ตอนที่ 56 กลุ่มคนไร้สมอง2
เป่หมิงโม่เหลือบมองเธอครู่หนึ่ง ปากเขาพ่นควันออกมาเบาๆ และถามอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ไหนมา”
ดวงตากู้ฮอนเศร้า เธอหมุนตัวกลับ เปลี่ยนรองเท้าพร้อมกับตอบกลับไป “กลับบ้านมาค่ะ ไปหาแม่”
ที่จริงแล้ว วันนี้เรื่องที่พ่อมาหาอย่างกะทันหัน ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า
ในสายตาของพ่อแล้ว นอกจากเธอจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว และถ้าระหว่างเธอกับกู้อันขี พ่อจะให้เธอเป็นคนเสียสละก่อนเสมอ……
เธอไม่ได้รู้สึกเสียใจแล้ว ถึงยังไงมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
แค่เพียงทำไม ในใจก็ยังรู้สึกหดหู่อยู่ดี
“กินหรือยัง” เธอพยายามยิ้มให้เขา “ไม่งั้นฉันไปต้มมาม่านะ……”
เธอเพิ่งจะพูดจบ
ทันใดร่างของเขาก็หันกลับมา เขาหักบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่
จากนั้น เสียงหนาราวกับเสียงเชลโล่ก็ดังออกมา และยังคงเย็นชาเหมือนเดิม——
“ไม่ต้อง ฉันจะพาไปกินข้าวนอกบ้าน”
*
บาร์ Zeus.
กู้ฮอนนึกไม่ถึงว่าเป่หมิงโม่จะพาเธอมาทานข้าวเย็นที่บาร์เหล้า
จริงๆแล้วเธอคิดว่ามาที่นี่คงจะได้กินของไม่ได้กินของอร่อยเท่ากับที่บ้าน
เธอทำหน้ามุ่ย เธอทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว ต้องทำตามคำสั่งเขาทุกอย่าง สุดท้ายเธอก็ก้าวเข้ามาในบาร์ด้วยความคับแค้นใจ
บาร์ตกแต่งสวย และคนเยอะมาก
ไม่เหมือนโกล์วไนท์คลับที่เธอไปเมื่อครั้งก่อนคือ ที่นี่ไม่มีสาวนั่งดริ้ง และไม่มีผู้หญิงขายบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มสาวจากหลายระดับ มีทั้งมาดื่มเพื่อกระชับมิตรภาพ มีทั้งดื่มให้ลืมความทุกข์
อ้าว ยินดีต้อนรับคุณชายเป่หมิง เป็นเกียรติกับร้านเล็กๆของเราจริงๆครับ” คนที่พูดเป็นคนหน้าตาดี เป็นชายหนุ่มที่แต่งตัวอย่างมีสไตล์ ป่ายมู่ซี ลูกชายของบริษัทตระกูลป่าย และเป็นเจ้าของบาร์ Zeus.
เหมือนกับชูสองของชูหยุนเฟิง ป่ายมู่ซี ก็เป็นลูกชายคนที่สองของบริษัทตระกูลป่าย รวมเป่หมิงโม่เข้าไป ทั้งสามคนนี้เป็นเหมือนกลุ่มคนไร้สมอง
เป่หมิงโม่ที่ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมนั่งวีลแชร์เข้าบาร์ จึงให้กู้ฮอนมาเป็นไม้เท้าของเขาแทน แขนขา เนื้อหนังที่สัมผัสกัน ทำให้กู้ฮอนหน้าแดงและหัวใจเต้นแรง…...
ป่ายมู่ซี มองกู้ฮอนที่อยู่ในแขนของเป่หมิงโม่ เขามีสีหน้าประหลาดใจแวบหนึ่ง
ใบหน้าเย็นชา เป่หมิงโม่เหลือบมองป่ายมู่ซี ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า “ เอาอาหารที่กินแล้วอิ่มมาให้เธอที่หนึ่ง ฉันเอาเหมือนเดิม”
จากนั้น โอบไหล่ของกู้ฮอนแน่น แล้วเดินไปห้องVIP
ป่ายมู่ซี ถูกเป่หมิงสองเมินใส่จนชินแล้ว เขามองบนแล้วเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ “เป่หมิงสอง เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุ ไม่กี่วันก็พาผู้หญิงมาดื่มเหล้าแล้ว ไม่กลัวพี่สะใภ้โกรธเอาหรือ”
คำว่า พี่สะใภ้
ทำให้ฝีเท้าของเป่หมิงโม่หยุดชะงัก
ทำให้หัวใจกู้ฮอนสั่นเล็กน้อย
“ ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ” เป่หมิงโม่ทำเสียงโกธ โอบกู้ฮอนแล้วเดินต่อไป
จากนั้น เธอหยิบไวน์แดงขึ้นมาจิบอีกครั้ง
เหล้าเย็นๆที่ไหลผ่านลำคอของ เข้าไปในร่างกายของเธอ……
อืม รู้สึกสบายจริงๆ
เธอหัวเราะอย่างพึงพอใจ “ฮาฮา เป่หมิงสองของพวกนาย ไม่ได้ไม่ต้องการเป่ยใต้เอ๋อเพราะฉันหรอกนะ……”
ป่ายมู่ซี เลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปาก “อ๋อ เป่หมิงสองเจ้าคนนั้นใช้เธอเพื่อกำจัดเป่ยใต้เอ๋อหรือ โถ่ๆ ไม่มีความเป็นมนุษย์เลย เป่หมิงสองทำไมนายถึงกล้าตัดใจเอาผู้หญิงสวยน่ารักอย่างฮอนฮอนไปเป็นเป้าของคนอื่นอย่างนี้นะ”
พูดจบ ป่ายมู่ซี มองเป่หมิงโม่อย่างมีความหมาย
กู้ฮอนไม่เข้าใจคำพูดที่แฝงความหมายของป่ายมู่ซี กินนี้นะ”
พูดจบ ป่ายมู่ซี มองเป่หมิงโม่อย่างมีความหมาย
กู้ฮอนไม่เข้าใจคำพูดที่แฝงความหมายของป่ายมู่ซี กินสเต๊กอีกคำหนึ่งพร้อมกับจิบไวน์แดงดึงอึกๆ
เธอจิบไวน์ พลางพยักหน้าเห็นด้วยกับป่ายมู่ซี อย่างรีบร้อน เธอพูดอย่างไม่ค่อยชัดเจน “ใช่แล้ว ไม่มีความเป็นมนุษย์เลย……”
กู้ฮอนพูดไปด้วย และดื่มไวน์แดงอึกใหญ่ไปด้วย
ป่ายมู่ซี มองใบหน้าของกู้ฮอนที่แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ หัวเราะแบบคนที่ไม่คิดอะไรมาก
ขนตางอนเริ่มกะพริบด้วยความพร่ามัว ดวงตาสีดำสดใส ดวงตาที่ใสแจ๋วเหมือนน้ำ……เริ่มมองเห็นไม่ชัด
ไม่รู้ว่าทำไม เขามองเธอแค่ไม่กี่วินาที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