ภวินท์ใบหน้าบึ้งตึง ญาธิดากับเอลล่าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แม่ลูกคู่นี้ร่วมมือกันจัดการกับภวินท์อย่างสมานฉันท์ เล่นงานกลับได้อย่างสวยงาม
ต่อไปก็ต้องดูว่าอีธานจะทำยังไง
“อยู่ดีๆ เมื่อสองปีก่อนนพเก้าก็ลาออกจากบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์ไปอย่างไม่มีเหตุผลและไปที่ยุโรป แล้วช่วงเวลานั้นมันก็ตรงกับตอนที่พ่อของผมประสบอุบัติเหตุพอดี แล้วตอนนี้พ่อก็อยู่กับเธอ แสดงว่าน่าจะเป็นแผนการที่มีการวางแผนมาล่วงหน้าแล้ว” อีธานนั่งอยู่บนเก้าอี้สำนักงานและพูดอย่างเย็นชา
“นพเก้าเข้าร่วมกกับตระกูลสมิธมานานแล้ว แต่ว่าพวกเรากลับไปพบประเด็นสำคัญนี้……”ญาธิดารู้สึกเสียวสันหลัง
ตอนนี้สถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศนั้นเข้มงวดมาก อีกฝ่ายวางกำลังคนกันอย่างหนาแน่นขนาดนี้ องค์กรจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยเหรอ?
อีธานจัดการเอกสารในมือของตัวเอง แล้วก็ส่ายหัวอย่างครุ่นคิด “แค่ลำพังนพเก้ากับนิธิศไม่สามารถสร้างพายุลูกใหญ่ขนาดนี้ได้หรอก เบื้องหลังพวกเขาต้องมีคนที่ใหญ่กว่านี้คอยผลักดันและควบคุมเรื่องนี้อยู่อย่างแน่นอน”
เมื่อสองปีก่อน STN Groupที่ไม่มีอำนาจของภวินท์ก็แทบตกลงจากแท่น
บริษัทเป็นเครือข่ายข่าวกรองสำหรับองค์กรในการรับข้อมูล และยังเป็นส่วนสำคัญในการตรวจสอบและปรับสมดุลการหมุนเวียนเงินของคนผิดกฎหมาย ถ้าบริษัทล้มองค์กรก็เสียจุดกำบังและแหล่งข่าวกรอง บริษัทที่ดำเนินการอย่างลับๆ ก็จะสูญเสียสมดุลเหมือนกัน
แผนการนี้มีคนรอได้ผลประโยชน์เยอะมาก ก็เลยไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเข้าร่วมแผนการนี้บ้าง
“Ozoneเป็นยังไง องค์กรเป็นแบบไหน สำหรับแม่แล้วมันไม่ได้สำคัญเลย” ญาธิดาตั้งสติแล้วก็พูดออกมาช้าๆ “แม่แค่อยากกลับไปมีชีวิตแบบคนธรรมดา”
“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ตั้งแต่วินาทีที่แม่ตัดสินใจเลือกพ่อแล้ว ก็ถูกกำหนดว่าจะต้องมีชีวิตไม่ธรรมดา”
อีธานพูดไปแล้วก็จัดแจงเอกสารพร้อมกับยื่นให้เธอ “STN Groupเตรียมพร้อมจะร่วมมือกับสหภาพยุโรปแล้ว เรื่องนี้มีแค่แม่เท่านั้นที่สามารถจัดการได้”
ญาธิดารับเอกสารไป และขมวดคิ้วเข้าหากัน “ธุรกิจส่งออกต่างประเทศงั้นเหรอ? พวกเราไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ความเสี่ยงค่อนข้างสูง แล้วอีกอย่างธุรกิจของตระกูลสมิธก็ไม่ได้ใสสะอาดด้วย ถ้าเกิดว่าจัดการไม่ดีเราจะเสียทั้งขึ้นทั้งร่องเลยนะ”
“นพเก้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แผนการนี้ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยง แต่ว่ามันเป็นวิธีที่จะได้เข้าใกล้พ่ออย่างเร็วที่สุดอยู่แล้ว และถ้าหากว่าเราอยากจะตรวจสอบและถ่วงดุลการเคลื่อนไหวในยุโรปนั้น พวกเราจำเป็นต้องเข้าไปในบริษัท”
ตรวจสอบและถ่วงดุลงั้นเหรอ?
