ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 809

อีกครั้งที่ญาธิดาได้สตินั้น เป็นเพราะเสียงหนวกหูที่ดังมาจากด้านนอก เสียงระเบิดดังขึ้นในหูของเธออย่างต่อเนื่อง เธออดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

อลิสากำลังคลานอยู่ข้างๆ เธอ และกำลังใช้ปากแก้มัดเชือกตรงมือของเธอ

พอสังเกตเห็นว่าเธอได้สติแล้ว ใบหน้าของอลิสาก็แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา จนลืมเรื่องที่ต้องแก้มัดเชือก รีบลุกขึ้นนั่งด้วยท่านั่งที่สบายที่สุด แล้วให้เธอนั่งพิงกำแพง

เธอพยายามมองไปยังบริเวณโดยรอบ กำแพงหินปูนค่อนข้างทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ตรงกลางหลังคาห้อยหลอดไฟสีขาวเอาไว้ ห้องแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เข้ากับozoneในความทรงจำของเธอสักเท่าไหร่

เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก ไม่ว่ายังไงก็เดาไม่ออกว่าถูกขังอยู่ที่ไหน

“ธิดา คุณฟื้นก็ดีแล้ว ฉันนึกว่าพวกเขาจะใส่ของบางอย่างเข้าไปในตัวทำปฏิกิริยาของคุณเสียอีก” เสียงของอลิสาดังขึ้นข้างหูอย่างไม่ทันตั้งตัว

ญาธิดาแสดงสีหน้าที่สงสัยออกมา พยายามอดทนกับความรู้สึกไม่สบายในหู ก่อนจะถามอย่างลังเลว่า “ตัวทำปฏิกิริยา? ตัวทำปฏิกิริยาอะไร?”

“ยาช่วยการนอนหลับที่พิเศษประเภทหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นยาต้องห้าม หากควบคุมปริมาณยาได้ไม่ดีก็อาจถึงแก่ชีวิต หากผสมกับยาชนิดไหนก็จะเกิดผลข้างเคียงตามชนิดนั้น......”

อลิสายิ่งพูดน้ำเสียงยิ่งเย็นชา ยังไม่ทันที่จะพูดจบเธอก็เปลี่ยนเรื่องคุยอย่างขัดจังหวะ “ฉันเห็นคุณไม่ฟื้นสักที นึกว่ายาที่ที่พวกเราได้รับไม่เหมือนกันเสียอีก ค่อยยังชั่วที่คุณฟื้นขึ้นมาอย่างราบรื่น”

เสียงสู้กันดังขึ้นอีกครั้งในหูของเธอ ญาธิดาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแน่น “สถานการณ์ด้านนอกเป็นยังไงบ้าง?” 

“เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงหลุยส์แล้ว ทางองค์กรน่าจะส่งคนมาแล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก” เสียงของอลิสาค่อยๆ อ่อนลง “ตอนนี้เรื่องสำคัญคือเราจะออกไปกันยังไง” 

ระหว่างที่พูดเธอก็มองไปที่ด้านหลังของญาธิดา

กว่าทั้งสองจะใช้แรงทั้งหมดสุดความสามารถถูเชือกที่มัดข้อมือจนขาดออกจากกัน แล้วแอบย่องออกจากห้องแคบๆ ตรงหน้าคือทางเดินที่มืดสนิท ทุกก้าวที่เดินนั้นสามารถได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา

ญาธิดาขนลุก และจับมือของอลิสาไว้อย่างแน่นตามสัญชาตญาณ กว่าจะเดินคลำมาถึงประตูเหล็กสุดทางเดิน และพยายามเปิดประตูออกเป็นช่องเล็กๆ 

แสงเย็นแวบผ่านต่อหน้าต่อตา นัยน์ตาของเธอหดลง ยกมือขึ้นเพื่อป้องกันตัวตามสัญชาตญาณ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจดังขึ้นอย่างกะทันหัน พี่ธิดา?! “”

พวกเขายืนนิ่งอยู่กับที่ ญาธิดาแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจ พร้อมกับพูดอย่างตกใจว่า “พยัคฆ์?! นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? วินล่ะ? ”

