ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 544

ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบ ๆ ผ่านไปสักพัก บรรยากาศรอบด้านเงียบมากเสียจนพวกเขาได้ยินเสียงร้องของแมลงตัวเล็ก ๆ ในสนามหญ้าข้าง ๆ ทั้งสองคนต่างไม่มีใครพูดอะไรเลย

ภวินท์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเบือนสายตาไปอีกทาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ถ้าเธอไม่ใช่คนของภูผาจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเขาคงไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่”

ญาธิดาไม่เข้าใจ “หมายความว่าไง?”

แววตาของภวินท์มืดมน ทว่าน้ำเสียงของเขากลับนิ่งสงบมาก “ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่าเธอกับฉันถูกพวกมันผูกติดเข้าไว้ด้วยกันแล้ว ยังจำเรื่องที่สิงโตเคยทำไว้กับเธอเมื่อก่อนหน้านี้ได้ไหม?”

ญาธิดาสะดุ้งเล็กน้อยและพยักหน้า

“ดังนั้น ตั้งแต่ฉันกับพวกมันอยู่กันคนละฝั่ง เธอจำเป็นต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะถึงเธอไม่เลือก พวกมันก็คงจะยังใช้เธอมาเป็นตัวประกันข่มขู่ฉัน และฉัน...”

ภวินท์ชะงักไป ลูกกระเดือกของเขาเลื่อนขึ้นลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “ฉันไม่สนการเป็นการตายของเธอไม่ได้”

ญาธิดาได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย แต่ภายในหัวของเธอกลับหวนนึกถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของภวินท์อย่างละเอียดอีกครั้ง จู่ ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ แล้วร่างกายของเธอเกร็งตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที

ทำไมภูผากับสิงโตถึงชอบดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับภวินท์ หรือใช้เธอเป็นตัวประกันเพื่อไปข่มขู่ภวินท์ หรือใช้ประโยชน์จากเบาะแสจากการที่เธอตามหาภวินท์ พวกเขากำลังหลอกใช้ประโยชน์จากเธอตั้งแต่เริ่มต้น

ราวกับว่าระหว่างเธอกับภวินท์มีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นผูกมัดพวกเขาทั้งสองคนเชื่อมติดกันเอาไว้

แล้วเมื่อครู่นี้ ญาธิดาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ และเข้าใจทุกอย่างในทันที

เส้นด้ายที่มองไม่เห็นที่เชื่อมระหว่างเธอกับภวินท์เอาไว้ก็คือลูก เว้นเสียแต่ว่าภูผากับสิงโตจะรู้อยู่แล้วว่าอีธานกับเอลล่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของภวินท์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่มีทางดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับภวินท์ตลอดแบบนี้แน่

และเมื่อเธอย้อนกลับมาคิดอย่างละเอียดดูแล้ว เธอสามารถมั่นใจได้มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าพวกภูผารู้เรื่องนี้แล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้น ญาธิดาเกิดรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในใจ และเมื่อเงยหน้ามองภวินท์และเห็นว่าสีหน้าของเขายยังเป็นปกติเหมือนเดิม เธอถึงได้แอบโล่งใจ

ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ ค่อย ๆ รู้ความลับเรื่องลูกของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ นิวรา ภูผา สิงโต...คนน่ากลัวพวกนี้สามารถใช้ลูกของเธอมาเป็นข้อต่อรองได้ตลอดเวลา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุด

ต่อให้เธอไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาก็คงจะฉวยโอกาสใช้ลูกมาเป็นข้อต่อรองข่มขู่ภวินท์อยู่ดี

เรื่องแบบนี้ แค่คิดมันก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวมากแล้ว

ดังนั้นตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกแล้ว

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เหลือบมองไปทางภวินท์ที่อยู่ข้าง ๆ เธอกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ แล้วถามว่า “ฉันจะเลือกยืนอยู่ฝั่งของนายก็ได้ แต่ว่า ฉันมีเงื่อนไข”

ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วถามว่า “เงื่อนไขอะไร?”

