ประโยคของชายหนุ่มทำให้ญาธิดาพูดอะไรไม่ออก
เธอบอกว่าจะแจ้งตำรวจ ก็แค่พูดๆ ไปเท่านั้น ถ้าปล่อยให้เธอทำจริงเธอก็ไม่กล้า
เธอเบี่ยงตัวออกจากชายหนุ่ม รีบเดินวนไปหลังโต๊ะ หายใจถี่ จ้องเขาด้วยท่าทีตื่นตระหนกระแวดระวัง “คุณ......มาหาฉันทำไม”
เขาไปกับนิวราไม่ใช่เหรอ จู่ๆ ก็มาหาเธออีก คิดจะทำอะไรกันแน่
ภวินท์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย เอนตัวไปพิงตู้ข้างๆ สายตาสบายๆ และเกียจคร้านมองญาธิดาจากระยะไกล
เมื่อครู่อยู่บ้านตระกูลวรโชติชนัดพลจงใจมอมไวน์เขา ดื่มทั้งไวน์ขาวไวน์แดง ตอนนี้ไวน์ค่อยๆ ออกฤทธิ์แล้ว
เขากวาดตามองญาธิดาที่สีหน้าตื่นตระหนก แล้วกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ผมมาหาคุณเพราะมีธุระจะคุยด้วย”
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนจะหายากของชายคนนี้ หัวใจของญาธิดาก็ค่อนข้างแปลกไป ทำไมเธอรู้สึกว่าวันนี้ภวินท์แตกต่างจากปกติ
ถึงขั้นที่ว่าเขาในตอนนี้แตกต่างจากภวินท์ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลเมื่อเช้าเสียอีก หรือว่าเขาจะเมา
ญาธิดากำลังจะพูด แต่เวลานี้จู่ๆ กริ่งประตูพลันดังขึ้น
ญาธิดาชะงักไปครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่อัญมณีถูกคนดึงออกไป จึงรีบเดินไปที่ประตู
เมื่อภวินท์เห็นแบบนั้น เขาจึงยื่นมือออกขวาง น้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย “ผมไปเอง”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็หันเดินไปทางประตู
เดิมทีเขาสั่งพายุเป็นพิเศษ ให้ขัดขวางอัญมณีไว้ เขามีธุระจะคุยกับญาธิดาตามลำพัง คิดไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปสองนาทีอีกฝ่ายก็กลับมาแล้ว
“คลิก——”
ประตูถูกเปิดออก ภวินท์ยืนอยู่ตรงประตู รูปร่างสูงใหญ่เกือบขวางประตูทั้งบาน เมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างนอก ก็ชะงักไปครึ่งวินาที
เป็นเด็กหนุ่มส่งอาหารเดลิเวอรี่เมื่อครู่
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นภวินท์ เขาลังเลก่อนจะพูดอย่างเก้อเขินว่า “อ......อาหารเดลิเวอรี่ของคุณครับ”
เมื่อครู่เขาเห็นผู้ชายสองคนคนหนึ่งบุกเข้าห้องอีกคนดึงคนออกไป ทั้งสองคนกระทำการรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ยังคิดว่าเป็นพวกอาชญากรอะไรทำนองนั้น
เขากลัวมากจนคิดจะไป แต่อาหารเดลิเวอรี่ยังไม่ได้ส่งให้สำเร็จ เขาก็ไม่กล้าไป ลังเลอยู่หน้าประตูตั้งนานกว่าจะกล้ากดกริ่งอีกครั้ง
ภวินท์แววตาสลัวลงเล็กน้อย เหลือบมองเขานิ่งๆ แล้วเอื้อมมือไปรับกล่องอาหารเดลิเวอรี่ขนาดใหญ่ในมือของเขา
ประตูปิดลง ภวินท์หันหลังกลับและเดินเข้าไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และวางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะอาหาร
เมื่อมองไปยังหม้อไฟที่ส่งมา ญาธิดาก็กัดริมฝีปาก รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเพราะท้องว่าง
เธอหายใจเข้าลึก เลื่อนสายตามองไปยังภวินท์ และพูดเน้นคำต่อคำ “มีเรื่องอะไร คุณพูดมาเร็ว ฉันยังต้องรออันอันกลับมาทานอาหารด้วยกัน”
เธอยุ่งตลอดทั้งเช้าแล้วก็ไปโรงพยาบาลอีก ยังไม่ได้ทานข้าวมาจนถึงตอนนี้ และก็หิวมากจนท้องแฟบไปหมดตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ภวินท์อยู่ที่นี่ ถ้าเขาไม่กลับไป อัญมณีก็ไม่มีทางกลับมาได้ และเธอก็ไม่มีทางได้ทานอะไร
ทันทีที่เธอพูดจบ ท้องก็ส่งเสียงร้องจ๊อกๆ ขึ้นมาอย่างผิดจังหวะ เสียงนั้นไม่เบา ภวินท์ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบลง ญาธิดาอึ้งไปครู่หนึ่ง ใบหูของเธอแดงเล็กน้อย แล้วจึงรีบเปิดปากเพื่อปกปิดความอับอาย “เอ่อ......คุณมีธุระอะไรกันแน่”
เห็นชายหนุ่มลดสายตาลง สายตาจ้องไปยังอาหารเดลิเวอรี่บนโต๊ะอาหารอย่างจริงจัง นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือเรียวสวยออกไปเปิดถุงด้านนอก
ญาธิดาตกใจทันทีและรีบถาม “คุณทำอะไร!”
