูกตาบวมเป่ง อวัยวะภายในก็ถูกดาบแหวกจนเละทันที!

”พวกเจ้า......เล่นโกง?” ลุงเต๊ากระอักเลือดออกมาเต็มปาก พ่นใส่เต็มหน้าของหยางจู หยางจูทนเจ็บหัวเราะเสียงลั่น สมน้ำหน้า! ดูซิมันจะบ้าอีกไหม!

ลูกหลานตระกูลร่ำรวยมีอำนาจไม่คาดคิดว่าพวกนักพเนจรจะกล้ามาอาละวาด กล้ามาสู้รบกับพวกเขาโดยตรง!

พวกนักพเนจรไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกหลานตระกูลร่ำรวยมีอำนาจท่าทางสุภาพเหล่านี้ จะโหดเหี้ยมยิ่งกว่าพวกเขา และไม่รักษากติกาในการต่อสู้ด้วย!

ลอบตีคนด้านหลัง มีแต่พวกโจรอันธพาลในนักพเนจรหน้าด้านเท่านั้นที่ทำ อัศวินหรือนักฆ่าอย่างลุงเต๊าไม่เคยที่จะใช้วิธีต่ำซำแบบนี้!

บังเอิญลูกหลานตระกูลร่ำรวยมีอำนาจที่ดูมีคุณธรรม มีมารยาทเหล่านี้ กลับมาประพฤติตนเลวทรามยิ่งกว่ามากนัก!

ลุงเต๊าผ่านศึกชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับมาเสียท่ากลุ่มเด็กเมื่อวานซืนที่ไม่เคารพกฎกติกาของยุทธจักรจนถึงแก่ชีวิต!

ลุงเต๊าล้มลงที่พื้น กลายเป็นปลาบนเขียง คนกลุ่มนี้ถูกลุงเต๊าทุบตีจนกลัวเมื่อตะกี้ เมื่อเห็นเขาน่วมลงเหมือนโคลน เพื่อระบายความโกรธ พวกเขาจึงชักดาบทิ่มแทงซ้ำอีกสิบกว่าครั้ง! จนกระทั่งลุงเต๊าหมดลมหายใจ

”ผัฟ......”

”ผัฟ......”

เลือดในปากลุงเต๊าไม่ได้ไหลออกมาเฉยๆ แต่กระฉูดออกมาเลย

ผู้ชนะเป็นเจ้าผู้แพ้เป็นโจร ลุงเต๊าไม่มีอะไรจะพูดแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ แววตาสุดท้ายในดวงตาเขามอดลง เขาจ้องไปที่หยางจูก่อนที่เขาจะตาย มุมปากยังส่อให้เห็นถึงความพอใจอยู่นิดหนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉวียน ได้เห็นลูกหลานตระกูลชนชั้นสูงจัดการกับความขัดแย้ง ภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของพวกเขาทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ ตึกหมินเยว่ถูกย้อมเป็นสีเลือด เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาโด่งดังขึ้นในการต่อสู้ครั้งนี้

ความขัดแย้งในครั้งนี้อันที่จริงมันหลีกเลี่ยงได้ นอกจากการเสียชีวิตของลุงเต๊าและการบาดเจ็บสาหัสของหยางจู คนอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

การยกพวกตีกันอย่างรู้จังหวะซึ่งกันและกัน ดูๆ แล้วเหมือนว่าเรื่องอย่างนี้คงไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ที่ตึกหมิงเยว่นั้น ทุกคนทั้งดึงทั้งลาก ในที่สุดก็เอาร่างของหยางจูออกจากหม้อสี่เหลี่ยมจนได้

ทันทีที่หยางจูออกมา เขาก็ได้แต่นอนอยู่บนพื้น และทุกคนก็เทน้ำเย็นใส่เขา ถ้าเป็นคนอื่นคงสลบไปนานแล้ว หยางจูมีเนื้อหนังเยอะค่อนข้างทนความร้อนได้มากอยู่!