พอได้ยินดังนั้นสีหน้าเธอก็มืดมนลงทันที สายตาของเธอจับจ้องไปที่อีธานไม่หยุด แล้วก็ถามเขากลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก “หรือว่าลูกไปรับปากอะไรกับองค์กรลับหลังแม่รึเปล่า? ”
อีธานรู้ดี ว่านี่คือเส้นตายของญาธิดา
เขาหลบสายตาเธอและพยักหน้าอย่างจริงใจ “ผมคือลูกของแม่กับพ่อ มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่จะเข้ามาในองค์กร ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่สามารถได้แต่มองอยู่ข้างๆ ได้หรอกนะ”
“ไม่ว่าองค์กรจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับแม่ทั้งนั้น และแม่ก็ไม่แคร์ด้วย สรุปก็คือแม่จะไม่เข้าร่วม และไม่ให้ลูกเข้าร่วมด้วย” น้ำเสียงของเธอเย็นชาลงทันที แล้วก็ฟาดเอกสารลงบนโต๊ะดัง “เพียะ”
“คำพูดพวกนี้แม่ก็ไปพูดกับลุงจรณ์สิครับ ทำไมผมถึงมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของแม่เลย” อีธานไม่มีทางเลี่ยง “ถ้าเกิดว่าแม่ไม่แคร์จริงๆ ก็คงไม่เสี่ยงชีวิตของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก”
ความจริงทุกคนก็รู้แก่ใจอยู่แล้ว ว่าบางอย่างก็ขัดกับความตั้งใจเดิมของญาธิดาที่อยากจะสืบหาความจริง แต่ว่าเธอก็ยังกัดฟันและทำมันจนสำเร็จ
สิ่งที่เธอพะวงไม่ใช่แค่เรื่องความจริงเมื่อสองปีที่แล้วหรอก แต่ว่าเธอแค่ไม่ยอมรับมันเท่านั้นเอง เพราะว่าเธอไม่มีทางให้อภัยozoneที่ทำให้เธอต้องสูญเสียภวินท์ไปได้อย่างแน่นอน
พอความคิดในใจของญาธิดาถูกเปิดโปงด้วยประโยคเดียว อารมณ์ของเธอก็ไม่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด เธอพึมพำกับตัวเองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “แม่ไม่แคร์ชีวิตของตัวเองได้ แต่ว่าแม่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ แม่ไม่สามารถผลักคนที่ตัวเองรักเข้าไปในกองไฟได้หรอก!”
เลขารีบก้มหน้าลงทันที และพยายามจะอธิบายแล้ว อธิบายอีก แต่ว่าญาธิดาไม่เชื่อ
“ไม่ต้องหาข้ออ้างมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ ดูท่าทางเหมือนกับว่าคุณสมิธไม่ได้อยากจะร่วมงานกับเรา ฉันอยู่ที่นี่ไปก็มีแต่จะทำให้ตัวเองอับอายเท่านั้นแหละ รบกวนช่วยบอกเขาด้วยนะคะว่าฉันขอยกเลิกที่จะร่วมงานกัน”
พอพูดจบ เธอก็แสร้งทำเป็นใจเย็นและลุกขึ้น แต่ว่าในใจกลับรู้สึกเหมือนเหงื่อจะออก
ถ้าหากว่าสหภาพแรงงานยุโรปนั้นได้ร่วมงานกับSTN Groupจริงๆล่ะก็ ต่างคนก็ต่างได้ไม่คุ้มเสียหรอก แต่ว่าพวกเขาสามารถตรวจสอบและถ่วงดุลกันด้านธุรกิจได้ และสามารถช่วยกันยับยั้งได้ ส่วนมากก็เลยจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
ตอนนี้เธอได้แต่สวดอ้อนวอนในใจ ว่าเลขาสาวชาวยุโรปคนนี้จะเข้าใจเรื่องกำไรและขาดทุนของเรื่องนี้
“คุณญาธิดารอก่อนนะคะ……”เลขากัดฟันและขวางทางของเธอไว้ “ด้วยฉันจะไปรายงานที่ห้องท่านประธานอีกครั้งหนึ่ง รบกวนคุณรออีกสักครู่นะคะ”
เธออดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ว่าสีหน้ายังคงดูไม่พอใจเหมือนเดิม แล้วก็ตอบกลับไปด้วยเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ
ไม่นาน เลขาก็พาเธอไปที่ห้องทำงานด้วยความเคารพ และบรรยากาศภายในห้องก็มืดครึ้มลงทันทีที่เธอเข้าไป
ตอนที่เห็น “แขกวีไอพี”ที่อยู่ภายในห้องนั้น ญาธิดาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเท่าไหร่
เพราะว่าก่อนหน้านี้อีธานเคยเตือนเธอมาแล้ว ว่าสองปีที่ผ่านมาองค์กรได้รับการตรวจสอบและถ่วงดุลอย่างมีประสิทธิภาพจากต่างประเทศมาโดยตลอด ดังนั้นแผนการหลายอย่างของตระกูลสมิธก็เลยไม่สามารถดำเนินการได้อย่างราบเรียบ วันนี้นพเก้ากับภวินท์ก็เลยมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการใหม่ในต่างประเทศ
ดังนั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ให้เธอมาคุยเกี่ยวกับการร่วมงานกันในวันนี้ ความจริงก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ต่อหน้าภวินท์เท่านั้นเอง……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...