เมื่อครู่เธอและอัญมณีเลือกหม้อไฟในโทรศัพท์มือถืออยู่นานมาก เครื่องปรุงหม้อไฟกับวัตถุดิบถูกบรรจุแยกกัน พวกเขาแค่ต้องตั้งหม้อ รอสามนาทีก็เริ่มทานได้เลย
ภวินท์ได้ยินดังนั้นจึงชำเลืองมองญาธิดา แล้วหยิบตะเกียบมาคีบสาหร่ายคอมบุขึ้นมาชิ้นหนึ่งอย่างลังเล
ในความทรงจำของเขา เขาทานหม้อไฟน้อยมาก เมื่อเทียบกับรสชาติเข้มข้นจัดจ้านแบบนี้แล้ว เขาชอบอาหารเบาๆ มากกว่า
หลังจากกัดเข้าไป รสชาติเหมือนจะไม่ได้รับยากอย่างที่เขาคิด แต่สำหรับเขา ความเผ็ดนี้มันมากเกินไปหน่อย
ปลายลิ้นของเขาทั้งร้อนทั้งชา ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันทีที่เขาเลื่อนสายตาขึ้นก็เห็นสาวน้อยที่อยู่ตรงข้ามจ้องมาที่เขาอย่างมีความหวัง “เป็นยังไงบ้าง อร่อยมากเลยใช่ไหม”
เขาอดทนกับความเผ็ดร้อนแล้วตอบบางเบา “ก็ดี”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็หยิบแก้วน้ำข้างๆ ขึ้นดื่มอึกใหญ่
เขายังไม่ทันวางแก้วลง ญาธิดาก็สีหน้าเปลี่ยน “นั่นมัน.......แก้วน้ำของฉัน!”
บรรยากาศหนักอึ้งไปเล็กน้อยโดยฉับพลัน ภวินท์ลดสายตาลง เหลือบมองแก้วน้ำ แล้ววางลงอย่างไม่รู้สึกรู้สา สุดท้ายก็พูดเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไร ผมไม่รังเกียจคุณ”
อะไรที่ควรทำและไม่ควรทำทั้งคู่ก็ผ่านกันมาหมดแล้ว แค่ใช้แก้วใบเดียวกัน เขาคงไม่ดัดจริตขนาดนั้น
ญาธิดาที่อยู่ตรงข้ามได้ฟังดังนั้นก็โมโหจนหน้าเขียว
อะไรที่เรียกว่าไม่รังเกียจเธอ เธอต่างหากรังเกียจเขา!
เธอกำตะเกียบแน่น แต่ไม่กล้าคัดค้านต่อหน้าเขา ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทานไม่พูดไม่จา
โดยไม่รู้ตัว หม้อไฟสำหรับสามคนถูกพวกเขาทั้งคู่กวาดเรียบจนหมดเกลี้ยง
ญาธิดาวางตะเกียบลงอย่างอิ่มอกอิ่มใจ เห็นกล่องอาหารเดลิเวอรี่ว่างเปล่ากองอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าอีกสักพักอันอันกลับมา เธอควรจะอธิบายอย่างไร
หรือจะบอกว่าเธอกับภวินท์อยู่กันอย่างสันติและทานหม้อไฟด้วยกันน่ะเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...