“ลูกพี่กับคุณหลุยส์กำลังเก็บกวาดด้านนอกอยู่ครับ” พยัคฆ์รีบเก็บมือ แล้วชี้ไปตรงประตูที่ญาธิดาออกมา “ตรงนี้คือทางลับที่ถูกคุมขังของozone ลูกพี่ป้องกันไม่ให้คนซ่อนอยู่ด้านใน เลยให้พวกผมมาเฝ้าที่นี่”

ญาธิดาได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา “ด้านในนี้มีแค่ฉันกับคุณหมอ จากที่ดูไม่น่าจะซ่อนตัวคนอื่นไว้นะ นายพาคนที่มีความสามารถไม่กี่คนเขาไปเช็กอีกรอบก็ได้แล้ว”

พยัคฆ์รีบพาคนเข้าไปตรวจสอบทางลับในทันที ญาธิดาและอลิสาเพิ่งสังเกตเห็นว่าตำแหน่งที่อยู่นั้นเป็นสนามฝึกชั้นใต้ดิน ไม่มีใครคิดว่าสนามฝึกที่มีคนไปมานั้นจะมีทางลับซ่อนเอาไว้

ทั้งสองเดินออกไปตามทางสนามฝึก เพียงไม่นานก็มาถึงสวนดอกไม้ คนที่อยู่ต่างแดนถูกกำจัดจนสะอาด เพียงแค่ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงเท่านั้น

สีหน้าของจรณ์เหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ยังคงเห็นความจริงจังและเคร่งขรึมออกมาจากหว่างคิ้วของเขา พอเห็นญาธิดาและอลิสาปรากฏตัว สีหน้าของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย

ภวินท์หันข้างมองรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ภายในใจรู้สึกถึงความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ขณะเดียวกันก็ลดเสียงต่ำลง “ก่อนหน้านี้ทำไมผมไม่เคยสังเกตเลยว่าคุณเป็นปรมาจารย์ด้านความรู้สึกขนาดนี้?”

“เพราะว่าสองคนนั้นแสดงออกชัดเจนเกินไปต่างหาก คนที่มีตาก็ดูกันทั้งนั้น”

ขณะที่ญาธิดาพูดอยู่นั้น ก็รู้สึกถึงโทรศัพท์ที่สั่น เธอพลางเปิดดูข้อความ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปตามเรื่องที่เกิดขึ้นเล็กน้อย

หลังจากที่เธอรีบจบการทานอาหารกับนิธิศครั้งก่อน ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ไม่คิดว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เขาจะส่งข้อความมาอีกครั้ง และข้อความในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้

“ธิดา อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของต้นกล้า ไม่รู้ว่าผมนัดคุณแบบนี้จะกะทันหันเกินไปหรือเปล่า” 

พอนึกถึงท่าทางที่น่ารักและเชื่อฟังของต้นกล้า เธอก็รีบตอบกลับข้อความในทันที “ส่งเวลาและสถานที่ให้ฉันก็พอค่ะ ฉันจะฉลองวันเกิดให้ต้นกล้าตรงเวลาแน่นอนค่ะ” 

ข้อความเพิ่งจะถูกส่งออกไป น้ำเสียงที่ไร้เยื่อใยของภวินท์ดังขึ้น “ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้บอกผมตรงๆ”

เธอรู้สึกประหม่าอย่างไม่มีเหตุผล ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนถูกจับได้หลังจากที่ทำเรื่องที่รู้สึกผิด เธอรีบล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงประหม่า  “ไม่มีอะไร ช่วงนี้ไม่ได้เข้าออฟฟิศ เลยมีงานรออยู่เป็นกองเลย” 

ญาธิดารู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างภวินท์และนิธิศแปลกมากๆ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าปัญหาอยู่ตรงจุดไหน เธอจึงพยายามไม่ให้พวกเขาได้เจอกันตามสัญชาตญาณของเธอ

ภวินท์ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงแค่เหลือบมองด้วยสายตาที่น่าเกรงขาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์