รถสีดำคันนึงได้มุ่งไปข้างหน้าอย่างไวค่ำคืนมืดมิด บนรถ บรรยากาศอึดอัดจนค่อนข้างน่ากลัว ภวินท์นั่งอยู่ในรถ สีหน้าเคร่งขรึมและบึ้งตึง
ผ่านไปครู่นึง เขาได้หันไปมองหลุยส์ที่อยู่ข้างๆ เสียงทั้งทุ้มทั้งต่ำ “ครั้งนี้สามารถมั่นใจว่าไร้ข้อผิดพลาด?”
หลุยส์เก็บความทะเล้นของปกติไว้ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “วางใจเถอะ ฉันให้ลูกน้องดักประตูไว้หมด ไม่ว่ามันวิ่งจากที่ไหน ก็สามารถจับได้คาหนังคาเขาหมด”
ภวินท์ฟังแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
สิบกว่านาทีที่แล้ว เขาเพิ่งได้รับแจ้งข่าวว่ามาร์ตินได้โผล่หัวอยู่ที่แหล่งเที่ยวผู้หญิงในสิงคโปร์ ก็รีบพาคนไปทางโน้นอย่างไวเลย
หลุยส์เป็นคนไปบัญชาการลูกน้อง รายละเอียดเป็นไงบ้าง อันนี้เขาไม่รู้ แต่เขารู้ว่าอยู่สถานที่แหล่งเที่ยวผู้หญิงแบบนั้น ผู้คนมากหน้าหลายตา วุ่นวายโกลาหล จับตัวไม่ง่ายเลย
ครั้งนี้จะจับได้หรือเปล่า เขาก็ไม่มีความมั่นใจเหมือนกัน
อีกฝั่งนึง ญาธิดาถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ รู้สึกตัวเองเหมือนลิงในสวนสัตว์ยังไงอย่างงั้น ไม่ว่าใครมา ก็ต้องเหลียวมองเธอหลายที
การจ้องมองอย่างละเอียดแบบนั้น ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขนลุกซู่และหนาวสั่นไปทั้งตัว
ห่างออกไปไม่ไกล พี่เคที่นั่งอยู่บนโซฟาได้เหลือบมองเธออยู่เป็นพักๆ สังเกตปฏิกิริยาของเธอ ลูกน้องคนนึงวิ่งมากระซิบที่ข้างหูเขา ไม่รู้ว่ากำลังรายงานอะไรอยู่
แววตาพี่เคที่หรี่ตาไว้มีแสงเยือกเย็นแวบผ่าน เขานั่งตัวตรงขึ้น จากนั้นได้ยกแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมากระดกหมดทีเดียว “ป้าบ”วางแก้วลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นมา
“ใกล้เวลาแล้ว”
เขาเหมือนกำลังสั่งลูกน้อง แต่ก็เหมือนพูดเองเออเอง ทิ้งท้ายอย่างนี้ไว้คำนึง ก็ได้ก้าวเท้าเดินมาหาญาธิดาโดยตรง
หัวล้านกับลิงแห้งเห็นแล้ว ได้เดินมาหาเขาอย่างเคารพนอบน้อมทันที “ลูกพี่ครับ…”
พี่เคมองญาธิดาที่สีหน้าซีดเซียวอ่อนแอแวบนึง แววตาที่เย็นชามีแสงมืดมนแวบผ่าน “ได้เวลาเล่นอะไรสนุกๆแล้ว”
ระหว่างพูด ก็ได้ส่งสัญญาณให้คนข้างๆ ลูกน้องรู้แล้วรีบเดินมาแกะเชือกที่มัดญาธิดาเอาไว้ออก
ญาธิดาไม่รู้สาเหตุ มีความกลัวโผล่ขึ้นมาจากในใจอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าพวกเขาอยากทำอะไรกันแน่ แต่เซ้นส์บอกเธอว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
ลูกน้องสองคนเดินมากดแขนของเธอไว้ ฉุดดึงและลากเธอไปข้างๆ
ญาธิดาหันไปมองพี่เคที่มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวอย่างตื่นตกใจ และถามเสียงสูงว่า “พวกแก…พวกแกจะทำอะไร?”
ดวงตาที่เฉี่ยวคมเหมือนเหยี่ยวของพี่เคขยับไปมา พร้อมพูดอย่างเย็นชา “ทำอะไร?เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
ผ่านไปสิบกว่านาที จู่ๆมือถือของภวินท์ได้ดัง“ดิ๊ง”เสียงนึง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกค่อนข้างกระวนกระวายใจ
เขาหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์ดู ตอนที่เห็นรูปที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอแล้วอดอึ้งไม่ได้
ผ่านไปสองวิ ความเย็นชาและความโกรธของเขาได้พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที
หลุยส์ที่อยู่ข้างกายสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา ได้รีบเขยิบเข้ามาถามว่า “เป็นอะไร?”
หรือว่าเกิดการเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิด?
