สำนักหมอหลวงมีเหตุต้องวุ่นวาย เมื่อหมอหลวงทั้งหมดถูกเรียกตัวไปยังพระตำหนักฤดูร้อนพร้อมกับยาทุกขนานที่สามารถหาได้ เนื่องจากฮ่องเต้มีพระอาการเจ็บพระอุระและล้มลงขณะเดินเล่นอยู่ในสวนกับสือกุ้ยเฟย หากมิใช่เพราะพระชายาคนโปรดเอาร่างเข้ารับองค์ฮ่องเต้ไว้ เกรงว่าพระเศียรอาจกระแทกกับพื้นหินจนเป็นอันตรายถึงพระชนม์ชีพ
“นังสารเลว!” ฮองเฮาตบหน้าสือกุ้ยเฟยเต็มแรงจนล้มลง “เจ้าดูแลฝ่าบาทเช่นไร จึงปล่อยให้พระองค์ล้มลงได้!”
“หม่อมฉัน...”
“ไม่ต้องมาเถียงข้า! เด็ก ๆ จับตัวสือกุ้ยเฟยไว้ ลากไปโบยห้าสิบไม้ โทษฐานที่ทำให้ฝ่าบาททรงเป็นอันตราย!”
“ฮองเฮาเพคะ ทำเช่นนี้มิถูกต้อง จะทรงลงทัณฑ์สือกุ้ยเฟยที่ปราศจากความผิดมิได้” ฝูซิ่นฮวาก้าวมาขวางหน้าสือกุ้ยเฟย ด้วยฐานะและอำนาจทางการทหารในมือนาง ทำให้ขันทีชั้นผู้น้อยที่ติดตามฮองเฮาไม่กล้าลงมือ
“ฝูซิ่นฮวา! แม้บัดนี้เจ้าจะเป็นชายาอ๋อง แต่ข้าเป็นถึงฮองเฮา เจ้ากล้าขวางข้าเชียวรึ!” ฮองเฮาชี้นิ้วไปยังฝูซิ่นฮวา เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความโมโห
“หม่อมฉันมิอาจปล่อยให้ฮองเฮาลงโทษสือกุ้ยเฟยโดยที่พระนางไม่มีความผิด”
ฮองเฮากริ้วจนหน้าแดงก่ำ กระทืบเท้าเร่า ๆ ก่อนตะโกนสั่งการ
“จับตัวฝูซิ่นฮวา!”
แม้ได้ยินคำสั่งชัดเจน แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าลงมือ
“ข้าสั่ง ไยจึงไม่ทำตามคำสั่งข้า!”
เหล่าขันทีต่างก้มหน้านิ่ง เพียงแค่เห็นองครักษ์หญิงสองคนของฝูซิ่นฮวาจับด้ามกระบี่เตรียมพร้อมชักออกจากฝักได้ทุกเมื่อ พวกเขาก็แทบอยากจะก้าวถอยหลังหนีไปจากที่นี่แล้ว
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้า เช่นนั้นข้าจะจัดการนางเอง!” ฮองเฮาเงื้อฝ่ามือขึ้น ฝูซิ่นฮวายืนนิ่งอยู่กับที่ ในขณะที่องครักษ์ของนางชักกระบี่ออกจากฝัก
ฮองเฮาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น จินเกาหยางใช้วิชาตัวเบาพุ่งมาคว้าข้อมือของนางไว้ ทั้งยังบีบแน่นจนฮองเฮาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หากแม้ฝ่ามือของเจ้าสัมผัสถูกใบหน้าชายาข้าแม้แต่น้อย ข้าจะตัดมือเจ้าทิ้งเสีย!” จินเกาหยางขู่เสียงเหี้ยม
“บังอาจ! ข้าเป็นฮองเฮานะ”
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร หากกล้าแตะต้องชายาข้า เราได้เห็นดีกันแน่!” จินเกาหยางสะบัดมือฮองเฮาออก จนร่างของนางเซถลาไปตามแรง
“พวกเจ้าคิดจะรวมหัวกันรังแกข้าใช่ไหม!” ผู้มีศักดิ์เป็นถึงมารดาของแผ่นดินชี้นิ้วพร้อมกับแผดเสียงอย่างเกรี้ยวกราด
“พอได้แล้วฮองเฮา!” ไทเฮาเสด็จเข้ามาห้าม
“ไทเฮาเพคะ คนพวกนี้รังแกหม่อมฉัน!” ฮองเฮารีบกราบทูล
ไม่นานก็เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าฮ่องเต้ประชวรหนักด้วยโรคที่เกี่ยวกับพระหทัย และได้มอบหมายภาระหน้าที่ทั้งหมดให้เว่ยหยางอ๋องเป็นผู้ดูแล ขุนนางน้อยใหญ่หลายคนเริ่มกระวนกระวายใจ ด้วยเกรงว่าเว่ยหยางอ๋องจะถือโอกาสนี้ยึดอำนาจจากฮ่องเต้
“เราจะรอช้าไม่ได้แล้ว!” จงหุยกล่าวปลุกระดมขุนนางทั้งหลาย “เว่ยหยางอ๋องต้องใช้โอกาสนี้เล่นงานองค์ฮ่องเต้เป็นแน่ พวกเราต้องรีบลงมือ!”
“ท่านเสนาบดีต้องการให้พวกเราทำสิ่งใดก็เร่งสั่งการมาเถิด เพื่อปกป้องฝ่าบาทแล้ว แม้ต้องพลีชีพพวกข้าก็หาได้เกรงกลัว”
“ยามนี้เว่ยหยางอ๋องและหมิงยู่โหวอยู่ที่พระตำหนักฤดูร้อนกับฮ่องเต้ ไร้กองกำลังใดคอยคุ้มกัน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การลงมือที่สุด ขอให้พวกท่านนำกองกำลังทหารเข้าล้อมพระตำหนักฤดูร้อนเพื่อควบคุมตัวเว่ยหยางอ๋องและคอยอารักขาฝ่าบาทกับไทเฮา”
“แล้วท่านเล่า”
“ข้าจะคอยควบคุมสถานการณ์ในเมืองหลวงไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และจะคอยเป็นกองหนุนให้พวกท่าน”
“...”
“ยามนี้ต้องพึ่งพวกท่านแล้ว”
จงหุยประสานมือ ขุนนางคนอื่นต่างประสานมือตอบ สีหน้าท่าทางมุ่งมั่นดุดัน เสนาบดีโฉดลอบยิ้มในใจ ยามที่เหล่าขุนนางอื่นเข้าควบคุมตัวจินเกาหยางและฝูซิ่นฮวา เขาก็จะมีตัวประกันเพื่อไม่ให้ฝูซิ่นเล่อและทหารทัพไป๋หู่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ในขณะที่ตัวเขาเข้ายึดอำนาจในเมืองหลวงด้วยกองกำลังที่เสวียนชิวมอบให้
ถึงคราวที่เขาจะได้เป็นมากกว่าเสนาบดีชราเสียที!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