ญาธิดาพูดอย่างหนักแน่น “ส่งคนไปดูแลคนในครอบครัวของฉัน ฉันไม่อยากให้พวกเขาถูกทำร้ายเพราะฉัน”

ภวินท์หลับตาลงแล้วพยักหน้า “เรื่องนี้ฉันรับปากเธอได้”

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ “โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันก็เต็มใจจะยืนอยู่ฝั่งคุณ”

แทนที่จะยืนอยู่ตรงกลางแล้วถูกลากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่รู้อะไร ไม่สู้เลือกฝ่ายแล้วเตรียมตัวพร้อมสู้ตั้งแต่แรกดีกว่า สู้เพื่อตัวเธอเองและคนในครอบครัวของเธอ

เดิมทีเธอก็อยากจะหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้ แต่ความเป็นจริงพิสูจน์ให้เห็นว่าหลายเรื่องไม่ใช่ว่าหลีกเลี่ยงหรือหลบซ่อนแล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

ทันใดนั้น เสียงทุ้มลึกของชายหนุ่มก็ดังผ่านข้างหูของเธอ “ถ้าอย่างนั้นจากนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องเชื่อในตัวฉันร้อยเปอร์เซ็นต์”

ญาธิดารู้สึกตัวและสบตาเข้ากับดวงตาสีดำเข้มเป็นประกาย แล้วพูดว่า “โอเค แต่คุณก็ต้องเชื่อฉันเหมือนกัน”

“อย่าเพิ่งสิวิน! ฉันมีธุระสำคัญนะ!”

หลุยส์รีบเข้าไปขวางหน้าเขาด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาก “เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะได้รับข่าวมาว่าภูผาวางแผนจะขายร้านค้าและที่ดินภายใต้ STN Groupหลายแห่ง แกว่ามันกำลังคิดจะทำอะไร?”

เมื่อได้ยินดังนั้นแววตาของภวินท์เคร่งขรึมขึ้นมาก เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ตอนนี้มันมั่นใจแล้วว่าฉันยังไม่ตาย คงกลัวว่าฉันจะกลับไป ก็เลยเริ่มขายทรัพย์สินที่อยู่ในมือ เพราะทันทีที่ฉันแย่งอำนาจการถือหุ้นของ STNกลับมา สิ่งที่มันจะคว้าเอาไว้ในมือได้มันน้อยมาก และเงินเป็นสิ่งเดียวที่มันสามารถครอบครองมาไว้ในมือได้ในตอนนี้”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะทำยังไง?” หลุยส์เอ่ยถามด้วยท่าทางจริงจัง “ฉันดูมาหมดแล้ว ที่ดินพวกนั้นทำเลดีทั้งนั้นเลย ถ้าได้ไปครองไม่ว่าจะก่อสร้างใหม่หรือปล่อยเช่าก็มีแต่คุ้มกับคุ้ม ถ้าเขาขายไป สุดท้ายคนที่สูญเสียก็คือSTNนะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ภวินท์ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น ไม่พูดไม่จาอยู่นาน

ผ่านไปพักใหญ่กว่าเขาจะเงยหน้ามองไปที่หลุยส์ “ยังไม่มีข่าวเรื่องพ่อฉันอีกเหรอ?”

“ไม่มี”

“ดูเหมือนว่าคงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาแล้ว”

ก่อนที่เขาจะถูกวางแผนตลบหลัง เขาก็ติดต่อปกรณ์ไม่ได้แล้ว เกรงว่าพ่อที่อยู่ห่างไกลถึงต่างแดนคงจะถูกภูผาควบคุมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว มีแค่เหตุผลนี้เท่านั้นที่แม้กระทั่งSTN เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้แต่ปกรณ์ก็ยังไม่ปรากฏตัว

หลุยส์พูดถาม “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้จะทำยังไง?”

สิทธิอำนาจถูกแย่งไป หุ้นถูกถ่ายโอนเปลี่ยนมือ หัวหน้าครอบครัวถูกควบคุมตัว ไม่มีแม้ข่าวคราว ดูเหมือนว่าครั้งนี้ภูผากำลังเตรียมการเพื่อต่อสู้กับเขาอย่างเต็มที่จริง ๆ

หลังจากคิดพิจารณาความเป็นไปได้ทุกอย่างในใจ ในที่สุดเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้นมาว่า “ไม่ว่ายังไง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องพาคุณย่าออกมาก่อน”

ในเมื่อตอนนี้มือของเขาว่างเปล่าไม่เหลืออะไร ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะค่อย ๆ จั่วไพ่ในมือของภูผาออกมาทีละใบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์