สุดท้าย เธอก็รับข้อเสนอแนะของอันอัน เลือกโรงเรียนที่ดูเหมือนจะธรรมดาแห่งนี้
การตัดสินใจเลือกนี้ไม่ใช่เพราะว่าเธอเห็นด้วยกับอันอัน แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกว่าจุดเริ่มต้นของอีธานและเอลล่าค่อนข้างสูง เธอหวังจะให้ลูกได้ใช้ชีวิตเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่ใช้ชีวิตแบบหรูหราฟุ่มเฟือย
ในที่สุดเรื่องที่ติดค้างอยู่ภายในใจก็หาผลลัพธ์ได้สักที ตอนที่ญาธิดามาถึงที่กองถ่ายอีกครั้ง สีหน้าก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ พราวฟ้าได้เรียนรู้บทเรียนจากวันก่อนหน้านี้มาแล้ว นิสัยก็ดูอ่อนข้อลงไปเล็กน้อย กำลังนั่งเปิดดูการค้นหายอดนิยมของวันนี้อยู่บนโซฟา
ถ้าเกิดไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นล่ะก็ ข่าวที่เธอดูแลทีมงานในกองถ่ายเมื่อวานนี้จะถูกพวกแอคปั่นต่างๆ โพสต์แชร์ต่อๆ กัน แล้วพวกหน้าม้าที่จ้างไว้ก็จะพากันแท็ก “คนสวยใจดี” ให้กับเธอ
รีเฟรชที่หน้าการค้นหายอดนิยมอยู่หลายครั้ง สีหน้าของเธอก็ยิ่งดูแย่ลงเรื่อยๆ
ในหน้าจอ บัญชีแอคเคาท์ของผู้คนกับบัญชีแอคเคาท์ปล่อยข่าวยกย่องเธอ สร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็นคนที่จิตใจดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานก็จริง แต่ที่อยู่ในการค้นหายอดนิยมกลับไม่ใช่เธอ
เป็นรูปของอีธานและเอลล่าที่กำลังยื่นน้ำให้กับพนักงานทำความสะอาดแทน!
กลุ่มแฟนคลับไม่รู้ว่าไปขุดรูปนี้มาจากไหน ชื่นชมว่าเด็กสองคนนี้เป็นเด็กดีเชื่อฟังและรู้เรื่องรู้ราวมากๆ
แม้ว่าคำพูดจะไม่ได้เหยียบย่ำพราวฟ้า แต่พวกผู้คนที่ชอบเผือกก็ตอบสนองกลับมาว่าเธอกำลังดัดจริต จัดให้เธออยู่ในอันดับของคนที่สร้างภาพลักษณ์
แม้แต่บัญชีอย่างเป็นทางการของ แฮปปี้เฟมิลี่ 4 ก็แชร์ภาพภาพนี้เหมือนกัน แถมยังแนบสติ๊กเกอร์ชูนิ้วโป้งสองนิ้วอีกด้วย ไม่มีพูดถึงพราวฟ้าเลยแม้แต่คำเดียว
ญาธิดานังผู้หญิงชั้นต่ำแย่งบทนางเอกไปจากเธอ ถึงขนาดที่ยังทำหน้าที่เป็นสตั๊นท์แมนแทนเธอได้อีกด้วย ไอ้เด็กสองคนนั้นก็แย่งการค้นหายอดนิยมที่เธออุตส่าห์ทุ่มทั้งกายทั้งใจทำไปอย่างหน้าตาเฉย ความโกรธแค้นนี้จะต้องได้ชำระ!
