น้ำเสียงเย้าแหย่ของชายหนุ่มทำให้แก้มของญาธิดาร้อนจนแทบไหม้ เธอขมวดคิ้วและพยายามผละออกจากเขา “ฉันวางของไว้บนโต๊ะแล้ว คุณภวินท์...”
ภวินท์ไม่ยอมปล่อย แขนที่โอบกอดอยู่ประหนึ่งเหล็กที่ถูกเชื่อมติดกับรอบเอวเธอ แขนที่โอบรอบเอวควบคุมระยะห่างระหว่างเธอไว้อย่างแน่นหนา
“อย่าขยับ”
จู่ๆ สีหน้าของภวินท์ก็มืดมน เมื่อพูดคำที่จริงจัง ญาธิดาจึงหยุดดิ้นทันที และจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เวลาดูเหมือนจะหยุดลงชั่วขณะ ทั้งสองมองหน้ากัน ความรู้สึกทั้งหมดที่มีถูกส่งผ่านสายตาของทั้งสอง หยาดเยิ้มแนบแน่นจนยากจะคลาย
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ร่างกายของญาธิดาเริ่มร้อนขึ้น ลมหายใจก็ถี่กระชั้น
เมื่อรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตัวหญิงสาว ภวินท์พลันใจกระตุก แววตาเข้มขึ้น สายตาเลื่อนลงกวาดมองลำคอขาวเนียนของเธอ
เขายกมือขึ้น มือใหญ่คลำรอบเอวของเธอแล้วปลดสายรอบเอวคาดเสื้อกันลมออก
ญาธิดาสะดุ้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความเย็นปะทะเข้าสู่ร่างกาย เธอยังไม่ทันได้สติ เขาก็ถอดเสื้อของเธอลงไปถึงข้อศอกแล้ว
ชุดที่เธอใส่มีดีไซน์ที่สวยมาก มันไม่เปิดเผยจนเกินไป แต่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งและเผยความเซ็กซี่ของผู้หญิงอย่างเหมาะสม
รู้สึกได้ว่าสายตาของชายหนุ่มกำลังมองที่ตัวเธออยู่ ญาธิดาพลันแก้มแดง พยายามรีบดึงเสื้อขึ้น
ภวินท์ยกมือขึ้นจับมือเธอ และพูดอย่างเคร่งขรึม “ผมจะดู”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอสวมชุดแบบนี้ ท่าทางหลงใหลเหมือนคนโรคจิตที่อยากเห็นเธอสวมใส่ชุดนี้โดยไร้เสื้อคลุม
ญาธิดาอึ้งไป เสื้อคลุมบนตัวถูกเขาถอดลงมา
เมื่อเห็นชัดเจน ภวินท์พลันแววตาเข้มขึ้น กลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับขึ้นลงโดยไม่รู้ตัว
ญาธิดาในแบบนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
ญาธิดาเห็นสายตาของชายผู้นี้ และไม่นานก็เห็นความหมายในสายตาของเขา เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณภวินท์ มันสายแล้ว ฉันจะกลับแล้ว”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็สวมเสื้อคลุมขึ้น กำลังจะก้าวเดินไปที่ประตู แต่จู่ ๆ ข้อมือก็ถูกภวินท์ดึงรั้งไว้กะทันหัน เขาพูดเสียงนิ่งขรึม “เดี๋ยวก่อน”
ญาธิดาขมวดคิ้วและกำลังจะพูด แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยหัวเราะดังขึ้นข้างนอก จากนั้นเสียงก็ใกล้เข้ามาและมีคนผลักประตู
ญาธิดาตัวแข็งทื่อ ประสาทตึงเครียดสูง มองไปที่ประตูอย่างประหม่า
ที่คาดไม่ถึงคือ ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก แต่ข้างนอกมีเสียงนิวราดังมา “พี่วินคะ พี่อยู่ข้างในหรือเปล่า”
ญาธิดาชะงักไป หัวสมองว่างเปล่าในฉับพลัน เครียดจนเหงื่อแตก สองวินาทีต่อมาเธอก็ได้สติ รีบดึงมือของภวินท์ออกและพูดอย่างลนลาน “ฉันต้องซ่อน!”
