เสียงดัง“เพี้ยะ!”อย่างชัดเจน ญาธิดาได้ยินเสียงดัง หลับตาแน่น แต่ว่าใบหน้ากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนอย่างที่คิด
รู้สึกถึงความเงียบรอบตัว เธอจึงลืมตาขึ้น แล้วก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่บังอยู่ด้านหน้าของตัวเอง
“ไม่เป็นไรแล้ว”
ได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่พกด้วยรอยยิ้ม ญาธิดาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นถึงใบหน้าที่คุ้นเคย
เป็นคิริน!
ร่างของเธอตึงขึ้น กล่าวด้วยความประหลาดใจ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
คิรินยิ้มเบา ๆ คิ้วโค้งเรียวประหนึ่งดาบ ดวงตาเป็นประกายประดุจดวงดาว ดูงดงามราวกับภาพวาด “แค่ผ่านมา”
พลางพูดเขาพลางหันหน้ามามองนิวราที่ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น เลิกคิ้วเบา ๆ เปลี่ยนน้ำเสียงแดกดัน “คุณป้าท่านนี้ดูจะหยาบโลนไปหน่อยไหม”
คุณป้า?
นิวราได้สติคืนจากความตกใจที่เห็นคิรินตัวเป็น ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ยินคำเรียกของเขา สีหน้าฉับพลันก็เขียวซีดทันที
และตอนนี้ ผู้ช่วยของคิรินได้เดินมาด้านหน้า มองแขนของคิรินที่ถูกตบ จึงเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง “พี่คิริน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
คิรินคิ้วขมวดขึ้น ใบหน้าเล็ก ๆ แสร้งทำเป็นเสียใจ “ว่าไม่ได้นะ แรงของคุณป้าท่านนี้ไม่เบาทีเดียว ฉันเจ็บปวดมากเลย หรือว่าไปตรวจเช็กสักหน่อยไหม”
พลางพูดเขาพลางหันหน้าจงใจมองไปทางนิวรา
นิวราตะลึงงัน และก็ไม่คิดว่าญาธิดาจะไปรู้จักกับคิริน และก็ยิ่งไม่คิดว่าเขาจะพูดเช่นนี้
“ขอโทษค่ะ เมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้จะตบคุณ หากว่าต้องการจะตรวจ งั้นก็ไปตรวจเถอะค่ะ”
คิรินได้ยินดังนั้น ยิ้มแต่ไม่พูด
ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เดิมทีก็ไม่พอใจเธออยู่แล้ว ยิ่งอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน “คุณรู้ไหมว่าโรงพยาบาลที่ตรวจให้กับพี่คิรินนั้นเป็นโรงพยาบาลอะไร คุณยังกล้าจะมาลงไม้ลงมือกับเขา คุณแตะต้องตัวของศิลปินพวกเรา ทำให้โปรแกรมต่อจากนี้เกิดความล่าช้า ไม่เพียงแต่ค่าตรวจ ค่ากิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาคุณก็ต้องเป็นคนชดใช้!”
นิวราได้ยินสีหน้าก็หม่นลง “พวกคุณ……นี่ไม่ใช่การต้มตุ๋นเหรอ”
ผู้ช่วยเกิดความไม่พอใจจึงเอ่ยปากขึ้น “ต้มตุ๋นอะไร หรือจะให้คนผ่านไปมาตัดสินดีว่าใครผิดใครถูก”
นิวราได้ยินดังนั้นก็เกิดความขี้ขลาดทันที
ใครจะไม่รู้ว่าแฟนคลับของคิรินนั้นเต็มไปทุกที่ หากให้แฟนคลับของคิรินรู้เข้า ว่าเธอลงมือตีคิริน เกรงว่าน้ำลายปากต่อปากจะทำให้เธอจมน้ำตายได้
นิวราค่อนข้างโมโหเหลือบตามองญาธิดาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “อย่างนั้นก็ทำการตรวจเถอะ ไม่ว่าจะเงินเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายให้”
“เรื่องตรวจนั้นช่างเถอะ ผมเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน”
คิรินมองเธอด้วยสายตาที่เกียจคร้าน น้ำเสียงเย็นชา มีความเย็นเยียบเล็กน้อย เขาเอื้อมมือมาดึงญาธิดามาที่ข้าง ๆ ตัวเอง แล้วเอ่ยปาก “ขอโทษ ขอโทษเธอก่อน แล้วค่อยขอโทษผม”
ญาธิดาที่อยู่ข้าง ๆ มองชายหนุ่มด้วยความตกใจ เวลานี้คิรินราวกับเศรษฐีที่ถากถางสังถม ยโส เกเร เลว แต่กลับดูมีเสน่ห์
“ฉัน……”
นิวราลำคอเกร็ง และย่อมไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
เมื่อสักครู่เธอยังไม่ทันจะหายโกรธ นี่จะให้เธอขอโทษญาธิดา เธอไม่อยากจะเสียหน้าเช่นนี้ และก็ยิ่งไม่เต็มใจ
“หากว่าเธอไม่ยอม อย่างนั้นก็ให้ตำรวจจัดการแล้วกัน” คิรินพลางพูดพลางเงยหน้ามอง “ที่นี่น่าจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ ผมไม่เชื่อว่าสมัยนี้การตบตีคนจะเป็นเรื่องสมควร”
ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยิน ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเชื่อฟัง แล้วทำท่าจะโทรออกไป
นิวราเกิดความขลาดในฉับพลัน รีบกล่าวขึ้น “ฉัน…ฉันขอโทษ!”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก ลังเลครู่หนึ่ง แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในกองถ่ายให้เขาฟังทั้งหมด
คิรินฟังแล้ว เอาแต่หัวเราะไม่พูดไม่จา สุดท้ายเขาก็ยื่นหน้ามาขยิบตาใส่เธอแล้วกล่าว “หรือว่าให้ผมดูภาพยนตร์สั้นในส่วนที่พวกคุณถ่ายทำเสร็จแล้ว ผมจะช่วยดูว่าทางผมพอจะมีคนรู้จักที่จะช่วยคุณได้ไหม”
ตอนนี้พลอยรินก็จากไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาจะต้องหาตัวนักแสดงใหม่อยู่ดี
ญาธิดาครุ่นคิด แล้วยืมโทรศัพท์จากผู้ช่วยล็อกอินบัญชีตัวเอง จากนั้นค้นหาคลิปวิดีโอก่อนหน้านี้
นี่ยังคงเป็นภาพยนตร์ต้นฉบับที่ยังไม่ได้ผ่านการตัดต่อ และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น คิดไม่คิดว่าคิรินดูแล้ว จะอธิบายโทนและความหมายที่ต้องการสื่อของคลิปวิดีโอของพวกเขาออกมาได้
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ มองดูแววตาของคิรินแล้วรู้สึกชื่นชมอย่างไม่รู้ตัว “เหมือนอย่างที่คุณพูดจริง ๆ ด้วย”
คิรินยกริมฝีปากยิ้ม “เอาล่ะ เรื่องเลือกนักแสดงปล่อยให้ผมจัดการแล้วกัน รับรองว่าจะต้องทำให้คุณพอใจ และถ้าคุณต้องการยกระดับประสิทธิภาพการถ่ายทำ ผมมีวิธี……”
ทั้งคู่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ช่างเป็นมื้ออาหารที่ระหว่างทานมีการพูดคุยเฮฮา สนทนากันมากมายอย่างมีความสุข
เธอคิดไม่ถึงว่า วันนี้ที่เธอสะกดตามรอยพลอยริน จะได้เจอกับนิวราที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายก็ยังเจอกับคิรินอย่างไม่ตั้งใจ และยังช่วยแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากที่ทำให้เธอปวดหัวได้คลี่คลายลง
หลังออกจากร้านอาหารส่วนตัวแล้ว คิรินได้สวมหมวกผ้าปิดปากมิดชิด อุปกรณ์ครบครัน แล้วมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน
ญาธิดากำลังจะลงจากรถ ก็ถูกเขาดึงมือไว้ “ธิดา ต่อไปหากถูกรังแกแล้วตัวเองสู้ไม่ไหว ให้บอกผม เข้าใจไหม”
พลางพูดเขาพลางเหลือบมองปลาสเตอร์บนแก้มของเธอแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วเบา ๆ
หัวใจของญาธิดาเกิดความอบอุ่น แล้วยิ้มให้กับเขา “เข้าใจแล้ว วางใจเถอะ”
สามารถเป็นเพื่อนกับคิรินได้ เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีมาก
เวลานี้ เสียงของคิรินดังขึ้นอีกครั้ง “ใช่แล้ว วันนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย คุณต้องระวังตัวด้วยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...