เมื่อประตูจวนถูกปิดลง ฮูหยินใหญ่แทบจะสะบัดมือออกจากร่างกายของหนานอิงด้วยความรังเกียจ นางหันมาด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ ดวงตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ในขณะที่มือสังหารจากเจียงหนานอทั้งสองยังอยู่ข้างฮูหยินไม่ห่าง
"เจ้ารนหาที่ตายแท้ ๆ รอดออกไปได้ยังกล้าที่จะกลับมาอีก"
หนานอิงยกมุมปากยิ้มเย็น ใบหน้างดงามของนางยิ่งดูสูงส่งและน่ากลัวเป็นอย่างมาก นางหาได้กลัวผู้ใดในที่นี้อีกต่อไป
"กระดูกแม่ของข้าอยู่ที่ใด"
นางไม่สนใจคำถามของฮูหยินใหญ่ สิ่งที่อยู่ในใจของนางยามนี้นอกจากสังหารสตรีปากมากผู้นี้ก็คือร่างของมารดา
ฮูหยินใหญ่กลับหัวเราะหยัน
"ศพผีไร้ญาตินั้นมีความสำคัญอันใดกันที่ข้าต้องสนใจ"
"ท่านแม่ของข้าอยู่ที่ใด"
น้ำเสียงเย็นของหนานอิงกลับถามออกมาอีก ฮูหยินใหญ่ปลายสายตามองนางแล้วเชิดหน้าไม่สนใจแม้แต่น้อยที่จะตอบคำถาม
"เจ้าอยากรู้หรือ หากอยากรู้ก็คุกเข่าลงเสียแล้วคลานออกไปจากที่นี่ บัดนี้ข้ายังมีเมตตาอยู่บ้างที่จะไม่สังหารเจ้าให้ตายตามแม่ของเจ้าไป"
"สารเลว"
หนานอิงแทบจะขยับกายไปปาดคอนางผู้นั้นแล้ว หากไม่ได้อาฉีคอยดึงมือเอาไว้ทั้งส่ายหน้า หนานอิงข่มความแค้นนางกัดริมฝีปากตนเอง กระทั่งถูกแผลที่ลู่หนิงหวังกัดเอาไว้นางจึงข่มให้ลึกลงไปอีก กลิ่นเลือดอบอวลในปากหนานอิงควบคุมสติอย่างยากลำบาก
"เจ้าเอาท่านแม่ของข้าไปไว้ที่ใด ตอบข้ามา"
หนานอิงเอ่ยด้วยความเคียดแค้น นางพยายามสืบข่าวเรื่องศพของท่านแม่รู้เพียงแต่ว่าหลังจากท่านแม่ตาย ฮูหยินใหญ่ก็ให้คนนำศพออกจากจวน แต่เป็นผู้ใดที่นำศพออกไปและนำไปไว้ที่ใดนางไม่อาจสืบได้
หรือจะเป็นเพราะว่าแม้แต่คนที่นำศพของท่านแม่ออกไปทิ้งนั้นยังถูกฮูหยินใหญ่สังหารทิ้งไปเสียแล้ว ฮูหยินใหญ่กลับเอ่ยอย่างสะใจเมื่อนึกถึงมารดาของหนานอิง
"เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาบังคับข้า เด็ก ๆ จับมันเอาไว้แล้วโบยมันเสีย"
อาฉีขยับมาด้านหน้าพร้อมจะปกป้องหนานอิงเต็มที่ ทั้งที่นางไม่อยากแสดงตนว่ามีวรยุทธ์แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อก้าวขาเข้ามาที่จวนแห่งนี้ฮูหยินใหญ่กลับไม่ไว้หน้าจวนอ๋องพร้อมจะลงมือทันที
"ไม่ต้องห่วงนางทำอะไรข้าไม่ได้ เจ้าเองก็อย่าเผยพิรุธให้พวกเขาจับได้"
หนานอิงกระซิบแผ่วเบา มือสังหารเจียงหนานยังจับตาดูนางอยู่ จากที่ลู่หนิงหวังบอกว่าท่านหนานได้เข้าวังตามพระบัญชา บัดนี้จากที่หนานอิงคำนวณใกล้เวลาที่ท่านหนานจะกลับจวนมาแล้ว หนานอิงเฝ้ารอคอยว่าหลังจากท่านหนานกลับมาจะมีผู้ใดกล้าลงมือกับนางอีก
อาฉีเองก็มิได้หวาดกลัวผู้ใด แม้นางไม่อาจใช้วรยุทธ์แต่ยังปกป้องหนานอิงเต็มที่