หยางจูพละกำลังยังสมบูรณ์อยู่ ทั้งกรีดร้องบันดาลโทสะ ทั้งร้องโหยหวนและคำราม เขาเจ็บปวดมากจึงโยนความผิดทั้งหมดโดยชี้นิ้วไปที่เซียวเฉวียนว่า "เป็นความผิดของคุณทั้งหมด! ถ้าคุณไม่ดื้อดึงจะเอานางหมิงเยว่ให้ได้ นายน้อยคนนี้จะต้องมาเคราะห์ร้ายอย่างนี้หรือ!"

เซียวเฉวียนนั่งนิ่งที่โต๊ะอย่างสงบพลางจิบเหล้า สุดท้ายไฟก็ยังลามมาถึงตัวเองอยู่ดี

ฉินหนานได้ยินปุ๊บ พูดด้วยความโกรธว่า "ยังมีเหตุผลหรือเปล่านี่? เกี่ยวอะไรกับพี่เขยของฉัน? คุณต้องการนางหมิงเยว่เอง คุณจะโยนความผิดมาที่พี่เขยของฉันได้อย่างไร"

หยางจูได้รับบาดเจ็บสาหัส หากตระกูลหยางตำหนิลงมา ไม่มีใครในสถานที่แห่งนี้รับเคราะห์ไหว

หานกุ้ยและคนอื่นๆ กลัวว่าตระกูลหยางจะมาวุ่นวายกับพวกเขา เขาจึงติดตามหยางจูโยนความผิดทั้งหมดไปลงที่เซียวเฉวียน “โยนความผิด ถ้าไม่ใช่ทำเพื่อให้เซียวเฉวียนได้เปิดหูเปิดตา พวกเราจะต้องมาทุบตีกับนักพเนจรนี้หรือ?”

อ้าว เพิ่งรู้ว่าตรรกะเอามากลับหัวแบบนี้ได้

ลูกหลานตระกูลขุนนางไม่เพียงถนัดเรื่องการใช้เล่ห์เหลี่ยมชั่วร้ายเท่านั้น ยังเก่งเป็นอันดับหนึ่งในการสลับเปลี่ยนสีขาวเป็นดำ ให้ดำเป็นขาวอีกด้วย

เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อเอาหน้าที่อธิบายหาเหตุผลไม่ได้ และเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะพวกเขาเล่นพวกเอาจำนวนคนมากไปรบจำนวนคนน้อย จึงทำให้เกิดหายนะครั้งนี้ขึ้น

เซียวเฉวียนเฝ้าดูทั้งหมดอยู่ห่างๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นความผิดของเซียวเฉวียน

ถูกต้อง ในสถานที่นี้ มีเพียงเซียวเฉวียนที่ไม่มีคนให้พึ่งพา ถ้าไม่โยนความผิดให้เซียวเฉวียนจะโยนให้ฉินหนานฉินเป่ยงั้นหรือ

ตระกูลฉิน พวกเขายุ่งไม่ได้แน่

มันน่าขยะแขยงจริงๆ

วันนี้หยางจูเชิญเซียวเฉวียนมาทานอาหารมื้อนี้ เพียงเพื่อจะสั่งสอนเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนก็อยู่รอดปลอดภัยดี ตัวเองถูกลวกเป็นหมูเกือบตาย หยางจูจะทำใจได้อย่างไร?

หยางจูคร่ำครวญ ทุกคนคิดว่าเขาแค่ถูกน้ำร้อนลวกเฉยๆ แต่ในสายตาของเซียวเฉวียน เขาเป็นคนที่กำลังจะตาย

แน่นอนเซียนเฉวียนจะไม่ถือสากับคนตาย เขาพูดอย่างเย็นชา "ถ้าพูดมาอย่างนั้น พวกคุณคิดจะทำยังไง"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย