เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 51

เช้าของวันที่สาม

ซ่งซานสี่ลุกขึ้นมาจากเตียงตอนตีห้า แล้วออกจากบ้านไป

ขับรถเบนซ์มุ่งหน้าตรงไปยังถนนปินเจียง

นึกไม่ถึงเลยว่าซูโหย่วหรงก็โบกรถคันหนึ่ง แอบสะกดรอยตามอยู่ด้านหลัง

เนื่องจากมีวันหนึ่งซูโหย่วหรงลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนเช้า

แล้วพบว่าซ่งซานสี่หายไปจากบ้านตั้งแต่ตีห้า 15 นาที

ซึ่งเป็นอย่างนี้ติดต่อกันมาหลายวัน

แม้จะไปทำอาหารเช้าที่บ้านพี่สาว ก็ไม่จำเป็นต้องเช้าขนาดนี้หรือเปล่า? 

ซูโหย่วหรงกลัวจริง ๆ ว่าสาเหตุที่หมอนั่นตื่นเช้าขนาดนี้นั้น เพราะไปทำเรื่องร้าย ๆ อะไร

สรุปเธอก็ตามมาจนถึงถนนปินเจียง

พบว่าซ่งซานสี่จอดรถแล้วเริ่มวอร์มร่างกาย 

เธอไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่า

ไอ้คนล้างผลาญนั่น ผู้ที่ไม่เคยสู้ใครไหวนั่น

กำลังออกกำลังกายตอนเช้างั้นเหรอ?

ไม่นานนัก ก็มีรถตำรวจคันหนึ่งขับออกมาจากซอยฝั่งนั้น

รถตำรวจจอดลงข้างรถเบนซ์ของซ่งซานสี่

หลี่รุ่ยหยางเดินลงมาจากรถ

ชุดออกกำลังกายรัดรูปที่น่าหลงใหล พื้นดำลายชมพูเหมือนเคย

สูงโปร่ง หุ่นโค้งเว้าได้รูป

มัดผมหางม้า บุคลิกงดงามองอาจห้าวหาญ

ซูโหย่วหรงตะลึงจนเหม่อลอยไปแล้ว

ความรู้สึกหึงหวงผุดขึ้นมาทันที

พวกเขาสองคนออกกำลังกายตอนเช้าด้วยกันงั้นเหรอ?

ไอ้หมาซ่งซานสี่ แกถึงกับอ่อยหลี่รุ่ยหยางอย่างนั้นหรือ?

แต่ทว่าหลี่รุ่ยหยางกลับไม่เห็นซูโหย่วหรงที่กำลังซ่อมอยู่ในที่ลับ

ยืนอยู่ไม่ไกลจากซ่งซานสี่ และเริ่มวอร์มร่างกายด้วยใบหน้าที่เย็นชา

ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ พวกเขาทำแบบนี้มาโดยตลอด

หลี่รุ่ยหยางไม่พอใจ

เธอจะวิ่งไม่ไหวซ่งซานสี่ได้เหรอ?

สรุปตอนเช้าพกวเขาวิ่งหกกิโลเมตรติดต่อกันหลายวัน เธอล้วนช้ากว่านิดหนึ่งอยู่เสมอ 

ซ่งซานสี่อมยิ้มพลางหันหน้าไปพลางพูด: “เฮ้เพื่อน มาแล้วเหรอ?”

หลี่รุ่ยหยางพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เย็นชา ไม่ได้สนใจเขา

“คดีนั้นจบหรือยัง?”

หลี่รุ่ยหยางส่ายหน้า ไม่พูดอะไรและวอร์มร่างกายต่อ

“เอาเถอะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป สักวันมันก็จะจบเอง”

หลี่รุ่ยหยางยังคงไม่พูดอะไรอยู่เช่นเคย

ซูโหย่วหรงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ดูหมิ่นสามี

ประจบคนอื่นขนาดนั้น รู้สึกขายหน้าบ้างไหม?

ไม่นานนัก หลี่รุ่ยหยางก็วอร์มร่างกายเสร็จแล้ว

หน้าผากที่ใสเงา เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ พลางพูดอย่างเย็นชา: “ไอ้คนล้างผลาญ มาเริ่มกันเถอะ! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเช้านี้นายจะยังชนะฉันอีก?”