"ผู้ใดกล้าแตะต้องนายของข้า ระวังศีรษะเอาไว้ให้ดี เห็นหรือไม่ว่ารถม้าที่มาส่งนายหญิงนั้นคือของจวนใด หากไม่รู้ข้าจะบอกเอาบุญ รถม้านั่นเป็นของซู่อ๋องลู่หนิงหวังและอวิ๋นอ๋องหานเซียวผู้ใดกล้าลองดีก็เข้ามาเลย"
หนานอิงยังยืนนิ่ง อาฉีกางมือออกปกป้องนางอย่างเต็มที่ ในขณะที่คนของฮูหยินใหญ่ชะงักไม่กล้าขยับ สตรีชราผู้นั้นกลับไม่เกรงกลัว นางอายุปูนนี้จัดการเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย แค่คำขู่เล็กน้อยของบ่าวผู้หนึ่งนางย่อมไม่เกรงกลัว อีกทั้งนางถนัดเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีเป็นอย่างยิ่ง
ฮูหยินใหญ่เพียงแต่คิดว่า ไม่อาจปล่อยหนานอิงเอาไว้ได้อีกแล้ว ต้องจัดการหนานอิงก่อนค่อยหาเรื่องใส่ร้ายนางทีหลัง ถึงหนานอิงจะใช้รถม้าของจวนอ๋องแล้วอย่างไร ตำแหน่งของหนานอิงอย่างมากก็คือนางข้างห้องผู้หนึ่งหาใช่พระชายาของจวนอ๋องเสียหน่อยมีสิ่งใดต้องกลัวกันในเมื่อไม่มีคนนอกสอดรู้สอดเห็นแล้ว จะตีหนานอิงจนตายก็หาได้มีพยานหลักฐานมาเอาผิดนางได้
"จับนางไม่ต้องสนใจ พวกเจ้าเป็นบ่าวผู้ใดจึงไม่ฟังคำสั่งของข้าแล้ว"
หนานอิงกำมือแน่น เอาเถิดหากคนพวกนั้นมาจริง ๆ นางคงต้องลงมือแล้ว อย่างไรมือสังหารที่ทำไม่สำเร็จก็ย่อมต้องตาย หลังจากได้ฆ่าฮูหยินใหญ่แล้วหนานอิงย่อมตายตาหลับเรื่องอื่นปล่อยให้ลู่หนิงหวังจัดการเองเถิด
ก่อนที่คนพวกนั้นจะกรูเข้ามา กลับมีเสียงตวาดดุดันและทรงอำนาจเอ่ยขึ้น
"หยุดก่อน พวกเจ้าถอยออกไปเสีย!"
หนานอิงมองไปยังคนผู้นั้นทันใด และทุกคนพลันหยุดชะงักไม่กล้าลงมือทั้งยังถอยหลังไปอีกหลายก้าว ท่านหนานกลับมาแล้วและเป็นผู้ที่ออกคำสั่งให้ทุกคนหยุดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
เพียงเห็นท่านหนานฮูหยินใหญ่พลันน้ำตาไหลออกมาคล้ายตนเองเป็นผู้ที่ถูกหนานอิงรังแก เสียงของนางสั่นระริกทั้งยังซับน้ำตาของตนเองไปด้วย
"นายท่าน ท่านดูบุตรสาวของท่านข้าเพียงเป็นห่วงนางยิ่ง นางกลับไม่เห็นความดีของข้า ยังด่าข้าไม่หยุดกำเริบเสิบสานอกตัญญูนัก ข้าเพียงแค่ต้องการสั่งสอนนางเล็กน้อย"
ท่านหนานขยับกายปกป้องฮูหยินใหญ่ทันใด แววตาของเขาวาวโรจน์มองหนานอิงด้วยดวงตาแดงฉานคล้ายจะปรี่เข้าไปตบหน้าหนานอิงสักหลายฝ่ามือ
"กาลกิณีเช่นเจ้ากลับมาอีกด้วยเหตุใด ไยไม่ตายไปเสีย ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้าไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้"
ท่านหนานบัดนี้เกลียดชังหนานอิงเป็นอย่างยิ่ง นางทำให้เขาลำบากและหลังชนฝา เรื่องความสัมพันธ์ฉันบิดาและบุตรสาวนั้นได้ขาดสะบั้นไปตั้งแต่วันที่นางหนีโจรร้ายกลับมาแล้ว