ถ้านิวราเห็นเธอกับภวินท์อยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพังต้องถูกเข้าใจผิดแน่ๆ!
พูดจบเธอก็รีบหาที่ซ่อน เห็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ตรงนั้นจึงเดินไปทันที
ภวินท์ก้าวตามเธอไปแล้วกระซิบถามว่า “จะซ่อนทำไม”
ญาธิดาสูดหายใจไม่ตอบคำถามของเขา รีบเปิดประตูตู้ออกแล้วก้มตัวเข้าไปข้างใน
ภวินท์ขมวดคิ้วพร้อมกับยกมือขึ้นกันประตูตู้ มองหญิงสาวที่หดตัวเป็นก้อนกลมซ่อนตัวอยู่หลังเสื้อผ้า ดูโง่ๆ แต่กลับน่ารักหน่อยๆ อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก
นิวราฟังแล้วพยักหน้า แต่ใจยังคงกังวลอยู่ เดินเลี่ยงภวินท์เข้าไปในห้อง และสำรวจดูรอบหนึ่ง
ในห้องแต่งตัวนอกจากราวไม้แขวนเสื้อและโต๊ะตู้ก็ไม่มีร่างของบุคคลที่สองอีก เธอมองซ้ำไปซ้ำมาอย่างสงสัย ยังไม่สามารถขจัดความคลางแคลงใจไปได้
เธอเดินไปตรงราวไม้แขวนเสื้อ อยากเดินไปข้างหลัง แต่ภวินท์เอ่ยถามเสียก่อน “นิว พร้อมแล้วหรือยัง”
“พร้อมแล้วค่ะ” นิวราพยักหน้า ยังคงเดินไปข้างหลังราวไม้แขวนแล้วมองดูครู่หนึ่งก็ไม่เห็นใคร ถึงได้คลายความระแวดระวังลงไปเล็กน้อย
เธอหันกลับมา ใบหน้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานที่สดใส เธอเดินไปข้างกายภวินท์ คล้องแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบาง “ข้างนอกมีแขกมากันเยอะแล้ว คุณพ่อก็มาแล้ว นิวจะพาพี่ไปทักทายเขา”
ภวินท์สีหน้าเรียบเฉย ไม่มีการปฏิเสธ “ได้”
หลังจากทั้งคู่เดินจับมือกันออกจากห้องแต่งตัวไป ญาธิดาซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าถึงได้ถอนหายใจโล่งอก
ถ้าเมื่อครู่ถูกนิวราพบว่าเธออยู่ตรงนี้ เกรงว่าคงทำให้เกิดความสงสัยและความขัดแย้งที่ไม่ควรจะเป็น ยังดีที่เธอซ่อนตัวได้
ผ่านไปซักพัก เธอเห็นว่าข้างนอกไม่มีเสียงแล้ว จึงเปิดประตูตู้ออกมาข้างนอก เธอออกจากห้องแต่งตัวและเดินผ่านทางเดินกลับมาที่ห้องโถง เห็นคนเดินไปเดินมา ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนดี
คนอยู่ในห้องโถงมีมากกว่าก่อนหน้านี้ คึกคักแออัดและเบียดเสียด ทำให้เกิดภาพที่ดูกลมกลืนและมีชีวิตชีวา
ญาธิดามองสำรวจดูรอบหนึ่ง ดวงตามองไปยังใจกลางฝูงชน และสายตาก็หยุดนิ่งทันใด
ท่ามกลางฝูงชนคือภวินท์กับนิวรา พวกเขาจับมือกัน ผู้ชายสวมสูทสีดำที่มีความประณีตสูง ส่วนผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีขาวงดงาม พวกเขาราวกับกิ่งทองใบหยก ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็เหมือนมีแสงสว่างเจิดจ้าตามติดไปด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นคู่สร้างคู่สมจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...