แววตาทีน่าสั่นไหวเล็กน้อย แล้วขยับไปนั่งข้างมาเลน่า
สายตาเธอไม่ได้มองใครเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนให้เป็นหน้าที่มาเลน่า เธอเพียงเหลือบมองที่ภวินท์เป็นบางครั้ง เหมือนกำลังจับตาดูอะไรบางอย่าง
ทีน่านั่งอยู่กับที่เงียบๆ หลังจากทักทายจบเธอก็ไม่พูดอีก
แต่มาเลน่าดึงแขนเธอมาพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด
“คุณแม่คะดูสิ เขาคือผู้ชายที่ฉันเคยบอกไงคะ โจอี้”
ทีน่ายิ้มเล็กน้อย ดวงตายังคงว่างเปล่า “ตอนบ่ายเราได้เจอกันที่สวนแล้ว มาเลน่า”
“งั้นก็ดีสิคะคุณแม่”
ตอนนี้ เทอรี่ขัดจังหวะการสนทนาระหว่างแม่ลูก
“ทีน่า มาเลน่า”
ทั้งสองมองไปที่เทอรี่
เขายกแก้วที่มีไวน์อยู่เต็มขึ้นส่ายโคลง “ตั้งแต่วันนี้ โจอี้จะรับช่วงต่องานส่วนหนึ่งในมือของฉันอย่างเป็นทางการ”
ตอนที่พูดประโยคนี้ เทอรี่เน้นย้ำตรงคำว่า “งาน” ขณะเดียวกัน เขาก็จับจ้องสีหน้าของทีน่าด้วย
โจอี้ไม่ได้ทำงานในบริษัทของเทอรี่ เขาพูดแบบนี้ ทีน่าจึงหรี่ตาเล็กน้อย
แน่นอนเธอรู้ว่าเทอรี่หมายถึงอะไร
โจอี้ไม่ใช่คนในบริษัทของเทอรี่ แต่เทอรี่จะให้เขาเข้ารับช่วงต่องานของตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดถึงต้องเป็นธุรกิจสีเทา
หลายปีมานี้ทีน่าพยายามอย่างมากที่จะเข้าไปแทรกแซงธุรกิจสีเทาของเทอรี่
ถ้าโจอี้มาจัดการธุรกิจเหล่านี้ เช่นนั้นเธอเข้าไปยุ่งคงไม่ดี
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”
สี่คนมีความคิดแตกต่าง แต่โดยผิวเผินพวกเขาสามัคคีกัน
ญาธิดาพยายามเข้าร่วมหัวข้อสนทนาหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว ดูเหมือนเธอจะถูกกีดกันออกมาอยู่วงนอก
ญาธิดามองไปที่ภวินท์ ตั้งแต่เริ่มต้น ดูเขาจะไม่สนใจมองมาที่ตัวเองมากนัก
เมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ ญาธิดาก็รู้สึกคับข้องใจ จ้องไปที่สเต็กบนจาน หยิบมีดและส้อมขึ้นมาหั่นเนื้ออย่างดุเดือด
“ธิ...” ขวัญตาเห็นว่าญาธิดาไม่ค่อยร่าเริง เกือบจะเรียกชื่อจริงของญาธิดาออกมา เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองยังอยู่ข้างนอก จึงรีบเปลี่ยนคำพูดและปลอบโยน “วิเวียน ไม่เป็นไรนะ”
เธอบีบขาญาธิดาที่อยู่ใต้โต๊ะเบาๆ ส่งสัญญาณให้เธอควบคุมตัวเอง
ญาธิดาหันมายิ้มให้ขวัญตา “อืม ไม่เป็นไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...