บนชั้นสองของบ้านพักตระกูลวรโชติ ได้มีเสียงดังออกมา
“พวกแกออกไปให้พ้นหน้าฉันซะ ไสหัวออกไป”
ได้ยินแต่เสียงโวยวายของผู้หญิง สิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นแจกันดอกไม้ กล่องเครื่องประดับก็ถูกโยนทิ้งลงบนพื้น แตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นห้อง
คนรับใช้สองสามคนของตระกูลวรโชติ มีสีหน้าที่หวาดกลัวยืนรออยู่ตรงประตู ต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี
“คุณหนู อย่าโกรธไปเลยนะ เพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลเองนะคะ”
“จริงค่ะ พวกเราทำอะไรให้ไม่ถูกใจก็บอกได้เลยนะคะ”
สีหน้าซีดเผือดของคนรับใช้ ไม่กล้าจะเดินเข้าไป แต่ก็ไม่กล้าจะถอยออกมา
ในตอนนั้น พวกเขาได้แต่ให้นิวราอยู่ในห้องนอนคนเดียว เธอพึ่งจะออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วัน หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา กลัวว่าหลังจากนี้จะดูแลกันไม่ไหว
ถึงแม้ในตระกูลวรโชติ คนที่คุณท่านให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือคุณชาย แต่ไม่ว่าจะยังไง นิวราก็เป็นลูกสาวแท้ๆของคุณท่าน พวกเขาทำได้แค่ดูห่างๆ
“ไสหัวออกไป อย่าให้ฉันเห็นหน้าพวกแกอีก ”
นิวราเป็นฮิสทีเรีย เธอไม่มีพฤติกรรมที่อ่อนโยนเหมือนแบบคนอื่นๆ เธอตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง ราวกับว่าถ้าสามารถทำลายข้าวของในห้องให้เสียหายได้เธอก็จะทำ แต่ด้วยความโกรธที่อยากจะระเบิดออกมา ทำให้เธอยากที่จะระงับอารมณ์
เมื่อได้เห็นซองจดหมายที่ใส่รูปถ่ายไม่ได้ระบุชื่อที่หน้าซอง เธอก็เริ่มกัดฟัน เหมือนอารมณ์โกรธจะกลับมาอีกครั้ง
เธอเหลือบไปเห็นคนรับใช้ที่ไม่กล้าเดินออกไปยืนอยู่ที่หน้าประตู จึงก้มลงหยิบเครื่องประดับที่ทำจากไม้ และเขวี้ยงใส่ไปแรงๆ
เสียงดัง “ เพล้ง” กล่องเครื่องประดับชนกับที่ประตู เมื่อสิ้นเสียงลง เหล่าคนรับใช้จึงค่อยๆ ถอยออกไป ในตอนนั้น ก็มีเสียงดุดังมาจากด้านหลังพวกเขา “ พวกแกกำลังทำอะไร ”
เมื่อเหล่าคนรับใช้ได้ยินเสียงดังกล่าว รีบหันไปดู เมื่อเห็นเป็นชนัดพลเดินเข้ามา จึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจออกมา
“คุณท่าน ไม่รู้ว่าคุณหนูเป็นอะไรไปค่ะ โกรธจนต้องโยนข้าวของ พวกเรากลัวแต่ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็ไม่ฟัง ท่านคิดว่าต้องทำยังไงดีค่ะ”
ชนัดพลที่มีสีหน้าซีดเซียวบวกกับอายุครึ่งร้อยปี ได้รีบเดินเข้ามาหา พอถึงประตู ก็เห็นนิวราเสียสติและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อยู่บนพื้นห้อง ถึงกับหน้ามืดทันที
เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างใจเย็นว่า “ นิว แกจะทำอะไร จะทุบบ้านหลังนี้เลยไหม ”
เมื่อเห็นพ่อตัวเอง นิวราถึงกับชะงักเล็กน้อย ยังคงข่มอารมณ์ และถามออกมาว่า “ พ่อ พอจะรู้ว่าไหมว่าช่วงนี้พี่วินอยู่กับใคร เขาไปสิงคโปร์กับญาธิดาแล้วนะ ”
เธอทั้งสะอึกสะอื้น ทั้งยื่นมือไปหยิบรูปถ่ายที่อยู่บนพื้น ร้องไห้เดินเข้ามาหาชนัดพล
เมื่อชนัดพลได้ยินดังนั้น จึงรีบดูที่รูปถ่าย ในรูปถ่าย ภวินท์กำลังโอบกอดผู้หญิงคนหนึ่ง และเดินเข้าไปในโรงแรม
ขนคิ้วสีขาวที่อยู่บนใบหน้าของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันทันที สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เย็นชา เขายื่นมือ หยิบรูปถ่ายขึ้นมา เดินไปเดินมาอยู่หลายรอบ