หนานอิงเมื่อได้เห็นบิดาของตนเองอีกครั้งทั้งยังเอ่ยเช่นนี้ถึงกับร่างแข็งทื่อ ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดเข้าหานาง มิผิดจากที่คิดแม้แต่น้อยแต่เหตุใดนางจึงเสียใจและเจ็บปวดอีกเหล่า
ถึงจะเสียใจเพียงใดหนานอิงก็ไม่แสดงออก ใบหน้าของหนานอิงเชิดขึ้น ไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น ไม่มีน้ำตาไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
ท่านหนานบัดนี้ยังดูรูปงามหล่อเหลา ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นับจากวันที่นางหายไปเขาคนนี้กลับใช้ชีวิตอย่างดี ไม่สนใจนางและได้ลืมนางไปแล้ว
กระนั้นหนานอิงยังแอบร้องไห้ในอก นางยังเคยแอบคิดว่าอย่างน้อยด้วยความสัมพันธ์พ่อลูกที่ผ่านมา ท่านหนานอาจจะคิดสำนึกผิดกับนางบ้าง อาจจะคิดถึงนางบ้าง แต่บัดนี้ความคิดพวกนั้นพังทลายไปโดยสิ้น เขายังใช้ชีวิตอย่างดีและตัดขาดจากนางไปแล้วจริง ๆ
หนานอิงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วยใบหน้ายิ้มละไม
"ข้าก็กลับมาเพื่อเป็นหนามยอกอกท่านอย่างไรเล่า"
ท่านหนานแทบจะหยิบดาบออกมาแล้วโยนให้นางปาดคอตนเองทิ้งเสีย วันนี้เขาได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทเป็นการส่วนพระองค์พร้อมกับท่านเสนาบดีเป็นครั้งแรก
เริ่มแรกดีใจยิ่งที่ได้รับพระกรุณา แต่เมื่อเข้าเฝ้ากลับได้รับรับพระราชโองการประทานสมรสพระราชทานให้บุตรสาวคนที่ห้าของเขาหนานอิงกับซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋อง ในยามนั้นท่านหนานตกใจแทบสิ้นสติ หนานอิงหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร นางหายไปแล้ว เขายังเข้าใจว่านางถูกโจนคร่าชีวิตไปแล้วมิใช่หรือ
แต่เมื่อฝ่าบาทตรัสว่า เป็นซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องที่ทำผิดต่อเขานำหนานอิงมาและกักขังนางเอาไว้จึงต้องรับผิดชอบและตบแต่งหนานอิงให้ถูกต้องเสียท่านหนานก็แทบจะเดินออกจากวังไม่ไหว
ในยามนี้เขามีองค์รัชทายาทเป็นบุตรเขยแล้วเขาจะทำเช่นไรเมื่อสองฝ่ายกำลังแย่งชิงบัลลังก์กัน เขายังไม่ทันออกจากวังก็ถูกองค์รัชทายาทเรียกพบ ก่นด่าเขาว่าเป็นนกสองหัวหวังส่งบุตรสาวเข้าจวนอ๋องเพื่อหาทางหนีทีไล่ หากว่ารัชทายาทเป็นฝ่ายพลาดพลั้งทั้งยังไม่ไว้ใจเขาแล้ว
เขาจะหันไปพึ่งบารมีของสองอ๋องได้อย่างไร เมื่อตนเองกลายเป็นคนของรัชทายาทบัดนี้ท่านหนานย่อมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรื่องทั้งหมดจึงถูกโยนความผิดมาที่หนานอิงเพียงคนเดียว
เขาไม่น่าจะปล่อยนางเกิดมา และน่าจะสังหารให้ตายเสียตั้งแต่ยังเด็ก ท่านหนานที่ถูกองค์รัชทายาทเข้าใจผิดไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร หากไม่ได้ท่านเสนาบดีช่วยออกหน้าเขาคงไม่สามารถเดินออกจากตำหนักบูรพาได้ด้วยซ้ำ
