ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 141

ล้มครั้งนี้ไม่เบากันเลยทีเดียว โครงหน้าของนีราภาเจ็บปวดจนบิดเบี้ยว

เธอสูดลมหายใจมองดูญาธิดาที่อยู่ข้างๆ โมโหจนกำกำปั้นแน่นๆ และยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่ท้องของเธอแรงๆ

เธอใส่รองเท้าส้นสูง ส้นรองเท้าที่แหลมคมทิ่มเข้าไปในท้องที่นุ่มนวลของญาธิดา เธอเจ็บปวดจนสั่นไปทั้งตัว ร่างกายก็กดเข้ามา

“ญาธิดา เธอคิดว่าสู้ฉันได้หรือ เธอทำให้ฉันลำบากแสนเข็ญขนาดนั้น วันนี้ฉันขอเอาคืนทั้งหมดเลย”

นีราภาพูดอยู่ ดิ้นรนและลุกขึ้นจากพื้น ยังลุกขึ้นยืนได้ไม่เต็มที่ ญาธิดาก็ทนความเจ็บไว้และยื่นมืออีกครั้ง ดึงกระชากเส้นเท้าของนีราภาแรงๆ ไม่ให้เธอลุกขึ้นมาได้

เธอรู้ดี เวลานี้ ถ้านีราภาลุกขึ้นมา ถ้างั้นคนที่ซวยก็คือเธอ ต่อให้เป็นการถ่วงเวลาก็ตาม เธอก็จำเป็นต้องยืนหยัดต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานคนนั้นถูกภวินท์ซื้อใจไปแล้วต่อให้เธอไล่ธมนออกไปชั่วคราว เพียงแต่ว่าไม่นานก็จะกลับมาแล้ว ขอแค่เธอยื้อไว้ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลง

“ญาธิดา แกปล่อยฉันซะ”

นีราภาพยายามถีบขา เพียงแต่ว่าญาธิดากลับอดกลั้นอดทนไว้ ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยมือ เธอจนหนทางทั้งโมโหทั้งโกรธมากเลยทีเดียว ยื่นมือไปจับผมของญาธิดา และกระชากแรงๆ

ทันทีนั้น หนังหัวของญาธิดาตึงไปหมด ความเจ็บปวดทรมานเข้ามาจู่โจม น้ำตาของเธอไหลออกมาในพริบตาเดียว เพียงแต่ว่านีราภายังคงกระชากแรงๆจากข้างหลังเธอ

ถูกกระชากจนใจร้อน ญาธิดากัดฟันปุ๊บ กระชากแรงๆอีกครั้ง นีราภายืนไม่นิ่ง ล้มลงไปที่พื้นอีกครั้ง

ญาธิดาไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดที่ร่างกายและที่หัว พลิกตัวกลับมา ทับร่างนีราภาโดยตรง นีราภาก็ไม่ยอมแพ้ ใช้แรงเพื่อต้องการผลักเธอล้มลงไป

ทั้งคู่ใช้แรงต่อสู้กันไปมา ทั้งหน้าทั้งตัวเป็นแผลตั้งหลายแห่ง

ดวงตาทั้งคู่ของนีราภาแดงก่ำ จ้องหน้าญาธิดาและตะโกนอย่างสุดเสียง “เธอปล่อยมือซะ”

ญาธิดาได้ยิน กัดฟัน และไม่ยอมปล่อยมือ

เธอจะไม่รู้เลยหรอว่า ปล่อยมือในเวลานี้ก็เท่ากับเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย ไม่ว่ายังไงซะ เธอต้องรอให้พนักงานกลับมาก่อน

ขณะเดียวกัน ของอีกฝั่ง สถานการณ์คึกคักเช่นเดียวกัน

พนักงานคนนั้นถูกจิณณ์กดไว้บนพื้น และถูกตีจนหน้าตาบวมช้ำไปหมด

จิณณ์ตีไปด้วย และด่าทอไปด้วย “แกกล้ามาแตะต้องเมียฉัน กล้าแตะต้องเธอใช่ไหม”

ธมนยืนอยู่ข้างๆ และมองดูสถานการณ์ ยกคางขึ้นมาอย่างหยิ่งยโส

ใครใช้พนักงานคนนี้ดึงเธอไว้และไม่ให้เธอไปหาเรื่องญาธิดาล่ะ เพิ่งมาถึงที่ดาดฟ้าชั้นสองตรงระเบียงทางเดินใครจะไปรู้ล่ะว่าจะเจอกับจิณณ์ที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น

ธมนไม่ปล่อยพนักงานคนนี้แน่นอน คำพูดเสียดสีไม่กี่คำทำให้จิณณ์โมโหขึ้นมา ต้องถูกตีเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

