ดั่งรักบันดาล นิยาย บท 14

ในช่วงนาทีสุดท้ายของการเข้างานหร่วนซือซือก็มาถึงบริษัท เเละสแกนลายนิ้วมือได้ทันเวลาพอดี

ถือว่าเธอยังคงสามารถรักษาสองร้อยหยวนในการปฏิบัติหน้าที่ของเดือนนี้ได้

หร่วนซือซือคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะของตัวเองเเละหายใจหอบเสียงเบา

เดิมทีเธอคิดว่าจะถูกคนเห็นเข้าเเล้ว เเต่ใครจะไปรู้ว่าอวี้อี่มั่วจะมีทางส่วนตัว เเถมยังไม่มีคนอื่นอีกต่างหาก

แบบนี้ต่อไปเธอก็สามารถนั่งรถของเขาได้อย่างเปิดเผยเเล้ว คิดไปคิดมาก็ดีใจอยู่พอสมควร

ตอนที่หร่วนซือซือกำลังดีใจกับความโชคดีของตัวเอง ทางฝั่งแผนกก็เรียกให้ไปประชุม

หร่วนซือซือหยิบสมุดบันทึกของตัวเองเเละรีบไปหาที่นั่งตรงมุมเล็กๆในห้องประชุมให้กับตัวเองทันที

ฝ่ายบริหารของอวี้กรุ๊ปมีขนาดใหญ่มาก ทั้งหมดมีห้าสิบกว่าคนเเละร่วมมือกันทำงานในเเต่ละฝ่าย

เนื้อหาของการประชุมยังคงเป็นไปตามปกติโดยให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ เวลาทำงาน ไม่มาสายหรือออกก่อน

พูดเเล้วก็ชวนให้คนรู้สึกง่วงนอน

เเละในตอนนี้ อยู่ๆคุณหลานหัวหน้าฝ่ายบริหารก็เรียกชื่อหร่วนซือซือ

ทุกคนจึงหันไปมองหร่วนซือซืออย่างสนใจ

หร่วนซือซือรู้สึกงงยิ่งกว่า เเต่เธอก็ยังลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย

" ตั้งเเต่วันนี้หร่วนซือซือจะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของฝ่ายบริหาร "

หลังจากที่หัวหน้าฝ่ายบริหารพูดคำนี้เสร็จ เธอก็ปรบมือทันที ถึงเเม้ว่าทุกคนจะรู้สึกแปลกใจ เเต่พวกเขาก็ยังคงปรบมือเป็นสัญลักษณ์อยู่ดี

ต่อมาการประชุมก็สิ้นสุดลง

หร่วนซือซือซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังคงรู้สึกสับสน เธอจึงรีบไปถามคุณหลานทันที

" คุณหลานคะ นี่มันอะไรกันคะ? ฉัน ฉันเลื่อนขั้นเเล้วหรอ? "

คุณหลานชำเลืองมองหร่วนซือซือนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดขึ้นนิ่งๆ " ฉันก็เพิ่งได้รับแจ้งจากฝ่ายบุคคลในตอนเช้า ส่วนทำไม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน "

พูดเสร็จ คุณหลานก็เดินไป

เเละไม่นาน หร่วนซือซือก็กลายเป็นประเด็นร้อนในแผนกทันที

การเลื่อนขั้นของอวี้กรุ๊ปนั้นมีการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด

พนักงานฝึกงานต้องมีระยะเวลาฝึกงานสามเดือนและผ่านการสอบและสัมภาษณ์ก่อน จึงจะสามารถเป็นพนักงานเต็มรูปแบบของอวี้กรุ๊ปได้

พนักงานธรรมดาที่ต้องการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยต้องมีอายุงานสามปี และสามารถเลื่อนตำแหน่งได้หลังจากผ่านการประเมินจากหัวหน้าแล้ว

หร่วนซือซือดำรงตำแหน่งเพียงสองปี เเละถ้ามองจากเวลาเเล้วเธอก็ไม่มีคุณสมบัติในด้านนี้ด้วยซ้ำ

ดังนั้นที่เธอเลื่อนขั้นมาเป็นตำแหน่งนี้ จึงทำให้คนอดไม่ได้ที่จะพากันคาดเดา

อยู่ๆหวังเหล่ยก็ตาเป็นประกายเเละพูดขึ้นอย่างตะลึง " พี่ซือซือ เเหวนของพี่สวยจัง! "

ถึงเเม้ว่าจะไม่มีเพชรในแหวนวงนี้ เเต่การออกแบบกลับสวยงามมาก

พอได้ยินหวังเหล่ยพูดแบบนั้น มือของหร่วนซือซือก็หยุดลง หลังจากนั้นเธอก็มองแหวนวงนั้น

พอมองเเหวนวงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่อวี้อี่มั่วสวมแหวนวงนี้ให้กับเธอ

ถึงเเม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่โรเเมนติคอะไร เเต่คนหล่อมักจะมีความโรเเมนติคอยู่ในตัวเสมอ

นึกไปนึกมา ใบหน้าของหร่วนซือซือก็เเดงขึ้นทันที

" พี่ซือซือ หนูขอลองใส่หน่อยได้ไหมคะ? " หวังเหล่ยมองเเหวนของหร่วนซือซือตาไม่กระพริบ หลังจากนั้นก็พูดถามอย่างจริงใจ

หร่วนซือซือไม่คิดว่าหวังเหล่ยจะพูดคำขอนี้ออกมา

พอสบตากับสายตาปรารถนาของหวังเหล่ย หร่วนซือซือก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

อวี้อี่มั่วเคยบอกว่าไม่ว่าจะตอนไหนหรือที่ไหน ก็ไม่อนุญาตให้เธอถอดแหวนวงนี้

เธอลังเลอยู่สักครู่ สุดท้ายหร่วนซือซือก็พูดขอโทษหวังเหล่ย: " ขอโทษนะ นี่คือแหวนเเต่งงานของพี่น่ะ "

พอหวังเหล่ยได้ยินที่หร่วนซือซือพูด เธอก็ตะลึงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็รีบพูดขึ้น: " อ๊ะ อ๊ะ ขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่รู้ หนูล่วงเกินไปหน่อย "

เเต่ในตาของเธอกลับปรากฏความหดหู่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เเละมีความไม่ยอมแพ้อยู่ในนั้นเช่นเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดั่งรักบันดาล