ทั้งหมดเพราะหนานอิงลูกทรพีเพียงคนเดียว ที่นำความวิบัติมาให้เขา ท่านหนานชี้หน้านางมือสั่นระริก แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าชิงชังบุตรสาวผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง
"เจ้ามันเนรคุณเกิดมาเพื่อทำให้ข้าลำบาก เจ้าจะเลวไปถึงเมื่อใด"
"ท่านพ่อ เรื่องเลวนี่ท่านสมควรถามตนเองกระมัง ว่าจะเลวไปถึงเมื่อใด กระทั่งศพของท่านแม่ท่านยังไม่ดูแลให้ดี ขับไล่ข้าออกจากจวนข้าไม่ว่า แต่กระทั่งภรรยาผู้หนึ่งที่ถูกคนฆ่าตายท่านยังไม่สนใจ เช่นนั้นถ้าจะโทษเรื่องความเลวนี้หนานอิงคงได้มาจากท่านกระมัง"
"สารเลวคิดต่อปากต่อคำกับข้าหรือ"
ท่านหนานอดรนทนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดเขาก็ปรี่เข้ามาเงื้อมือขึ้นหมายจะตบหนานอิง ฝ่ามือของเขาฟาดลงมาเต็ม ๆ แต่กลับถูกใบหน้าของอาฉีบ่าวจากจวนอ๋องผู้นั้น
แววตาของหนานอิงนั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังยกท่านหนานมาข่มขู่ พ่อบ้านผู้นี้จึงได้แต่สั่งคนอย่างจำยอม เขาเกลียดชังนางนัก มาถึงก็วางอำนาจทันทีในยามที่หนานอิงรุ่งเรือง เขาก็แทบจะไม่มีความสำคัญเมื่อนางจากไปฮูหยินใหญ่ยกสกุลหนานให้เขาดูแล มีหน้ามีตาเป็นอย่างยิ่ง
บัดนี้สตรีผู้นี้กลับมาแล้ว เขาจึงชิงชังนางด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ว่าเขากำลังสูญเสียอำนาจที่มีอยู่ในมือไปอีกครั้ง เขาย่อมไม่ปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้แน่
บ่าวนำเกี้ยวมาตามคำสั่ง คนสี่คนเป็นคนหาม หนานอิงกลับไม่พอใจ ไล่บ่าวผู้หนึ่งให้ไปยืนด้านข้าง
"พ่อบ้าน เจ้ามานี่หามเกี้ยวให้ข้านั่ง ข้าไม่ชอบเขาบ่าวผู้นี้ผอมนักเรี่ยวแรงดูไม่ค่อยมี"
พ่อบ้านสกุลหนานหน้าสั่นด้วยความโกรธที่ถูกหนานอิงใช้งานของทาสอันต่ำต้อย ถึงเขาจะเป็นบ่าวก็เป็นผู้ดูแลจวนมีอำนาจเต็ม กระทั่งคุณหนูคุณชายในจวนยังเกรงใจเขาอยู่มาก เรื่องงานหนักเขาย่อมไม่เคยลงมือ วัน ๆ นอกจากเอ่ยปากประจบสอพลอแล้วเขาแทบจะไม่เคยหยิบจับสิ่งใดด้วยซ้ำ
แต่คราวนี้กลับถูกหนานอิงสั่งให้แบกเกี้ยวของนางด้วยตัวเอง ความโกรธนี้ทำให้เขาปฏิเสธเสียงรอดไรฟัน
"คุณหนูห้า ข้าน้อยไม่เคยหามเกี้ยวเกรงจะทำได้ไม่ดี ข้าจะให้ผู้อื่นมาแบกท่าน"
หนานอิงหัวเราะหยัน ทั้งยังส่ายหน้า ภาพที่เขาลากแม่ของนางในตอนนั้นยังติดตายิ่งนัก หนานอิงนั่งลงบนเกี้ยวสั่งเขาเสียงดัง
"คำสั่งข้าเจ้ากล้าขัดหรือ ไม่รู้หรือว่าพระสวามีของข้าคือผู้ใด ผู้อื่นไม่เอา ต้องเป็นเจ้าเท่านั้น"
หนานอิงยกพระสวามีมาข่มขู่อย่างสนุก ชื่อเสียงของลู่หนิงหวังและหานเซียวนั้นย่อมกระฉ่อนไปทั้งเมือง กระทั่งเด็กเล็กยังหวาดกลัวด้วยได้รับการข่มขู่จากบิดามารดาเป็นประจำว่าหากเป็นเด็กดื้อจะให้ซู่อ๋องตัดลิ้นเสีย แน่นอนว่าเรื่องนี้พ่อบ้านสกุลหนานย่อมได้ยินได้ฟังมาบ้าง