ซ่งซานสี่หงกหัวพลางพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง “แล้วถ้าเกิดฉันชนะล่ะ? มาเดิมพันกันหน่อยไหม? ถ้าแพ้ เธอต้องเลี้ยงอาหารเช้าคนทั้งครอบครัวฉัน?”

“เดิมพันบ้าอะไรล่ะ! นายเล่นแต่พนันอย่างเดียวเลยนะ! ต่อไป ถ้าให้ฉันเห็นว่านายยังเล่นพนันแล้วทำผิดต่อซูโหย่วหรงอีก ฉันจับนายเข้าตารางได้ทุกวินาทีเลย!”

ซ่งซานสี่หัวเราะ “จะไม่ทำอีกแล้ว การพนันระดับต่ำ ๆ แบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉันแสวงหา”

“ชิ! คำพูดของผู้ชายน่ะเชื่อไม่ได้หรอก! อย่าเก่งแต่ปาก! มา เตรียมตัว เริ่ม!”

พอสิ้นเสียง หลี่รุ่ยหยางก็พุ่งออกไป

ซ่งซานสี่รีบออกตัววิ่งไล่ตามไป

ซูโหย่วหรงที่ซ่อนอยู่ในที่ลับสะดุ้งเพราะความหนาวทีหนึ่ง

ตอนนี้ถึงจะนึกขึ้นมาได้ว่าวิ่งออกมาโดยที่อยู่ในชุดนอนกระโปรง หนาวจังเลย!

แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามาก

ดูท่าเจ้าหน้าที่หลี่ก็รู้เหมือนกันนี่ว่าเขาเป็นคนล้างผลาญ

ทั้งสองแค่แข่งขันกันเฉย ๆ

หัวใจเจ้าหน้าที่หลี่ก็ยังเข้าข้างซูโหย่วหรงอยู่

เป็นคนดีนะเนี่ย!

ซูโหย่วหรงรู้สึกพึงพอใจแล้ว จึงรีบต่อรถกลับบ้าน

แต่ทว่าเธอกำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าตัวเองก็ควรออกกำลังกายแล้ว

การรักษาหุ่นตอนถ่ายแบบเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก

เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะหาเวลาว่างตอนเที่ยง เพื่อไปซื้อชุดออกกำลังกายสักชุดสองชุด

ถึงตอนนั้นตอนเช้าค่อยออกไปวิ่งพร้อมเขา? 

ฝั่งนี้ หลี่รุ่ยหยางและซ่งซานสี่กำลังแข่งวิ่งหกกิโลเมตรกันอย่างดุเดือด

กำลังร่างกายของซ่งซานสี่ยิ่งอยู่ยิ่งดี ยิ่งอยู่ยิ่งชิลล์

ส่วนหลี่รุ่ยหยางนั้นหายใจหอบ

แต่ว่าเธอก็ทุ่มสุดกำลังสามารถแล้วเหมือนกัน 

ช่วงแรกของการวิ่ง ทั้งสองวิ่งเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกัน

รถที่แล่นผ่านไปมามีน้อยมาก ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย

เมื่อผู้คนที่กำลังขับรถมองเห็นหนุ่มหล่อสาวสวยคู่นั้นแล้ว จึงต่างรู้สึกสงสัยกันมาก 

ก่อนจะค่อย ๆ ลดความเร็วรถแล้วยื่นหัวออกไปจากหน้าต่าง พลางตะโกนพูดอย่างเป็นมิตร: 

“เฮ้ เพื่อน! พวกนายสามีภรรยานี่ตื่นเช้าจังเลยนะ!”

ซ่งซานสี่หลุดหัวเราะออกมาพลางโบกมือ

หลี่รุ่ยหยางรู้สึกตลกมาก

อันธพาลที่หยุดเรียนกลางคันตอนมัธยมปลาย เป็นคนล้างผลาญคนหนึ่ง เขายังสามารถผ่าตัดให้คนอื่นได้ด้วยเหรอ?