มองดูพนักงานคนนั้นถูกตีจนไม่มีแรงสู้กลับ ธมนยักคิ้วอย่างได้ใจ ความโกรธแค้นที่อัดอั้นตันใจได้หายไปแล้ว เธอผายมือ และพูดว่า “พอได้แล้วพอได้แล้วเห็นเขาปุ๊บฉันก็รู้สึกเฮงซวย เราไปกันเถอะ”

จิณณ์หอบเหนื่อยมาก ได้ยินปุ๊บก็หยุดการกระทำทันที จ้องหน้าพนักงานอย่างดุร้าย แล้วลุกขึ้นมา หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือ หลังจากนั้นถึงจับมือธมนออกไป “ที่รัก เราไปกันเถอะ”

พนักงานนอนอยู่บนพื้น ดวงตาถูกตีจนบวมช้ำแทบลืมตาขึ้นมาไม่ได้เลย เขาร้องไห้โดยที่ไม่มีน้ำตา นึกถึงสถานการณ์อีกฝั่ง ทนความเจ็บไว้และหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ส่งข้อความให้กับภวินท์

เวลานี้ เขาก็ไม่หวังหาเงินอะไรทั้งนั้นแล้ว ขอแค่ปลอดภัย ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าทำงานให้กับคนอื่นแล้วจะเป็นจุดจบแบบนี้ เขารับรองได้เลยว่าไม่เอาเงินใครทั้งนั้น

ภวินท์ชนแก้วกับท่านสุวิทย์กลับไปที่นั่งอีกครั้ง พบว่ามือถือมีข้อความเพิ่มมาหนึ่งข้อความ

เป็นพนักงานที่ถูกซื้อใจคนนั้นโทรมา “สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ที่ชั้นสามช่วยเหลือด่วน”

ญาธิดากัดฟัน ใจร้ายขึ้นมาทันที หันหลังไปเก็บคีย์การ์ดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เปิดประตูห้อง318 และผลักนีราภาเข้าไปข้างในโดยตรง

ขณะที่ประตูห้องปิด มือที่จับกลอนประตูของญาธิดากระตุกโดยไม่รู้ตัว

เมื่อกี้สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง สำหรับเธอแล้ว เหมือนกับฝันร้าย เธอกับนีราภาสู้กันแบบจะเป็นจะตาย แค่เธอชะล่าใจนิดเดียว ถ้างั้นคนที่ถูกผลักเข้ามาในห้องก็คือเธอแล้ว

ความเยือกเย็นค่อยๆไต่ขึ้นมาข้างหลังของเธอ ญาธิดาพาร่างกายที่บาดเจ็บไปทั่ว เดินตรงไปข้างหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง

เธอก็ไม่อยากทำถึงขั้นนี้หรอก แต่ว่าเธอถูกบังคับอย่างจนหนทาง ถ้าเธอไม่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ถ้างั้นคนที่ซวยก็คือเธอ

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ใต้ขาของเธอหมดแรง ร่างกายโซเซไปมา ขณะที่ใกล้ล้มลงไป เธอรีบยื่นมือออกมา ตรึงไว้กับกำแพง

จู่ๆ หน้าบันไดมีเสียงเท้าเดินดังเข้ามาจากไม่ไกล ถัดมา เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายก็ดังเข้ามา “ญาธิดา!”

ถัดมา ลมหายใจของผู้ชายเข้ามาใกล้ เธอยังไม่ทันเงยหน้าขึ้นมาเลย เธอก็ถูกกอดไว้ในอ้อมกอดที่อบอุ่นแล้ว

ค่อยๆเงยหน้า เธอเหมือนกับเห็นความตื่นเต้นจากแววตาที่แหลมคมของเขา

เธอดูผิดไปหรือ?ภวินท์จะเป็นห่วงเธอได้ไงล่ะ?

มองเห็นแก้มของสาวน้อยที่ทั้งแดงทั้งบวมจากใต้เส้นผมที่ยุ่งเหยิง ร่างกายก็ซมซานแบบดูไม่ได้เลย ชัดเจนมากเลยว่าเพิ่งผ่านสงครามที่โหดร้ายมา ภวินท์ขมวดคิ้ว เกิดเสียใจขึ้นมาอย่างพูดไม่ออก

เขาเสียใจเล็กน้อย ทำไมตอนนั้นไม่สั่งคนติดตามเธอเพิ่มอีกคน

มองดูผู้หญิงที่ไม่มีชีวิตชีวาเลย ภวินท์โมโหขึ้นมาทันที เขาไม่พูดอะไรมาก ถอดเสื้อสูทในตัวออกมา ห่อไว้ในตัวของญาธิดา ก้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้นมา และพูดเสียงต่ำว่า “เราไปกันนะ”

เขาต้องการพาเธอออกไป พยายามออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์