เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 419

ตอนที่ 419 ทริปท่องเที่ยวดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ในโลกแห่งความฝัน1

หวีหรูเจี๋ยคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น เหมือนกับว่าแค่ดีดนิ้วก็ผ่านไปหลายปีแล้ว......

“บางที โม่ในตอนนั้นก็คงได้รับอิทธิพลจากฉันไปล่ะมั้งนะ......” ในที่สุดหวีหรูเจี๋ยก็ยิ้มทั้งน้ำตา “ฉันนึกว่า เขาน่าจะเกลียดจนถึงกับว่าถ้าเห็นเปียโนก็จะพังมันซะอีก......”

“......” กู้ฮอนทอดถอนใจเงียบๆ เดินเข้ามานั่งข้างหวีหรูเจี๋ย ปลายนิ้วสั่นระริก กดไปตามท่วงทำนองของหวีหรูเจี๋ย กดตัวโน๊ตเสียงต่ำออกมา ยิ้มจืดๆ “ฉันคิดว่า เขาน่าจะทั้งเกลียดคุณ และในเวลาเดียวกันก็รักคุณมาก......”

มือทั้งคู่ของหวีหรูเจี๋ยสั่นระริก กดตัวโน๊ตผิดไปสองสามตัว

น้ำตารินไหลอาบแก้ม หวีหรูเจี๋ยฟุบอยู่บนเปียโน ร้องไห้โฮพูดอย่างไม่เป็นภาษา.......

“กู้ฮอน......ฉันเสียใจมาก.......ฮือๆๆ......ฉันเสียใจที่ในปีนั้นทำร้ายโม่ขนาดนั้น.......เสียดายที่สายไปแล้ว เขาคงจะไม่สามารถให้อภัยฉันได้ตลอดไป.......และจะไม่เรียกฉันว่าแม่อีกตลอดไปแล้ว......”

กู้ฮอนขอบตาแดงระเรื่อ ตบไปที่ไหล่ของหวีหรูเจี๋ยเบาๆ ไม่รู้ว่าควรจะปลอบเธออย่างไรดี

จู่ๆก็รู้สึกว่า จริงๆแล้วเป่หมิงโม่นั้นรักมารดาของเขามากๆ รักมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะเกลียดได้อย่างลึกล้ำขนาดนั้นได้อย่างไรกัน

ยิ่งรักอย่างลึกซึ้ง ก็เจ็บปวดอย่างแท้จริง เกลียดก็ยิ่งลึกล้ำ.......

คิดถึงคืนวันสิ้นปี เขาพึมพำประโยคนั้นข้างหูเธอ ‘ผมรักคุณ’ แท้จริงแล้วมันคือความจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่

ถ้าอย่างนั้นเป่หมิงโม่

เฟยเอ๋อของคุณล่ะ

คุณ.......ก็พูดคำนี้กับเธอเหมือนกันใช่หรือไม่

*

ฉิงฮัวมองแกรนด์เปียโนแกะสลักจากไม้สนแดงตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า อดไม่ได้ที่จะตะลึง

“คุณกู้เรียกผมขึ้นมา......คือต้องการให้ผมส่งเปียโนตัวนี้จากเมืองซาบาห์กลับเมืองAไปทางอากาศใช่ไหมครับ”

“แน่นอน! คุณป้าหวีหรูเจี๋ยมอบให้เลยนะ! ไม้สนสีแดงด้วย! แกะสลักอีก! ทั้งยังแกะสลักเป็นภาพหงส์ร่อนมังกรรำด้วย! ของชิ้นนี้ราคาไม่เบาเลยนะ!” หางคิ้วกู้ฮอนไม่ยกขึ้นเลยแม้แต่น้อย “ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นของที่คุณแม่ของเจ้านายคุณมอบให้ คุณว่ามันล้ำค่าหรือไม่ล้ำค่าล่ะ”

“เอ่อ......” ฉิงฮัวหนังศีรษะชาวาบอยู่บ้าง “ไม่ใช่ว่าผมไม่ยินยอม แต่ผมกลัวว่าเจ้านายจะอารมณ์ไม่ดี......”

“คุณว่าที่นี่ นอกจากเจ้านายโง่ของคุณแล้ว ยังมีใครอีกที่จะได้ใช้เปียโนตัวนี้”

“......” ฉิงฮัวส่ายหน้า

“อย่างนั้นก็จบแล้วไง!” เธอเอ่ยเสียงเด็ดขาด “ส่งกลับไป ฉันจะเก็บรักษาไว้ให้ก่อนชั่วคราว......อาจจะมีสักวันหนึ่งที่พวกเขาแม่ลูกปรับความเข้าใจให้อภัยกันได้ เปียโนตัวนี้ยังสามารถมีที่ให้มันแสดงความสามารถได้อยู่!”

“......” ฉิงฮัวมองอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ทำได้เพียงแค่ยินยอม

*

เป่หมิงโม่นั่งรออยู่ในรถตั้งนานแล้ว

หลังจากกู้ฮอนบอกลากับสามีภรรยาตระกูลโม้แล้ว ก็เข้ามานั่งในรถอย่างยิ้มกริ่ม

มองใบหน้ามึนตึงของเป่หมิงโม่่้ “เฮ้เป่หมิงโม่ ขอถามคุณอีกครั้งนะ สรุปว่าคุณโยนเพชรที่คุณป้าหวีหรูเจี๋ยรักเป็นอย่างมากทิ้งไปแล้วหรือยัง”

เป่หมิงโม่เหลือบมองเธอรอบหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างอารมณ์ไม่ดี ยังคงเอ่ยตอบสองคำด้วยน้ำเสียงเย็นชารังเกียจว่า “ทิ้งแล้ว!”

กู้ฮอนจุ๊ๆสองรอบ “คุณทำร้ายคนไม่เบาเลยจริงๆ ทำร้ายฉันชั่วชีวิตนี้ให้ต้องติดค้างคุณป้าหวีหรูเจี๋ย......”

เขาเลิกคิ้ว

เธอเอ่ยต่อไปว่า “แต่ว่าช่างมันเถอะ! อย่างไรก็เป็นลูกชายของตัวเองที่โยนทิ้งไป ดังนั้นคุณป้าหวีหรูเจี๋ยคงไม่เอาความอะไรกับฉันหรอก!”

เธอลากเขาไปเดินที่มัสยิดลอยน้ำ ซึมซับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลาม

ฉิงฮัวรับหน้าที่เป็นช่างถ่ายภาพประจำตัว เก็บภาพบันทึกความหวานซึ้งของพวกเขาไม่หยุด

“ฉิงฮัว รีบมาถ่ายรูปให้พวกเราเร็วเข้า!” เธอคล้องแขนเป่หมิงโม่อย่างใกล้ชิด “ฉันต้องการวิวทิวทัศน์ทั้งหมดของมัสยิดลอยน้ำแห่งนี้นะ!”

แชะ

ในเลนส์กล้อง เธอยิ้มแย้มแจ่มใส ทว่าเป่หมิงโม่กลับมีใบหน้าแข็งทื่อหล่อเหลาราวกับเป็นอัมพาต เพียงแต่ว่า มุมปากของเขามีร่องรอยยกขึ้นบางๆ

พวกเขาเดินผ่านตรอกซอกซอยเล็กน้อยของเขตโคตาคินาบาลู เพลิดเพลินไปกับของกินขึ้นชื่อของมาเลเซียหลากหลายชนิดที่อยู่เบื้องหน้าจนลืมกลับบ้าน

“เป่หมิงคนโง่ คุณรู้หรือไม่ว่า ร่างกายมีบาดแผล กินอาหารทะเลจะมีอาการแพ้นะ!”

“ไม่สน ผมอยากให้คุณป้อน(เสียงพ้องกับคำว่า ฮัลโหล/สวัสดี ในภาษาจีน)!”

“ฮัลโหลๆๆ(เสียงพ้องกับคำว่า ป้อน ในภาษาจีน)!”

“ไม่ใช่ให้คุณเรียก ต้องการให้คุณ......” พูดไป ก็ครอบครองริมฝีปากของเธออย่างกะทันหัน จูบกลางถนน “ป้อนแบบนี้......”

แชะ

ฉิงฮัวรีบจับภาพที่ทำให้ผู้คนหน้าแดงในชั่ววินาที

ผ่านไปชั่วครู่ เธอผลักเขาออกอย่างแรง ใบหน้าแดงก่ำอย่างโมโห แต่ก็ไม่กล้ามองสบสายตาผู้คนที่เดินไปมาบนถนนมองมา

“เป่หมิงโม่ คุณกินเต้าหู้(กินเต้าหู้ แต๊ะอั๋ง ลวนลาม)ฉันอีกแล้ว! มีการป้อนแบบนี้ที่ไหนกัน!”

เขากลับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสัพยอก “ดูคุณสิ ใบหน้ารูปไข่แดงก่ำราวกับกุ้งต้มสุก ถึงแม้ว่ากินแล้วจะมีอาการแพ้ ผมก็อยากจะกินแล้วกินอีก......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