เส้นประสาทที่ตึงเครียดของญาธิดาผ่อนคลายโดยสมบูรณ์ในนาทีนี้ เธอกอดภวินท์แน่น ไม่นานน้ำตาก็เปียกเสื้อของเขา
ภวินท์ชะงักไปในตอนแรก ก่อนจะกอดเธอแน่นเหมือนอยากหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ธิดา คุณไม่เป็นไรนะ”
เสียงแหบแห้งของภวินท์ดังขึ้นเหนือศีรษะของเธอ ญาธิดาฝังอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ฉันไม่เป็นไร”
ทั้งสองกอดกันสักพักก่อนแยกจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์
ภวินท์จูงมือของญาธิดาและพูดด้วยเสียงหนัก “ไปกันเถอะ”
ญาธิดานิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ “เดี๋ยวก่อน”
ภวินท์หันหน้ากลับมามองเธอซึ่งเดินไปยังคอกสุนัขที่อยู่ก่อนหน้านี้
ภวินท์เพิ่งสังเกต ไม่รู้ว่าเมื่อไร เด็กชายกำลังนั่งยองๆ ข้างสุนัขสีครีมตัวใหญ่ และกำลังลูบขนสกปรกบนตัวมันเบาๆ
ขนของสุนัขสีครีมตัวใหญ่สกปรกมากจนแทบมองสีไม่ออก แต่เด็กน้อยกลับไม่รังเกียจเลย
เห็นญาธิดาเดินเข้ามา เด็กน้อยเพียงเงยหน้าขึ้นมองเธอโดยไม่พูดอะไร จากนั้นรีบถอนสายตาตัวเองไปจดจ่อที่การลูบสุนัขสีครีมตัวใหญ่
ญาธิดาเดินเข้าไปย่อตัวลงตรงหน้าเขา สุนัขสีครีมตัวใหญ่เห็นเธอก็กระดิกหางให้เธออย่างแสนรู้
ญาธิดาไม่สนใจคราบบนสุนัขตัวใหญ่เลย เอามือลูบหัวมัน แล้วมองเด็กน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน “ไปกับพวกเราเถอะ”
เด็กน้อยไม่ตอบ ยังคงลูบตัวสุนัขสีครีมตัวใหญ่อยู่อย่างนั้น
ญาธิดาถอนใจและพูดอีกครั้ง “ออกไปจากที่นี่นะ เราจะให้สภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดแก่เธอ”
เธอเงยหน้าขึ้นมองสภาพแวดล้อมอันสกปรกรอบตัว แววตามีร่องรอยแห่งความหม่นหมอง
ญาธิดาเรียกเขาหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมออกมา
ภวินท์เดินเข้าไปปรามที่ไหล่ญาธิดา และพูดด้วยเสียงต่ำ “ธิดา ไปเถอะ”
“อย่าบังคับเขา ถ้าอยากไปกับเรา จะมาหาเราเอง”
ญาธิดาถอนหายใจ แต่ในท้ายที่สุดก็พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดกับเด็กชายที่ซ่อนตัวอยู่ในคอกสุนัขว่า “ถ้าเธออยากออกจากที่นี่ ให้พับดอกกุหลาบในสวนกุหลาบไปวางไว้ใต้มุมกำแพง”
ญาธิดาชี้ไปที่รั้วไม่ไกล
เด็กน้อยยังคงไม่ตอบ ญาธิดาทำได้แค่เดินจากไปแต่ยังหันหลังกลับมามองสามรอบ
จนกระทั่งบ้านหลังเล็กๆ หายไปจากสายตาเธอโดยสมบูรณ์ ญาธิดาถึงได้หันกลับไปหาภวินท์
“วิน เมื่อครู่ วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ คฤหาสน์ตระกูลสมิทถึงมีคนมาเยอะแยะเลย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...