สายตาที่อาฆาตพยาบาทของเธอจ้องมองไปที่สามคนแม่ลูก ปาโทรศัพท์ในมืออย่างแรง
lee Tongเข้ามาที่กองถ่ายเรียบร้อยแล้ว ข้างๆ ตัวเขามีสามีภรรยาคิรินมาด้วยสองคน รวมถึง……ภวินท์ด้วย
พวกเขานั่งลงตรงข้างหน้าจอมอนิเตอร์ที่ใช้สำหรับกำกับภาพยนตร์โดยเฉพาะ สีหน้าของทุกคนนั้นเข้มงวดสุดๆ เหมือนกับว่ากำลังพูดคุยเจรจาเรื่องงานอยู่
อีธานและเอลล่าแววตาเป็นประกาย กำลังที่จะวิ่งพุ่งไปหาเขา แต่กลับถูกญาธิดารั้งการกระทำเอาไว้ “พ่อกำลังยุ่งอยู่ พวกเราจะไปรบกวนเขาไม่ได้ พวกลูกสองคนก็เตรียมตัวเข้าฉากเถอะ เตรียมตัวให้พร้อม จะว่อกแว่กไม่ได้”
เด็กทั้งสองคนก็ว่านอนสอนง่ายสุดๆ พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะนั่งลงท่องสคริปต์ข้างๆ ภวินท์กำลังแอบมองภาพภาพนี้ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เตรียมไฟเตรียมสเลทให้พร้อม กล้องประจำที่ นักแสดงประจำที่ เตรียมเริ่มถ่ายทำของวันนี้ได้!” lee Tongยกโทรโข่งขึ้น น้ำเสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้นมาในกองถ่าย
อีธานและเอลล่าจับมือยืนอยู่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ หลังจากที่เสียงสเลทดังขึ้น ทั้งคู่ก็เริ่มเข้าสู่สภาวะการแสดงทันที
วันนี้ไม่ใช่แสดงกลางแจ้ง แต่เด็กทั้งสองคนกลับไปแสดงในห้องเช่าด้วยกันกับนางเอก ดังนั้นจึงมีเพียงแค่ทีมงานที่สำคัญๆ ไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ในกองถ่าย
ญาธิดาหาโอกาสไปอยู่ข้างๆ ของภวินท์ สะกิดข้อศอกของเขา พูดถามขึ้นเบาๆ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“มาเยี่ยมเยียนกองถ่าย” มุมปากของเขายกโค้งขึ้นเล็กน้อย
ญาธิดาทำหน้ามุ่ย พูดพึมพำกับตัวเอง “เชื่อก็บ้าแล้ว จะใครที่มาเยี่ยมเยียนกองถ่ายแล้วมาอยู่ในตำแหน่งนี้กัน”
lee Tongจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจ รีบตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉากมาอธิบายสถานการณ์ทันที เจ้าหน้าที่ฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉากมองแก้วที่อยู่ในมือของเธอ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรม “ผู้กำกับ นี่ไม่ใช่แก้วที่พวกเราเตรียมเอาไว้นะครับ”
พูดจบ เขาก็หยิบแก้วน้ำที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันมากๆ ออกมาจากตู้ที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับพูดขึ้น “นี่ต่างหากที่เป็นแก้วที่พวกเราเตรียมเอาไว้ แถมที่พวกเราเตรียมก็เป็นน้ำไม่ร้อน แล้วจะไปลวกคนได้ยังไง”
ญาธิดาไม่แยแสสนใจ พูดตะโกนออกมาด้วยความลนลาน “แล้วยาทาน้ำร้อนลวกล่ะ ได้เตรียมยาทาน้ำร้อนลวกเอาไว้ไหม?”
ภวินท์ก้าวเดินตรงเข้ามา อุ้มเอลล่าเอาไว้อย่างอ่อนโยน พูดปลอบขึ้นมาเบาๆ พลางทายาให้กับเธอ พอมีความรู้สึกเย็นเข้ามา สีหน้าเจ็บปวดของเอลล่าจึงจางหายไป
ญาธิดาถึงได้ถอนหายใจออกมา แย่งชิงแก้วในมือของพราวฟ้าไป นำมาเทียบกับแก้วที่ฝ่ายอุปกรณ์เตรียมเอาไว้
ที่แก้วยังคงอุ่นอยู่ แม้ว่าข้างในจะไม่ใช่น้ำที่ร้อนมากๆ แต่สำหรับเด็กแบบเอลล่าแล้วก็ยังรู้สึกรับไม่ไหวอยู่ดี
เธอจ้องมองพราวฟ้าด้วยความโมโหสุดๆ แต่กลับเผชิญหน้าอยู่กับรอยยิ้มที่สะอกสะใจของพราวฟ้า น้ำเสียงของเธอยิ่งเยือกเย็นมากขึ้น “คุณจงใจ!”
“คุณญาธิดาหมายความว่ายังไง อุปกรณ์ประกอบฉากไม่ใช่ความผิดของฉัน อีกอย่างฉันก็ขอโทษเรื่องที่มือของฉันลื่นไปแล้วด้วย คุณอย่าใส่ร้ายกันสิ!”
พราวฟ้าน้ำเสียงน้อยใจรู้สึกไม่เป็นธรรม แต่กลับเชิดคางมองเธอ ความเย้ยหยันในสายตาเหมือนกับกำลังส่องสว่าง พูดขึ้น “ถ้าฉันตั้งใจจริงๆ แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้”
ทางนี้เอลล่าทายาเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็กลับมาตามปกติแล้ว เธอตรงเข้าไปจูงมือของแม่ พูดโน้มน้าวอย่างยิ้มแย้ม “แม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้ถ่ายทำตามปกติได้แล้ว”
พอเห็นท่าทางที่เชื่อฟังรู้เรื่องรู้ราวของลูกสาว ญาธิดาก็รู้สึกปวดขอบตาเหมือนจะร้องอย่างอดไม่ได้ จมูกก็เริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อย สองมือใหญ่ๆ เข้ามาโอบไหล่ของเธอเอาไว้ ดึงเธอเข้ามากอดในอ้อมอกที่แข็งแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...