ทั่วทั้งห้องเงียบสนิท
ไม่กี่วินาทีต่อมา ญาธิดากัดฟันแน่นพร้อมหันตัวออกจากห้องไป
“ปัง” เสียงปิดประตูดังขึ้น ร่างกายอันหนักอึ้งของภวินท์ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เขาก้มหน้า จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เขาได้ใช้ความคิดหลาย ๆ อย่าง รวมถึงคิดว่า หากเขาต้องเสียขาทั้งสองข้างไป เขาจะมีหน้ามาพบกับเธอได้อย่างไร?
ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกผลักออก เป็นหลุยส์ที่เดินเข้ามา เขามองไปในห้องมืด ๆ ขมวดคิ้วขึ้นและกดเปิดไฟ
เมื่อเห็นภวินท์กำลังก้มหน้าลง เขาก็ตกตะลึงรีบถามไปว่า “ไอ่วิน มันเกิดอะไรขึ้น เธอพูดอะไรกับแก?”
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมามองเขาและพูดว่า “หลุยส์ นายคิดว่าที่ฉันกลับมาเมืองJมันดีแล้วหรือยัง?”
เขาไม่เพียงเสียขาทั้งสองข้างไป แต่ยังเสียตัวตนของตัวเองด้วย เขาเหมือนเกิดใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ชีวิตแบบเดิม
หลุยส์ขมวดคิ้ว ท่าทีจริงจังขึ้น นั่งลงข้าง ๆ เขา “ไอ่วิน คิดแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ!”
ภวินท์เคยเป็นคนจิตใจเด็ดเดี่ยว ทำอะไรไม่คิดมานั่งเสียใจทีหลัง แต่ตอนนี้กลับเหมือนเป็นคนละคน
หลุยส์ลองพูดขึ้นอีกครั้ง “ทำไมจะไม่ดีล่ะ นายกลับมาเพื่อทำให้ไอ่ภูผามันรับรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของนายกลับคืนมา!”
“อีกเรื่องหนึ่ง เจ้าอาวาสถูกมันฆ่าตาย นายไม่อยากแก้แค้นหรือไง ?”
“นอกจากนี้ยังมีคุณย่าที่ตอนนี้ไปอยู่ในเงื้อมมือของภูผาอีก”
“....”
คำพูดของหลุยส์เข้ามาฉุดความคิดที่กำลังจมดิ่งของภวินท์ให้กลับคืนมาได้
ใช่แล้ว หลุยส์พูดถูก!
เพื่อครอบครัวและคนที่เคยมีบุญคุณกับเขา เขาจะมายอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ เพียงแค่ขาคู่เดียว จะมาทำให้เขาสูญเสียความตั้งใจไปไม่ได้ !
พอนึกถึงญาธิดา เขาก็เงียบลงไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ญาธิดาอยู่ที่ไหน?”
หลุยส์ตอบ “เมื่อกี้เพิ่งวิ่งออกไป ก่อนจะถูกคนจับกลับมาอีกรอบหนึ่ง ดูท่าอารมณ์ไม่ค่อยดี ตอนนี้เธออยู่ในห้องนอน ”
พูดจบ ภวินท์ก็เงียบลงไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็พูดเสียงเบาว่า “หลุยส์ นายช่วยติดต่อเข้มให้หน่อย บอกให้วันนี้มาที่นี่ที”
หลุยส์พยักหน้า รีบไปจัดการให้ทันที
หลังจากเขาออกไปจากห้อง ภวินท์ก็เงียบลงอีกครั้ง เขาหยิบลูกดอกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เล็งไปที่เป้าบนกำแพง “ปึ้ก!” ลูกดอกเข้ากลางเป้าอย่างแม่นยำ
ทันใดนั้นก็มีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเขา
ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น เขาเคยสอบสวนผู้หญิงอยู่คนนึง เหมือนว่าตอนนี้จะยังพอใช้การได้อยู่
ห้องที่ญาธิดาอยู่คล้าย ๆ กันกับห้องนอนของภวินท์ เธอนั่งอยู่บนโซฟาไม่มีแม้แต่ท่าทีขัดขืน ตรงกันข้ามกลับดูสงบมาก
ก่อนหน้านี้เธอออกมาจากห้องของภวินท์ด้วยความโกรธ แต่หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลงได้
ในตอนนี้ ญาธิดารู้สึกเศร้าใจมาก แม้เธอจะพบกันเจ้าอาวาสและคนอื่น ๆ เพียงแค่ครั้งเดียว ยังเจ็บปวดมากขนาดนี้ คงไม่ต้องพูดถึงภวินท์เลย ดูเหมือนว่าตอนนี้ ทั้งความสงสัยหรือความโกรธของเขาจะเพียงพอให้อภัยได้แล้ว
“ท่านประธานให้คุณอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะต้องการจะขังคุณไว้ แต่เพราะต้องการจะปกป้องต่างหาก ในตอนนี้ภูผารู้แล้วว่าเขายังไม่ตาย ยังไงมันก็ต้องตามจัดการจุดอ่อนของเขาแน่ ๆ คุณอยู่ที่นี่จึงปลอดภัยกว่า”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พายุพูด หรือว่าเธอก็คือจุดอ่อนของภวินท์?
เหมือนว่าพายุจะเข้าใจสิ่งที่เธอคิด เขากระแอมและพูดว่า “เพราะพวกคุณมีความสัมพันธ์กัน ก็เป็นไปได้ว่าภูผาอาจจะมาทำอันตรายกับคุณได้เช่นกัน ดังนั้นท่านประธานจึงต้องแน่ใจให้ได้ว่าคุณจะปลอดภัย”
พูดจบ ญาธิดาก็เข้าใจอะไรบางอย่างได้ นั่นก็เพราะความสัมพันธ์ครั้งก่อนกับเขา ในหัวของเธอมีความคิดบางอย่างแวบเข้ามา นั่นก็คือความเอาแต่ใจของเธอนั่นเอง
เธอถอนหายใจ พลางพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ฝากไปบอกเขาด้วยว่าฉันยินดีจะเชื่อฟังคำสั่งของเขา แต่ฉันจะอธิบายกับคนในครอบครัวได้อย่างไร?”
พายุพูดขึ้น “สบายใจได้ครับ ท่านประธานจัดการได้แน่ และมันก็เพียงแค่ไม่กี่วันนี้เท่านั้น”
ญาธิดาพยักหน้า กลับไปเงียบลงอีกครั้ง
พายุยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “เอ่อ.. ตอนนี้อันอันเธอ...”
ญาธิดาเข้าใจได้ในทันที หันไปสบตากับเขาและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เธอยังคงเข้ารับการรักษาอยู่ ตอนที่ฉันจะกลับมาเธอตื่นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่ง ก่อนที่จะหลับลงไปอีก คุณหมอบอกว่าโดยรวมดีขึ้นแล้วแต่ยังต้องเข้ารักษาตัวต่อ”
ได้ยินดังนั้น พายุก็เบาใจลง ใบหน้าของเขาดูมีความลังเลอยู่เล็กน้อย “แค่เธอฟื้นกลับมาได้ก็ดีแล้ว”
พูดไปแล้ว ในช่วงเวลาที่อัญมณีต้องการคนดูแลมากที่สุดกลับไม่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ รอเธอหายดีเมื่อไหร่ เขาเองก็ไม่แน่ชัดว่าเขากับเธอจะยังสามารถไปต่อกันได้หรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...