ซูโหย่วซินตะลึงงันอย่างถึงที่สุด
เพราะพี่เขยในตอนก่อนหน้านี้นั้น เสื้อผ้ามาถึงจะยื่นแขนออก ข้าวมาถึงจะอ้าปาก กระทั่งก๋วยเตี๋ยวยังต้มไม่เป็นเลยเสียด้วยซ้ำ
จู่ ๆ ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นพ่อครัวใหญ่ไปเสียแล้วหรือ?
รู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริงมาก ๆ
ทว่ากลิ่นหอมของกับข้าวนั้นดึงดูดมากเกินไปแล้วจริง ๆ
เธอนั่งลงด้วยใจที่ไม่เป็นสุข ลองทานไปหนึ่งคำก็รู้สึกว่ามันอร่อยเป็นอย่างมาก
อีกนิดเดียวก็เกือบจะส่งเสียงร้องออกมาอยู่แล้ว
ความประหลาดใจฉายชัดเต็มดวงตา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตามอง ซ่งซานสี่
ใบหน้าของพี่เขยประดับรอยยิ้มบางเบา ก่อนจะเอ่ยถามเสียงนุ่มว่า “อร่อยไหม?”
ซูโหย่วซิน ก้มศีรษะลงไปทางด้านล่าง ก่อนจะพยักขึ้นลงสองสามครั้งเบา ๆ
อันที่จริงแล้วเพราะไม่คิดอยากที่จะพูดคุยกับคนสารเลว ดังนั้นจึงเคยชินแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เธอกินดี ๆ กินเยอะ ๆ หน่อย กินไม่หมดก็เททิ้ง แล้วก็ไม่ต้องให้คนบางคนมาลองชิมด้วย ฉันจะออกไปซื้อของมาให้เธอ เธอจะต้องรอฉันอยู่ในหอพัก หยางเสว่ พวกเธอเองก็เหมือนกัน รอล้างจานซักเสื้อผ้าด้วย”
พูดจบ ซ่งซานสี่ ก็จากไปในทันที
พวก หยางเสว่ สามสี่คนรู้สึกว่าสถานะรูมเมทนั้นลดลงอย่างรุนแรง
ซูโหย่วซิน เป็นเจ้าหญิงของพวกเธอแล้ว อาหารที่รับประทานนั้นส่งกลิ่นอาหารหอมกรุ่น
ส่วนพวกเธอต้องกินอาหารหมูสินะ กินยากมากเกินไปแล้ว
แต่ก็ทำได้เพียงแค่กลืนน้ำลายลงไปด้วยความริษยาเท่านั้น ไม่กล้าจะเข้าไปเกาะขอกินด้วย
ซูโหย่วซิน ไม่เคยรับประทานอาหารที่หอมกรุ่นเช่นนี้มาก่อน
อาหารรสเลิศเช่นนี้ทำให้คนที่บริโภคมันล้วนอารมณ์ดีขึ้นมามากเกินไปแล้วจริง ๆ
มองเห็นท่าทีของหยางเสว่พวกเธอแล้ว ภายในหัวใจของเธอไม่เพียงแค่กระชุ่มกระชวยเท่านั้น ทั้งยังรู้สึกว่าพวกเธอนั่นแหละที่น่าสงสาร!
ถือว่าพี่เขยสารเลวได้ทำให้เธอระบายความโกรธไปหนึ่งอย่างแล้ว
แต่ทว่าอาหารมากมายเช่นนี้ อันที่จริงแล้วเธอทานไม่หมดจริง ๆ
คิดไปคิดมาแล้ว เททิ้งมันก็จะสิ้นเปลืองมาก ๆ เลยนะ?
