ครึ่งเดือนต่อมาหานเซียวพาหนานอิงลงเขา นางขี่ม้าเป็นแล้วเพราะลู่หนิงหวังสอนให้แต่ม้ามีตัวเดียวเขาและนางจึงต้องขี่ม้าลงเขามาด้วยกัน น่าแปลกประหลาดที่แต่ก่อนครั้งแรกที่หนานอิงมาอยู่ที่นี่นางรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ช่างน่ากลัวนัก เส้นทางคดเคี้ยวและเต็มไปด้วยอันตรายที่อาจคร่าชีวิตของนางได้ทุกเมื่อ
แต่ในยามนี้เส้นทางแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยความงดงาม มีดอกไม้ป่าตลอดสองข้างทาง เส้นทางยังคงคดเคี้ยวและนางเองก็ไม่คิดว่าจะจำได้แต่บรรยากาศนั้นกลับหาได้น่ากลัวมิหนำซ้ำยังอบอุ่นอ่อนหวานเป็นอย่างมาก
หนานอิงไม่อาจปฏิเสธได้ว่านั่นเป็นเพราะบุรุษที่กำลังโอบกอดนางอยู่ผู้นี้ กลิ่นกายหอมกรุ่นอันเกิดจากถุงหอมที่พกติดกาย แน่นอนว่าย่อมเป็นถุงหอมที่นางไม่ได้ตั้งใจให้เขา
สองพี่น้องนี่มีบางสิ่งที่เหมือนกัน แม้หนานอิงบอกว่าต้องการจะเย็บถุงหอมให้พวกเขาใหม่แต่คนทั้งคู่กลับปฏิเสธอย่างแข็งขัน ถุงหอมใบเก่าที่ไม่ได้เข้ากับอาภรณ์ผ้าไหมอันสูงส่งของพวกเขานั้นทำให้นางรู้สึกผิดอยู่เสมอ แต่ในเมื่อคนใช้ไม่ยี่หระนางจึงได้แต่มองอย่างทอดถอนในใจ
เมื่อลงมาถึงตีนเขาหานเซียวไม่ได้พานางมุ่งตรงเข้าหมู่บ้าน ทั้ง ๆ ที่หนานอิงตั้งใจเอาแล้วว่าคงใกล้จะถึงวันที่นางต้องลงมือแล้ว นางต้องการให้ฮูหยินใหญ่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด นางต้องการรู้ความจริงว่าผู้ใดที่ฆ่ามารดาของนาง นางต้องการให้ท่านหนานได้สำนึกกับสิ่งที่เขาได้ก่อเอาไว้
"ท่านจะพาข้าไปที่ใด"
หนานอิงตีมือของหานเซียวที่ข้างหนึ่งกอดเอวของนางเอาไว้เบา ๆ เป็นเชิงถาม หานเซียวก้มลงมาชิดปากที่ใบหูของนางแล้วเอ่ยเบา ๆ
"แล้วเจ้าต้องการไปที่ใดเล่า"
"สกุลหนาน ข้าจะไปแก้แค้น"
หานเซียวหัวเราะขบขัน
"คิดว่าพร้อมแล้วหรือ?"
"เจ้าค่ะ ข้าพร้อมแล้ว"
ม้าวิ่งเหยาะ ๆ ไปอย่างช้า ๆ เขาเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เจ้าเคยสังหารคนแล้วหรือจึงคิดจะไปแก้แค้น?"
หนานอิงส่ายหน้า
"ยังเจ้าค่ะ"
"ในเมื่อยังไม่เคยสังหารคน เจ้าจะพร้อมได้อย่างไร?"
หนานอิงโต้แย้ง
"แต่ข้าเคยฆ่าหมูป่า ยังมีกวางพวกนั้นอีกท่านก็เห็น"
"แล้วอย่างไรล่าสัตว์ได้ก็คิดว่าฆ่าคนได้แล้วหรือ?"
หนานอิงยืดคอให้ตรงยังบีบมือเขาแน่น ถึงจะเคยฆ่าสัตว์แต่นางนางเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะสามารถฆ่าคนได้ มันจะเหมือนกันหรือไม่
"เจ้ายังไม่แกร่งพอที่จะเป็นมือสังหาร ข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่หนึ่ง ที่นั่นเจ้าจะได้รู้ว่ามือสังหารที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร แต่ก่อนไปข้าขอถามเจ้าคำหนึ่ง"
หนานอิงเงยหน้ามองเขา
"คำถามของท่านคือ?"
หานเซียวหยุดม้า เขาสบตาคู่งามของนางนิ่งงันใบหน้าเคร่งขรึม
"หนานอิงข้าถามเจ้า หากเจ้าเลือกความสงบสุขได้ในตอนนี้เจ้าจะเลือกหรือไม่"
หนานอิงเงยหน้าหัวเราะ เอ่ยถ้อยคำคล้ายเยาะหยันตนเอง
"ชีวิตของข้ายังจะเรียกหาความสงบสุขได้อีกหรือเจ้าคะ?"
"ได้สิ หากเจ้าเลือกที่จะอยู่ข้างกายข้ายินยอมเป็นภรรยาของข้าและล้มเลิกการแก้แค้นเสีย เจ้าจะได้ทุกอย่างในชีวิตทั้งสุขสบายอย่างที่เจ้าเองไม่คาดคิดมาก่อน เงินทองอำนาจเจ้าจะได้ทุกสิ่งยกเว้นการแก้แค้นที่เจ้าไม่อาจข้องเกี่ยวได้"
หนานอิงมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย มีความสับสนทั้งยังตกตะลึงอยู่ในนั้น หานเซียวผู้นี้กำลังขอให้นางแต่งเป็นภรรยาอยู่ข้างกายของเขาหรือ เขาพูดจริงหรือไม่?
