ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 835

ศึกครั้งนี้ญาธิดาชนะได้อย่างสวยงาม ถึงแม้ว่าTIDA Studioจะไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว แต่เธอก็สามารถรักษาSTN Groupเอาไว้ได้

พวกสายในบริษัทถูกกำจัดจนสิ้นซากในคราวเดียว ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยละ 3 หลังจากเธอซื้อหุ้นเธอจึงกลายเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในสถานการณ์วุ่นวายครั้งนี้

เพียงแต่ว่าเมื่อเธอได้รู้ข่าวของภวินท์หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งเดือน

“ขอโทษนะธิดา วินถูกกลุ่มชายแดนซุ่มโจมตีระหว่างทางกลับ พวกเราพยายามตามหาเขาอย่างเต็มที่แล้วแต่กลับไม่พบข่าวอะไรเลย” น้ำเสียงเคร่งขรึมของจรณ์ดังขึ้นกลางห้องรับแขกของบ้านพัก

แก้วชาในมือของญาธิดาร่วงลงพื้นดัง “เพล้ง” ตามด้วยเศษแก้วลายครามที่แตกกระจายอยู่ตามพื้นห้อง เธอได้แต่โบกมือปัดป่ายไปมาด้วยรอยยิ้ม

“ก่อนที่เขาจะไปปฏิบัติภารกิจ พวกเรามีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยก็จริง แต่ไม่เห็นต้องเอาเรื่องแบบนี้มาโกหกกันแบบนี้เลย”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ปะปนไปด้วยเสียงร้องไห้ แต่ใบหน้าของเธอกลับยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส “ครึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาก็ทำงานหนักมามากแล้ว ให้เขารีบกลับมาพักผ่อนเถอะ ฉันมีเรื่องอยากจะบอกต่อหน้าเขา...”

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจรณ์ไม่เคยพูดโกหกก็ตาม

“ธิดา ozoneเคยรับปากกับเขาไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะดูแลครอบครัวของพวกเธอ” จรณ์ถอนหายใจอย่างลำบากใจ

“ครอบครัว?”

เธอหัวเราะเบา ๆ ทว่าแววตากลับแหลมคมราวกับคมมีดจับจ้องมองไปที่เขา “คุณบอกฉันสิว่าไม่มีภวินท์แล้วมันจะเป็นครอบครัวได้ยังไง?”

“นี่คือสิ่งที่ฉันรับปากเขาเอาไว้ พวกเราจะทำตามที่สัญญาเอาไว้แน่นอน”

ญาธิดามองด้วยสายตาคมกริบ “นั่นเป็นเรื่องของคุณกับเขา ไม่เกี่ยวกับฉัน! คำสัญญาระหว่างฉันกับเขา ฉันต้องการให้เขามาเคลียร์กับฉันด้วยตัวเอง!”

“ธิดา...”

จรณ์ยังอยากจะพูดอะไรต่อ ญาธิดาลุกขึ้นยืนพร้อมตะโกนเสียงดัง “ป้าจันทร์ ส่งแขก!”

ทันทีที่พูดจบเสียงสะอึกสะอื้นก็ดังระงมไปทั่วห้องรับแขก

อีธานกับเอลล่ายืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่มุมบันไดอยู่พักใหญ่ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดเธอ สองมือเล็ก ๆ ช่วยเธอเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า พร้อมพูดปลอบโยนเธอด้วยเสียงไร้เดียงสา

ญาธิดามองเด็กทั้งสองในอ้อนแขนด้วยน้ำตาคลอเบ้า จู่ ๆ ใบหน้าคมคายของภวินท์ก็ปรากฏขึ้นมาในสายตาของเธอ

สีหน้าของเธอเปลี่ยนสีทันที ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบไปอีกทางโดยไม่รู้ตัวพลางร้องครวญครางเสียงดังลั่น “เขาไม่ได้เป็นอะไรหรอกใช่ไหม พ่อรักพวกหนูขนาดนี้จะทิ้งพวกหนูไปได้ยังไง!”