เขาชะโงกศีรษะไปดู ก็ได้เห็นรูปถ่ายรูปนั้น ญาธิดาที่อยู่ในรูปถูกจับมัดอยู่บนกระดานปาเป้าขนาดใหญ่อันนึง ถูกกางแขนกางขาออก แก้มสองข้างบวมแดง มุมปากมีคราบเลือดติดอยู่ กระโปรงยาวสีขาวยังเปื้อนคราบเลือดสีแดงเป็นจุดๆ
หลุยส์ตกใจ เลยพูดหลุดปาก “เย็ดแม่ง นี่มันอะไรกันเนี่ย!”
ภวินท์ที่อยู่ข้างๆสีหน้าบูดบึ้งถึงขีดสุด มือที่เขากุมมือถือเอาไว้ได้แอบใช้แรงจนข้อต่อนิ้วมือซีด
ร่างกายของผู้ชายแข็งทื่อไว้ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีความหนาวเย็นที่น่ากลัวฟุ้งกระจายอยู่ “ไอ้เค ต้องเป็นมันแน่ๆ”
คนที่สามารถใช้วิธีต่ำช้าโหดเหี้ยมขนาดนี้ แถมดันเคลื่อนไหวในเวลาสำคัญแบบนี้ มีแค่ไอ้เคคนเดียวเท่านั้น
ภวินท์เอามือถือโยนไปให้หลุยส์ทันทีโดยที่ไม่ลังเล “ให้ต้นไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ว่ารูปส่งมาจากที่ไหน!”
หลุยส์อึ้ง “แล้วทางฝั่งมาร์ตินล่ะ?”
รถขับซิ่งมาตลอดทาง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
ด้านนอกของคาสิโน มีรถจอดเรียงกันเป็นแถว ในนั้นมีรถหรูราคาหลายล้านอยู่เยอะมาก หน้าคาสิโน ผู้ชายที่ผิวคล้ำปากหนายืนอยู่ตรงนั้น ตอนที่เห็นภวินท์ได้รีบเดินมาต้อนรับทันที
เขาพนมมือ ก้มคำนับและทักทายด้วยภาษาอังกฤษ จากนั้นได้เปลี่ยนมาพูดภาษาไทยอีก “คุณภวินท์ ตามผมมาครับ”
พายุกับต้นจะคอยติดตามอยู่ข้างหลังของภวินท์ ใครจะไปรู้ว่าคนๆนั้นได้หันมากะทันหัน ยื่นมือมาขวางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาอนุญาตให้ภวินท์เข้าไปคนเดียว
สีหน้าพายุบึ้งตึง กำหมัดเอาไว้แน่น เตรียมพร้อมกับการต่อสู้
ภวินท์เห็นแล้วได้ส่งสายตาให้เขาถอยไปอย่างไม่ทิ้งร่องรอย
พายุวางใจไม่ลง ได้ขมวดคิ้วเรียก “คุณภวินท์”
ดวงตาดำเข้มของภวินท์มีกลิ่นไอความเย็นชาฟุ้งออกมา สั่งการด้วยเสียงเคร่งขรึม “พวกนายรออยู่ที่นี่แหละ ไม่มีคำสั่งของฉัน ใครก็ห้ามเหยียบเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว”
พายุกับต้นฟังแล้ว ได้แต่เงียบกริบพร้อมถอยหลังไปก้าวนึง
ผู้ชายคนนั้นเห็นแล้วได้พยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินนำทางอยู่ข้างหน้า
พอเข้าไปด้านใน หลังจากเดินผ่านทางเดินวงกลมและฉากกั้นห้องไม้ไผ่ เป็นบาร์ที่แลกชิป เดินเข้าไปข้างในอีก ก็คือห้องโถงของคาสิโน
ด้านในอบอวลด้วยควันบุหรี่ เสียงดังสนั่น ข้างโต๊ะพนันมีคนห้อมล้อมเต็มทุกโต๊ะ บนโต๊ะกองเต็มด้วยชิปและเงินสดเป็นปึก ภาษาต่างๆ ชนชาติต่างๆ เสียงร้องตะโกนที่ต่างกัน ปะปนกันไปหมด
ภวินท์ขมวดคิ้ว ปกปิดความเย็นชาในแววตาไว้ และได้เดินตามผู้ชายคนนั้นเข้าไปข้างในต่อ
เดินผ่านริมทางเดินอีกหนึ่งแห่ง เหมือนเสียงของด้านนอกถูกแยกออกจากกันเยอะเลย ข้างหูเปลี่ยนมาสงบลงเยอะเ แต่หน้าประตูไม้ พร้อมด้วยผู้ชายคนนั้นผลักประตูออก เสียงรบกวนของด้านในห้องก็ได้ดังออกมาอีก
ภวินท์เหลือบมองแวบนึง ก้าวเข้าไปอย่างไม่มีการลังเล แค่แวบเดียว ก็เห็นตรงกลางของห้อง มีผู้หญิงอ่อนแอถูกมัดอยู่บนกระดานปาเป้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...