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ซูโหย่วซิน ที่มีอุปนิสัยดีงามมาตั้งแต่กำเนิดจึงเอ่ยเสียงเบาว่า “หยางเสว่ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว พวกเธอเองก็มากินกันสักหน่อยเถอะ เยอะขนาดนี้ฉันกินไม่หมดหรอก”
หยางเสว่พวกเธอกำลังน้ำลายสอกันอยู่พอดี ภายในหัวใจกำลังคิดอยู่เลยนะ ทว่ากลับหดร่างกายเล็กลงเสียอย่างนั้น
หยางเสว่ เอ่ยอย่างเจ็บปวดว่า “ช่างเถอะ พี่เขยเธอดุเป็นบ้า พวกเราไม่กล้ายุ่งวุ่นวายด้วยหรอก”
จงเหม่ยเอ่ยว่า “ถ้าหากว่าเขากลับมาแล้วรู้ว่าพวกเรากินอาหารของเธอเข้า ฉันกลัวกระดูกเคลื่อน”
ซูโหย่วซินคิดไปคิดมา ทั้งก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงช่างมันไป
ตัวเธอกำลังทานอยู่ กำลังพยายามทานอยู่
เดิมทีนั้น นี่เป็นอาหารสำหรับสองคน
เจ้าพ่อสี่วางแผนว่าเธอหนึ่งคำ ฉันหนึ่งคำกับพี่สาวของเธอ
ทว่าตอนนี้จะสามารถทำแบบนั้นกับน้องภรรยาได้อย่างไร?
เขาจึงขึ้นไปที่ชั้นบน ก่อนจะลงมาทางรางน้ำ
หลังจากนั้นก็ออกจากโรงเรียน
ก่อนจะไปร้านอาหารว่างข้างทางในละแวกใกล้ ๆ ซื้อซาลาเปาทอดน้ำมาหนึ่งเข่ง
กินเพื่อประทังหิวไปพลางขับรถจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากชั่วโมงกว่า ๆ เขาก็กลับมาอีกครั้ง
ครีมทาแผลเปื่อยคุณภาพสูงทั้งหมดของจงไห่นั้น เขาล้วนซื้อมาหมดแล้ว
กำลังหิ้วถุงเล็กถุงใหญ่อยู่ มีทั้งเสื้อผ้ามีทั้งรองเท้าถุงเท้า
ดวงตาคมของเจ้าพ่อสี่ทราบว่าไซซ์ของน้องภรรยาในตอนนี้ จะต้องสวมใส่ไซซ์อะไรจึงจะเหมาะสม
และยังมีโทรศัพท์หรูอีกหนึ่งเครื่อง เบอร์โทรศัพท์ก็มีพร้อมแล้ว
ห้างสรรพสินค้าในระแวงใกล้ ๆ เมื่อเขาเข้าไปก็ราวกับกวาดล้างเลยก็ไม่ปาน
เลือกสิ่งของแล้วจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว ไม่เอ่ยต่อราคา ตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก
เถ้าแก่ร้านค้าเห็นเขาตรงไปตรงมาเช่นนี้แล้ว กลับลดราคาให้ด้วยนิดหน่อย
กลับมาก็ยังคงปีนขึ้นมาเช่นเดิม
ในปากคาบถุงทั้งหมดเอาไว้ มือจับที่จับมือจับก่อนจะค่อย ๆ ปีนป่ายไต่ขึ้นไปตามรางน้ำ จนไปถึงชั้นบนสุด
หลังจากนั้นก็เข้าไปในห้องนอนรวม 404
บอกตามตรง หยางเสว่และซูโหย่วซิน พวกเธอล้วนกลุ้มใจกันเป็นอย่างมาก
ป้าเมิ่งที่มักจะดูแลหอพักอย่างเข้มงวดเสมอมา เหตุใดจึงปล่อยให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเข้ามาได้กันนะ
หลังจากที่ซ่งซานสี่เข้าไปแล้ว ทุกคน ณ ที่แห่งนี้ล้วนจังงังกันไปทั้งหมด
ทั้งเสื้อผ้ากางเกง ทั้งรองเท้าถุงเท้า ยังมีโทรศัพท์มือถือ ครีมอาบน้ำราคาแพง ผ้าขนหนู ยาสีฟันแปรงสีฟันและอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสินค้าราคาแพงทั้งสิ้น
มันวางเอาไว้อยู่บนที่นอนติดหน้าต่าง นั่นเป็นที่นอนของซูโหย่วซิน
หยางเสว่พวกเธอต่างก็พากันร้องว้าวอย่างตกตะลึงกันหมด ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา
ซูโหย่วซินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดวงหน้าเล็กกำลังแดงเรื่อ
ไม่รู้ว่าพี่เขยเป็นอะไรไป กลับตัวดีขึ้นนั้นไม่พูดแล้ว แต่นี่ยังมีเงินเยอะเช่นนี้อีก
หยางเสว่พวกเธอสามสี่คนกำลังมองกันอย่างตะลึงงันหมดแล้ว
อันที่จริงแล้วซูโหย่วซิน นั้นสวยมากจริง ๆ!