“แม่คะ...” เอลล่ากำแขนเสื้อของพี่ชายไว้แน่นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น “คุณพ่อไม่มีทางทิ้งพวกเราไปแน่ หนูกับพี่ชายจะรอคุณพ่อกลับมาเป็นเพื่อนแม่เองค่ะ”

อีธานกัดริมฝีปากแน่น เขาเบี่ยงหน้าหลบไปอีกทางโดยไม่พูดอะไรก่อนที่น้ำตาจะรินไหลอาบแก้มลงมาทีละหยด ๆ

หลังจากนั้นมาเธอก็เอาแต่ปิดกั้นตัวเองอยู่ในห้องทำงานของท่านประธาน นอกจากเรื่องงานเธอก็ไม่พบเจอใครอีกเลย แม้แต่อีธานกับเอลล่าก็ไม่มีข้อยกเว้น ส่วนพายุก็ถูกเธอมอบหมายให้เป็นผู้จัดการของบริษัทลูก

เอกสารทั้งหมดที่ถูกส่งเข้าไปในห้องทำงานถูกส่งกลับออกมาในสภาพเดิม มีเพียงเลขาคนใกล้ชิดคนใหม่คนเดียวเท่านั้นที่จะออกมาแจ้งข่าวว่าภายในห้องทำงานมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งกับขวดไวน์ที่ว่างเปล่า

......

สองปีต่อมา

ญาธิดานั่งสบาย ๆ อยู่บนโซฟาในห้องทำงานของท่านประธาน มองไปยังหัวเล็ก ๆ ที่อยู่หลังกองเอกสารด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม หาได้ยากกว่าจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง แต่ดันถูกเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมารบกวนซะก่อน

ภายในกล่องเป็นเดรสยาวราคาไม่ธรรมดาซึ่งแตกต่างไปจากชุดไปงานหรูหราที่ใส่เมื่อก่อน ช่วงสองปีที่ผ่านมาชุดออกงานที่เธอใส่มักจะเป็นชุดเรียบง่ายแต่สง่างาม และสะดวกต่อการเคลื่อนไหว

เธอสวมชุดเดรสสั้นสีน้ำเงินซึ่งเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งของหุ่นเธอได้เป็นอย่างดี ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แต่ด้วยใบหน้าอ่อนเยาว์ทำให้เธอดูยังสาวยังสวยเหมือนเดิม

เมื่อเห็นเธอติดเครื่องมือสื่อสารขนาดจิ๋วติดตัวเรียบร้อย อีธานก็อดเอ่ยปากเตือนเธอไม่ได้ว่า “ลุงจรณ์ให้ผมเตือนแม่ว่าภารกิจครั้งนี้เป็นแค่การทดสอบทางน้ำเท่านั้น แม่อย่ารีบร้อนจนเกินไป”

“ถ้าลูกยังมีเวลาเหลือมาเป็นห่วงแม่ สู้รีบกลับบ้านไปปลอบใจเอลล่าเถอะ เดี๋ยวกลางคืนกลับไปก็ต้องถูกเธอทรมานอีก ลูกก็รู้ว่าเอลล่าต้องเอาแต่ยึดติดกับการแสดงไม่ยอมปล่อยวางแน่ ๆ”

ญาธิดายิ้มและต่อปากต่อคำกับเขาโดยไม่เอ่ยถึงจรณ์เลย ราวกับว่าไม่รู้จักคนคนนี้ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเธอก็หิ้วกระเป๋าใบเล็กเดินออกจากห้องทำงานไป

“ระวังตัวด้วย...”

คำคำนี้ของอีธานเหมือนกำลังบอกกับเธอ แต่ก็เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง แต่สิ่งที่ตอบกลับเขามีเพียงความเงียบเท่านั้น

รอยยิ้มเดียวบนใบหน้าของเขาจางหายไป มองดูใบหน้าเกรงขามในกระจกที่ดูเย็นชาเหมือนอย่างกับพ่อของเขาไม่มีผิดเพี้ยน ก่อนที่คิ้วทั้งสองข้างจะขมวดเข้าหากัน

แม่เกลียดที่จะมองใบหน้าเย็นชาของเขาที่สุด เขาเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน เพราะใบหน้านี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงจุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้นกับตระกูลสถิรานนท์เมื่อสองปีก่อน

ไม่รู้ว่าบนเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์เปลี่ยนเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดงน้ำเงินเรียบง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ อักขระและรหัสตัวเลขปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างต่อเนื่อง เสียงของญาธิดาที่กำลังพูดคุยกับคนขับรถดังลอดผ่านหูฟังเล็ก ๆ ออกมา

เมื่อเห็นว่าตำแหน่งของเธอเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อง ๆ มือเล็ก ๆ ของอีธานก็ค่อย ๆ กำหมัดแน่น ความเยือกเย็นปรากฏในดวงตาคมลึกและมืดมิดของเขา และเอาแต่จ้องมองข้อมูลบนจอแสดงผลอย่างระแวดระวัง

ozoneทำให้เขาสูญเสียพ่อไป และเขาจะไม่มีวันให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นกับแม่ของเขาแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์