ปกติเป็นระยะทางที่ต้องขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง 

ซ่งซานสี่ซิ่งอย่างรวดเร็ว ฝ่าไฟแดงตามอำเภอใจ

สิบนาทีก็ไปถึงโรงพยาบาลประชาชนที่หนึ่งจงไห่ แล้ว

เวลานั้นพ่อแม่ของหลี่รุ่ยหยางรนมากจนเดินวนไปมา ต่างรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง 

อาหญิงเล็กเธอก็มาถึงแล้วเช่นกัน ร้อนรนมากจนน้ำตาไหลพราก

นายท่านหลี่ถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว 

แต่เปล่าประโยชน์ ทำได้แค่ให้เลือดเพื่อยื้อชีวิตเขาไว้ชั่วคราว 

ภายในสองชั่วโมงหากไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ ก็ทำได้เพียงรอความตายมาเยือนอย่างเดียว

ซ่งซานสี่และหลี่รุ่ยหยางวิ่งไปถึงหน้าห้องผ่าตัด 

ซ่งซานสี่กดกริ่งประตูโดยตรง บอกให้หมอพยาบาลที่อยู่ภายในเปิดประตู 

พ่อของหลี่รุ่ยหยาง หลี่เจิ้งกัง กวาดตามองเพียงรอบเดียวก็มองเห็นปัญหาแล้ว 

เงาหลังของชายหนุ่มที่อยู่ในชุดออกกำลังกายเหมือนลูกสาวดูทรงพลังมาก

เขาหันไปถามหลี่รุ่ยหยาง: “เขาคือใคร? หมอเหรอ?”

จุดโฟกัสของแม่หลี่และอาหญิงตระกูลหลี่ ต่างเพ่งมองไปทางซ่งซานสี่และหลี่รุ่ยหยาง

เหงื่อทั้งตัวของหลี่รุ่ยหยางยังไม่ทันแห้ง เธอปาดเหงื่อบนหน้าผากทีหนึ่ง “เขา……เพื่อนสมัยมัธยมปลายของหนูค่ะ เรียนแพทย์ เราเพิ่งวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าด้วยกัน เขาบอกว่าเขาสามารถทำการผ่าตัดได้ค่ะ”

“ว่ายังไงนะ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เจิ้งกังก็อึ้งทึ่งไปเลย

วิ่งเข้าไปกระชากไหล่ซ่งซานสี่ มองลองมองดูดี ๆ ใบหน้าเขาก็หม่นหมองลงไป

“นี่มันซ่งซานสี่ไม่ใช่เหรอ? แกจะผ่าตัดบ้าบออะไรได้ล่ะ? นี่มันสร้างเรื่องวุ่นวายอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

แม่หลี่เมิ่งฮุ่ยหลันอึ้งมาก: “ว๊าย! ใช่ไอ้คนล้างผลาญนั่นจริง ๆ ด้วย”

อาหญิงเล็กตระกูลหลี่ หลี่เจิ้งเหมยก็ตะลึงเช่นกัน “พระเจ้า! ไอ้เศษสวะตระกูลเหล่าซ่งนั่นเหรอ?”

พูดตามตรงเลยว่าในอดีตบิดาตระกูลซ่งเคยมีมิตรภาพต่อหลี่เจิ้งกังเล็กน้อยจริง ๆ

หลี่รุ่ยหยางรู้สึกปลงเล็กน้อย ในขณะที่กำลังจะอธิบายอะไรบางอย่างอยู่นั้น ซ่งซานสี่กลับอมยิ้มแล้วพูดว่า: 

“อาหลี่ ป้าเมิ่ง น้าเหมย เชื่อผมเถอะครับ! เวลานี้ไม่มีใครกล้าผ่าตัดเคสนี้หรอก ยกเว้นผม”

พอสิ้นเสียง ประตูห้องผ่าตัดก็ถูกเปิดออก 

ใบหน้าของหมอคนหนึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ “ขอโทษด้วยนะครับ ทางเราทำได้แค่พยายามยื้อชีวิตไว้ ทางญาติสามารถพบหน้าคนไข้เป็นครั้งสุดท้าย……”

ซ่งซานสี่มุดเข้าไปในห้องผ่าตัดโดยตรง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม: 

“เตรียมฆ่าเชื้อโรคปลอดเชื้อ ชุดผ่าตัดและพลาสมาทั้งหมดที่เข้ามาคุณปู่หลี่มาให้หมด!”

“ปอดเทียม เครื่องหมุนเวียนเลือดนอกร่างกาย เตรียมทุกอย่างให้พร้อม!”

“ผ่าตัดแบบชาครึ่งท่อนเท่านั้น ชาทั้งร่างกายไม่ได้!”

“ผมจะลงมีดภายใน 20 นาที!”

พอสิ้นเสียง ร่างเขาก็หายเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก