ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 190

ญาธิดาเดินเข้าไปในสำนักงานของหัวหน้าอย่างประหม่า เคาะประตูแล้วพูดว่า “พี่แนน”

พี่แนนกำลังพลิกดูเอกสารบนโต๊ะอยู่ เมื่อเห็นเธอเข้ามา เงยหน้าขึ้นแล้วสั่งว่า “ปิดประตู แล้วนั่งลง”

ญาธิดาทำตาม มองดูสีหน้าของพี่แนนที่ไม่มีความผิดปกติใดๆ ทันใดนั้นในใจก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร

สีหน้าพี่แนนเป็นปกติ กล่าวเสียงเบาว่า “ธิดา คุณรู้จักโบรุยไหม?”

บริษัทเทคโนโลยีโบรุยเหรอ?ญาธิดารู้สึกคุ้นหู หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วจึงตระหนักได้ว่า “โบรุยที่เป็นบริษัทลูกในเครือของบริษัทใช่ไหม?”

“ใช่ ช่วงสองปีมานี้ทำผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอัจฉริยะมาโดยตลอด และแบรนด์ก็ถือว่ามีชื่อเสียงในเมืองJแล้ว ที่ฉันเรียกคุณมาครั้งนี้ เป็นเพราะว่าโบรุยจะมีกิจกรรมออฟไลน์โปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ในเร็วๆ นี้ บริษัทให้ความสำคัญกับกิจกรรมครั้งนี้มาก โดยจะคัดเลือกคนจากในแผนกธุรการและแผนกการตลาดเพื่อเตรียมวางแผนกิจกรรม ”

เมื่อญาธิดาได้ยินเช่นนั้น เบิกตากว้างรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอฟังได้ใจความเหมือนกับเป็นเรื่องที่ดี........

พี่แนนหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวต่อว่า “ในส่วนของแผนกธุรการฉันกะว่าจะส่งคุณไป หากกิจกรรมประสบความสำเร็จ คุณจะได้เงินรางวัลก้อนหนึ่ง เงินรางวัลใหญ่ คุณพิจารณาดูก่อน ว่าจะไปหรือไม่”

ฟังเธอพูดเช่นนี้ ญาธิดารู้สึกสับสนเล็กน้อย เหมือนกับไม่คิดว่าเรื่องดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เธอเพิ่งจะทำความผิดไป ไม่คาดคิดว่าพี่แนนจะส่งเธอไป

ภายใต้ความลังเล เธออดไม่ได้ที่จะขอคำยืนยัน “พี่แนน ฉันทำได้จริงหรือ?”

เห็นอาการตกตะลึงของเธอ พี่แนนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แล้วย้อนถามกลับไปว่า “คุณคิดว่าคุณทำได้ไหม?”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ดวงตาญาธิดาเป็นประกาย รีบพูดขึ้นว่า “ฉันทำได้ !”

วันนี้โอกาสได้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว หากเธอไม่คว้าไว้ มันช่างเหลืออดเหลือทนอย่างสิ้นเชิง!

ยิ่งไปกว่านั้น พี่แนนเป็นคนบอกเองว่าเงินรางวัลไม่น้อยเลย ถ้าอย่างนั้นเงินรางวัลครั้งนี้จะต้องไม่น้อยอย่างแน่นอน วางแผนกิจกรรมแบบนี้

เห็นเธอรับปาก พี่แนนก็พยักหน้าเล็กน้อย หยิบเอกสารกองหนาๆ ยื่นให้เธอ “นี่เป็นเอกสาร คุณไปศึกษาดูก่อน เมื่อถึงเวลาเธอกับออกัสของแผนกการตลาดทำแผนมาหนึ่งชุด ถ้าผ่านก็จะปฏิบัติตามแผนของพวกคุณ ที่หน้างานก็ต้องการให้พวกคุณมาคอยกำกับด้วยเหมือนกัน ”

“เข้าใจค่ะ”

ญาธิดารับเอกสารมาด้วยความรู้สึกปีติยินดีมา รับปากกับพี่แนนว่า “ครั้งนี้ฉันจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปอย่างดี จะไม่ถ่วงความเจริญของแผนกธุรการอีก!”

จุดจบของการออกไปเรียนรู้นอกสถานที่แบบครั้งก่อนนั้น ครั้งนี้ได้มีโอกาสดีๆ อีกครั้ง เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองทำพังอีก

เมื่อพี่แนนเห็นเช่นนั้น ผงกศีรษะเล็กน้อย แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “พอแล้ว กลับไปทำงานเถอะ”

ญาธิดาพยักหน้าทันที โค้งคำนับกล่าวขอบคุณเธอว่า “ขอบคุณพี่แนน!”