จริงๆก็คือภวินท์ กับผู้หญิงที่เขากำลังสงสัย คงเป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานกับภวินท์แน่ๆ
การผ่าตัดของนิวราก็เพิ่งจะผ่านไปได้ด้วยดี ซ้ำยังมาได้ยินข่าวของภวินท์อีก เขาจึงได้เปลี่ยนความคิดก่อนหน้านี้ ก็แค่ทำให้นิวราได้แต่งงานกับภวินท์ ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อตระกูลวรโชติมาก
ดังนั้น ในส่วนของภวินท์ เขาได้ส่งคนไปสืบ รู้มาว่าภวินท์เคยแต่งงานกับผู้หญิงก่อนหน้านี้ และไม่นานทั้งสองคนเพิ่งจะหย่ากัน
สืบได้ว่าเหตุผลที่ภวินท์ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะได้หาแหล่งที่มาของไตให้กับนิวรา เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรไปมากกว่านี้ ทำเป็นไม่รู้อะไร
แต่ก็คิดไม่ถึง จนทุกวันนี้ภวินท์ยังไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนนั้น เรื่องนี้ดูซับซ้อนพอสมควร
“พ่อ เราจะทำยังไงกันดีละ”
ชนัดพลประสานมือกัน พูดแบบเย็นชาว่า “ เฮ้อ ยังดีที่รู้ว่าต้องกลับมา เมื่อคืนหนีไปไหนมาละ ”
ลูกชายคนนี้ เหมือนโคลนที่เกาะไม่ติดกำแพง เขาพยายามปูทางให้เพื่ออนาคตข้างหน้า แต่กลับไม่รักษาโอกาสไว้ วันๆก็รวมกลุ่มกับเพื่อนจนค่ำ
เมื่อปริญได้ยิน รีบเดินมาข้างหน้า และหัวเราะว่า “ พ่อ ผมไม่ได้ออกไปสังสรรค์ที่ไหนเลยนะ ดื่มเยอะไปหน่อยก็ต้องค้างคืนข้างนอกหนึ่งคืน ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร”
ในขณะที่กำลังพูด ก็ได้ยื่นมือไปดึงชนัดพลเข้ามาใกล้ๆ สีหน้าเข้มขรึม “ พ่อ ผมมีเรื่องจะปรึกษา ”
ตอนที่เขาเดินมาถึงประตูหน้าห้องของนิวรา ทำให้เขาได้ยินบทสนทนาทุกคำ
เขาเดินมาข้างๆ ปริญดูเหมือนจะ ใจร้อนและพูดว่า “ พ่อจะยอมให้นิวรากับภวินท์อยู่ด้วยกันจริงๆเหรอ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เคยบอกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ยอมให้เขาสองคนอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ”
ชนัดพลสีหน้าจริงจัง พูดเสียงต่ำ แบบใจเย็นว่า “เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้ ตอนนี้ที่เมือง J ถ้าพูดถึงความสามารถ อำนาจ จะมีใครเทียบกับภวินท์ได้ละ ก่อนหน้านี้ฉันเองที่ดูไม่ดี ตอนนี้ถ้านิวแต่งงานกับเขา แกก็คงจะรู้ว่าโอกาสดีๆจะเกิดขึ้นกับตระกูลวรโชติเป็นยังไง ”
ปริญขยับมุมปาก นิ่งไปพักใหญ่โดยไม่พูดอะไร
ชนัดพลแสดงความวิตกกังวลกับลูกที่ไม่ได้เป็นตามความคาดหวัง เอื่อมมือไปบีบไหล่ของเขา พูดเสียงต่ำด้วยว่า “ ถ้าจะให้ยืมชื่อตระกูลสถิรานนท์ ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็สำเร็จไปทุกอย่าง เงินที่ภวินท์หลุดออกจากมือ แกจะใช้ไปทั้งชีวิตก็ไม่หมด ”
เมื่อฟังที่พ่อพูด ปริญก็ถึงกับอึ้ง เกิดความสับสน และลังเลอยู่ไม่น้อย “ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ ให้นิวแต่งงานกับเขาสิ ก็ไม่มีอะไรที่เราต้องเสียเปรียบเลยนะ......... ”
ชนัดพลถอนหายใจ และเดินออกไป “ แกรู้ก็ดีแล้ว”
ได้แต่ยืนมองเงาเขาจากด้านหลัง แต่ในใจปริญก็ยังกังวลอยู่ดี
ถ้าเป็นแบบที่นิวพูดแบบนั้นจริงๆ ภวินท์มีผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว ก็คงไม่ได้แล้วนะสิ
จะพูดยังไงดีละ นิวก็เป็นน้องสาวเราแท้ๆ เรื่องนี้ ต้องหาวิธีเข้าไปช่วยเธอแล้วแหละ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...