พวกเธอรู้สึกว่าตนเองสู้อะไรไม่ได้เลย
กระทั่งหยางเสว่ที่นึกว่าตนเองสวยเป็นอย่างมากแล้วก็ยังรู้สึกละอายใจเช่นเดียวกัน
เส้นผมที่สระใหม่แล้ว หยางเสว่ กำลังเอาใจเธอโดยการช่วยเป่าให้อยู่ กลิ่นหอมฟุ้งไร้เทียบเทียม
ใบหน้าของ ซ่งซานสี่ ประดับรอยยิ้มบางเบาราบเรียบ พยักหน้าขึ้นลง
“อืม น้องซินของฉันสมควรที่จะสวยแบบนี้ไปในทุก ๆ วัน อารมณ์ดีในทุก ๆ วัน การเรียนก้าวหน้าก็จะดีมากเลยล่ะ!”
ซูโหย่วซินรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย ไม่กล้าสบตามองพี่เขยตรง ๆ
รู้สึกว่ากำลังฝันไป
เด็กสาวน่ะ มีใครที่ไหนไม่รักสวยรักงามกัน?
มีใครที่จะไม่ชมชอบเสื้อผ้าสวยงามและแต่งตัวสวย ๆ กัน?
เธอกำลังนั่งอยู่ในนั้น สบตามองตนเองในกระจก ราวกับว่าไม่รู้จักเลยก็ไม่ปาน
ซ่งซานสี่ เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “ตั้งแต่ด้านในถึงด้านนอกล้วนเปลี่ยนหมดแล้วสินะ?”
หน้าของ ซูโหย่วซินยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก ขบฟันกัดริมฝีปาก ก่อนจะส่งเสียงค่ะออกมาเบา ๆ
“พอดีตัวทั้งหมดไหม?” ซ่งซานสี่เอ่ยถามอย่างสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
“อือ...”
“แบบนี้ก็ดีแล้ว ในนี้ยังมีอีกสองชุด เธอสามารถเปลี่ยนสวมใส่ได้ สองวันเปลี่ยนหนึ่งครั้ง เสื้อด้านในเปลี่ยนหนึ่งครั้งในทุก ๆ วันหยางเสว่พวกเธอจะต้องช่วยซักในทุก ๆ วัน ไม่ซักไม่ได้ หลังจากนี้ในทุกสัปดาห์จะซื้อให้เธอหนึ่งครั้ง”
“อ๊ะ...” ซูโหย่วซินกำลังตกตะลึงแล้ว “ไม่เอาค่ะ สิ้นเปลืองจะตาย...”
หยางเสว่พวกเธอนั้นอิจฉาจะตายอยู่แล้ว
พวกเธอเองก็หนึ่งหรือสองเดือนถึงจะสวมใส่เสื้อผ้ารองเท้าใหม่นะ โอเคไหม?
พี่เขยคนนี้ของซูโหย่วซินดีเกินไปแล้วหรือเปล่า?
ซ่งซานสี่กลับไม่เอ่ยอะไร ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำ
ย่อมมองเห็นทุกสิ่งที่ซูโหย่วซินเปลี่ยนออกทั้งหมดอยู่แล้ว มีกลิ่นหอมสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ของเด็กสาวจำพวกนั้น
แต่เสื้อผ้าวัสดุธรรมดาเหล่านี้น่ะ มันทำให้เขาทนมองไม่ได้เลยจริง ๆ
ซูโหย่วซินราวกับเจ้าหญิงน้อยเลยก็ไม่ปาน เสื้อผ้าเหล่านี้มันไม่เหมาะสม
เขาเปิดน้ำอุ่นใส่กะละมังน้ำซักที่สะอาดสะอ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกออกมา
“หยางเสว่ เอาล่ะ ไม่ต้องเป่าผมแล้ว พวกเธอทั้งหมดเข้าไปซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ โหย่วซินมาสิ นั่งลงเลย ล้างมือก่อนนะ พี่เขยจะทาครีมทาแผลเปื่อยให้เธอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก
อัพเดทหน่อยครับ...
อัพเดทหน่อยเถอะ...
อัพเดทตอนหน่อยครับแอด...