มือของเขาสั่นระริกพยายามที่จะไม่ก่อเรื่อง ทั้งก้มลงยกเกี้ยวขึ้นมาพร้อมกับยกนางขึ้นด้วยความจำยอม แล้วหามหนานอิงไปยังเรือนรับรองแขกพร้อมกับบ่าวอีกสามคนที่ร่างกายกำยำ
กว่าจะแบกนางมาได้ร่างผอมของเขาก็ทำเอาเหงื่อตก หนานอิงพึงพอใจมากอารมณ์ของนางเย็นลงเล็กน้อย แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดเมื่อหามเกี้ยวไปได้ครึ่งทาง พ่อบ้านกลับสะดุดจนเกือบล้ม ส่งผลให้เกี้ยวของหนานอิงโครงเคลงจนนางตกจากเกี้ยวที่ยกสูงจากพื้น
อาฉีเองก็ปล่อยให้นางหล่นสู่พื้นก่อนจะวิ่งเข้าไปพยุงทั้งยังทำหน้าตาตื่น ชี้หน้าพ่อบ้านผู้นั้นทั้งยังด่าออกมาอย่างไม่เกรงใจ
"คนต่ำช้า เจ้ากล้ากลั่นแกล้งพระชายาหรือ"
พ่อบ้านผู้นั้นกลับปฏิเสธ
"ข้าเพียงสะดุดก้อนหินเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้า ทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุ"
อาฉีหัวร้อนขึ้นมา นางย่อมรู้ว่าเป็นแผนของพ่อบ้านผู้นั้นที่หวังจะแกล้งหนานอิงแต่นายหญิงของนางกลับไปผสมโรงด้วยทำให้แรงนั้นมากขึ้นกระทั่งตนเองหล่นลงมาจนได้รับแผลที่เข่า ทั้งหมดนายหญิงย่อมวางแผนเอาคืนคนผู้นี้แล้ว
ตัวพ่อบ้านนั้นเองตกใจไม่น้อยแผนของเขาเพียงจะแกล้งให้นางหวาดกลัวแต่คิดไม่ถึงว่านางจะตกลงมาจริง ๆ
เมื่อถูกบ่าวของหนานอิงด่า เขาเองก็มีโทสะ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยถูกผู้ใดรังแกมาก่อน เรื่องถนัดคือการรังแกผู้อื่นด้วยมีฮูหยินใหญ่คอยหนุนหลัง
หนานอิงเชิดหน้าขึ้น
"ข้าจะตีเจ้าให้ขาหัก ที่บังอาจทำข้าเช่นนี้"
เฮะ นางเป็นผู้ใด แค่คุณหนูตกอับผู้หนึ่ง คิดจะตีเขาได้ง่าย ๆ หรือ สติของพ่อบ้านไม่หลงเหลือแล้ว ทั้งอาการเหนื่อยหอบที่ไม่เคยเกิดขึ้นทำให้เขาหลุดปากด่าหนานอิงออกมา
"ก็แค่สตรีแปดเปื้อนผู้หนึ่งที่นายท่านไม่เห็นเป็นบุตรแล้ว เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดจึงคิดมาข่มเหง นังสารเลวกาลกิณีเช่นเจ้าอย่าคิดว่าจะปีนเข้าจวนอ๋องได้เลย ชีวิตของเจ้าอยู่รอดไม่พ้นคืนนี้เป็นแน่"
เขาไม่เกรงกลัวผู้ใด ทั้งยังมั่นใจว่าหนานอิงเป็นเพียงสตรีตัวเล็กผู้หนึ่งเพราะขาดสติและเขาเองคิดว่าท่านหนานและฮูหยินใหญ่ต้องเข้าข้างเขาเป็นแน่จึงไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย หากเขาจะปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามิใช่ความผิดเขา คนในจวนสกุลหนานก็ย่อมเข้าข้างเขา
แต่พ่อบ้านผู้นี้กลับไม่คาดคิดว่าความซวยกำลังมาเยือนเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...