พูดจบ เธอถือเอกสารแล้วก้าวเท้าเดินไปทางข้างนอก ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะดึงประตูสำนักงานออก ก็เห็นมีคนยืนอยู่หน้าประตูแล้ว

คือพิชญ์สินี

เธอยืนอยู่ที่ประตู ถือกองเอกสารไว้ในอ้อมแขน ดูแล้วเหมือนมาส่งของ แต่ว่าสีหน้าเธอหมองเล็กน้อย ไม่รู้ว่ายืนอยู่ที่ประตูนานเท่าไหร่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าได้ยินเธอกับพี่แนนคุยกันหรือไม่

แต่ไม่รู้ว่าได้ยินหรือไม่ได้ยิน ญาธิดาก็ไม่มีอารมณ์จะไปสนใจพวกนี้ เธอถือเอกสาร เอียงข้างเล็กน้อย เดินอ้อมตัวพิชญ์สินี ตรงกลับไปทางสำนักงาน

พิชญ์สินีที่ถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิงเอียงหัวเล็กน้อย มองไปทางเงาหลังของญาธิดา รู้สึกโกรธในใจ

เมื่อกี้เธออยู่ที่ประตู ได้ยินที่ญาธิดากับพี่แนนคุยกันแล้ว ไม่คิดเลยว่า ช่วงนี้เธอถูกผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสอะไร ล้วนให้เธอหมด!

เธอกัดฟันแน่น หันหลังเดินเข้าไปในสำนักงาน ไปส่งเอกสารในมือ

“พี่แนน นี่เป็นเอกสารที่คุณต้องการ”

เธอจะแบกรับความคับข้องใจแบบนี้ได้อย่างไร? ต้องรู้ว่าก่อนหน้านั้นเธอเคยเป็นมือขวาของพี่แนน ไม่ว่าเรื่องอะไร คนแรกที่พี่แนนนึกถึงก็คือเธอ แต่หลังจากที่ญาธิดาเลื่อนตำแหน่งแล้ว เรื่องทั้งหมดค่อยเปลี่ยนไป.......

เธอยิ่งคิดยิ่งโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ทันใดนั้น มีประกายความคิดแวบเข้ามาในหัวสมองของเธอ พิชญ์สินีแววตาเป็นประกาย รีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก

ไม่นาน ทางปลายสาย มีน้ำเสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น “ฮัลโหล?มีเรื่องอะไรหรือ?”

พิชญ์สินีทำเสียงเบา น้ำเสียงนุ่มนวลเป็นจังหวะ “ภา หลังจากครั้งก่อนที่ฉันไปดูคุณแล้ว เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย นี่ก็ไม่ใช่เพราะคิดถึงคุณหรอกหรือ ถึงโทรหาคุณ”

“คิดถึงฉันหรือ?” นีราภาทางปลายสายกวาดสายตามองดูนาฬิกาข้างผนัง กล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน คุณเอาเวลาที่ไหนมาคิดถึงฉัน?”

เมื่อพิชญ์สินีได้ยินเช่นนั้น อธิบายอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “แม้จะเป็นเวลาทำงาน แต่ฉันไม่ยุ่งเลย ตอนนี้หัวหน้าแผนกของเราให้ความสำคัญกับญาธิดามาก มีโอกาสดีๆ โครงการดีๆ ล้วนให้เธอหมด มันหายากสำหรับฉันที่จะได้ว่าง”

ครั้งก่อนตอนที่เรื่องเพิ่งจะถูกเปิดโปงไม่กี่วัน เธอเคยไปหานีราภาหนึ่งครั้ง ดูออกว่าอารมณ์แย่มาก ยังไม่ปกติเท่าไหร่ จึงไม่กล้าเอ่ยเรื่องญาธิดาต่อหน้าเธอ

ตอนนี้ในเวลานี้ นีราภาน่าจะเกือบจะปกติแล้ว เธอรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว

เมื่อนีราภาทางปลายสายได้ยินชื่อของญาธิดา สีหน้าขรึมลงทันทีโดยไม่รู้ตัว

เธออดไม่ได้ที่จะกัดฟัน ที่จะถามย้อนกลับไปว่า “ตอนนี้เธอเหิมเกริมขนาดนี้เลยหรือ ?”

พิชญ์สินียิ้ม แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ไม่ถึงกับเหิมเกริม อาจจะเป็นเพราะเธอโชคดี วันนี้หัวหน้าเพิ่งจะมอบกิจกรรมของผลิตภัณฑ์ภายใต้โบรุยให้เธอ ฉันไม่มีงานอะไรทำแล้ว เงินรางวัลก็ไม่มี ฉันว่า ไม่นานฉันคงต้องลาออกแล้ว นีราภา เมื่อถึงเวลานั้นเราไปหางานทำด้วยกันนะ!”

คำพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทิ่มแทงใจของนีราภาอย่างไร้ตัวตน เธอกัดริมฝีปากแน่น มือที่จับมือถือไว้ค่อยๆ กำแน่น

คำพูดเหล่านี้ ทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นโดยไม่รู้ตัว หากไม่เป็นเพราะญาธิดา เธอจะตกเป็นสภาพแบบนี้ได้อย่างไร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์