"หากข้าเลือกแก้แค้นเล่าเจ้าคะ"
ถึงการแสดงออกของคนทั้งสองจะแตกต่างจากคนทั่วไปอยู่บ้าง ท้ายที่สุดแล้วหนานอิงย่อมรู้ว่านั่นเป็นเพราะพวกเขาคือผลพวงจากสงคราม แต่ทุกการแสดงออกล้วนจริงใจ ป่าเถื่อน ตรงไปตรงมา และไร้การเสแสร้ง ผิดกับคนที่จวนสกุลหนาน ในยามที่นางมีอำนาจในมือเป็นที่รักใคร่ของท่านหนานในยามนั้นทุกคนล้วนหวังผลประโยชน์กล่าววาจารื่นหู แต่เมื่อสุดท้ายนางตกอยู่ในสถาณการณ์ที่ลำบากกลับหามิตรแท้ในยามยากได้ยากเย็นยิ่ง
หานเซียวพานางเดินทางโดยไม่หยุดพัก แต่นางยังได้อาศัยนอนบ้างในยามที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาในขณะที่หานเซียวเองกลับยังคงสง่าอยู่บนหลังม้าโดยไม่เหน็ดเหนื่อย
หนึ่งคืนหนึ่งวันผ่านมาแล้วในที่สุดคนทั้งคู่ก็ถึงจุดหมาย ที่นี่คือค่ายทหารใต้บัญชาการของลู่หนิงหวัง สถานที่ตั้งไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก
หนานอิงไม่ได้อ่อนระโหยโรยแรงอย่างที่คิด การฝึกอย่างหนักทำให้นางแข็งแกร่งประดุจทหารผู้หนึ่ง นางแต่งกายในชุดของบุรุษเกล้าผมเป็นมวยขึ้นกลางศรีษะปักปิ่นไม้อย่างง่าย ๆ เสื้อผ้าที่นางสวมใส่เป็นผ้าเนื้อดีที่กันลมได้ดียิ่ง บนเอวห้อยยกของผู้มีพระคุณเอาไว้อย่างหวงแหน
ทันทีที่ม้าหยุดที่หน้าค่ายทหารชายแดน สายตาของคนหลายคู่ต่างจับจ้องมาที่นาง หนุ่มน้อยหน้าหวานที่ประดุจของขบเคี้ยวของเหล่าทหารที่ขาดสตรีมาเป็นเวลานานล้วนดึงดูดความสนใจของทหารหนุ่มกลัดมันได้เป็นอย่างดี
ทหารผู้หนึ่งพาม้าไปเก็บยังมองนางเล็กน้อยพร้อมกับหลุบตาต่ำลงทันใดเมื่อปะทะเข้ากับสายตาเย็นเยียบของหานเซียว
ท่าทางของหานเซียวในยามนี้เปลี่ยนไป เขาไม่มีท่าทางหยอกเย้านางเช่นเดิมแล้วกลับดูองอาจและน่าหวาดหวั่นเหมือนที่นางพบเขาในช่วงแรก
หนานอิงรู้สึกเกรงอยู่บ้างแต่กลับไม่หวาดกลัวเช่นเดิม ที่น่าประหลาดใจคือเขากลับจับมือของนางแล้วดึงให้เดินตาม
"ตามข้ามา"
หนานอิงเดินตามเขาทันใด กระทั่งเขาพานางเข้ามาที่เรือนไม้แห่งหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยกระโจมรอบ ๆ นับว่าเป็นเรือนไม้ไม่กี่หลังในค่ายทหารแห่งนี้ ระหว่างทางที่เดินหนานอิงย่อมรับรู้ได้ถึงสายตาของผู้คนจำนวนมากที่แอบลอบมองนาง แต่เพราะมือของหานเซียวที่จับนางเอาไว้มั่นจึงทำให้นางหาได้หวาดกลัว
และแล้วในเรือนไม้แห่งนี้นางก็ได้พบกับลู่หนิงหวัง เมื่อเข้ามาข้างในหานเซียวปล่อยมือของนางแล้ว ใจของหนานอิงเต้นเป็นกลองรัว นานแล้วที่เขาและหานเซียวไม่ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของนางพร้อมกัน แววตาของลู่หนิงหวังที่มองนางทำให้หนานอิงใบหน้าร้อนผ่าว อดคิดถึงบทรักร้อนแรงระหว่างพวกเขาทั้งสามคนไม่ได้
นั่นเพราะลู่หนิงหวังหาได้ปิดบังความคิดที่แสดงออกมาทางแววตาเลยแม้แต่น้อย
หนานอิงยืนอยู่ต่อหน้าเขา ลู่หนิงหวังขยับเข้ามาก้มลงสูดดมความหอมหวานที่ลำคอของนางจมูกอยู่ห่างไม่ถึงชุ่นทำให้หนานอิงถึงกับร่างสั่น
"นางทำงานไม่ได้ กลิ่นหอมของนางจะทำให้นางถูกจับได้"
แววตาของลู่หนิงหวังแข็งกร้าว หนานอิงงงงวยว่าพวกเขาหมายถึงสิ่งใดกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...