“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมบริษัทถึงให้ฉันเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ที่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เป็นแค่ธุรกิจเล็ก ๆ ของเมืองที่ยังไม่เจริญ” ไป๋โร่วหนิงบ่น
“รถยนต์ สินค้าฟุ่มเฟือย หรือแม้แต่ผ้าอนามัยก็ยังดีกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวนี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีแต่คนแก่ใช้เท่านั้น”
“เอาล่ะ ไม่ต้องบ่นแล้ว เพื่ออะไร? แน่นอนว่าเพื่อเงิน หรือจะทำเพื่อการกุศลล่ะ? ประธานเหอของเล่อซางมีเดียให้ความสำคัญกับการร่วมมือทำงานคราวนี้มาก ดังนั้นค่าพรีเซนเตอร์ครั้งนี้จึงสูงกว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ มาก”
“และจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ โฆษณานี้อาจออกอากาศช่อง CCTVและสถานีโทรทัศน์ยอดนิยมหลายสถานีพร้อมกัน เมื่อถึงเวลานั้น โฆษณาของคุณจะอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกคนจะต้องจำชื่อไป๋โร่วหนิงได้” ดังนั้น คุณไป๋ อย่าดัดจริตอีกเลย” จี้หลันกล่าว
ถึงแม้ว่าไป๋โร่วหนิงจะเป็นดารามาสองปีแล้ว และตอนนี้ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่เธอถึงจุดที่หยุดชะงักแล้ว อยากจะก้าวไปสู่อีกระดับแต่ไม่สามารถทำได้
หากข่าวลือเป็นจริง โฆษณานี้จะทำให้เธอได้รับความนิยมจากประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางแห่งดวงดาวในอนาคตเป็นอย่างมากแน่นอน
“ฉันรู้แล้ว พี่หลันทำเพื่อฉัน แต่คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบการปฏิสัมพันธ์ในสังคมเหล่านั้น ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้มาก่อน ฉันคิดว่าเจ้าของน่าจะเป็นเศรษฐีใหม่”
“ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเป็นเศรษฐีใหม่หรือเปล่า? มันเป็นแค่การพบปะเพื่อทานอาหารเท่านั้น คุณเป็นดารามาสองปีแล้ว ได้เจอคนมากมาย คุณน่าจะคุ้นชินแล้ว ขอเพียงแค่ไม่แตะต้องเส้นตายก็พอแล้ว” จี้หลันกล่าว
“โอเค วางแผนงานเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” ไป๋โร่วหนิงมุ่ยปาก
“เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ที่หอตี้หวาง จำไว้เอาแต่งตัวดี ๆ ควบคุมอารมณ์ตนเองหน่อย และอย่าทำให้เรื่องมันพัง” จี้หลันกำชับ
“คุณไม่ไปกับฉันเหรอ?” ไป๋โร่วหนิงเอ่ยถาม
“สภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีอาจจะส่งผลต่อนิสัยใจคอและการกระทำของคนที่อยู่อาศัย มีพี่หลันอยู่ด้วย ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็สามารถจัดการได้ทันท่วงที และทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น”
“ตอนนี้คุณเป็นดาราดังแล้ว ไม่ใช่ดาราระดับสาม พวกเขาอยากจะประจบคุณจนแทบไม่ทัน แล้วยังมีอะไรต้องกังวลอีกล่ะ?”
จี้หลันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อไปว่า “ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะไปกับคุณด้วย”
“ขอบคุณ พี่หลัน” ไป๋โร่วหนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
การที่เหอกวงจี๋ให้ไป๋โร่วหนิงไปพบเซียวชุ่นนั้นเป็นเพราะเขาอยากจะประจบเซียวชุ่น
ตอนนั้นเขาเสนอว่าเล่อซางมีเดียจะเป็นฝ่ายแบกรับค่าโฆษณา แต่เซียวชุ่น ปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนวิธีการ
ดาราสาวที่นิสัยเย่อหยิ่งและสวยอย่างไป๋โร่วหนิง น่าจะเป็นเป้าหมายที่ผู้ชายทุกคนอยากพิชิต ส่วนจะสามารถพิชิตได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเซียวชุ่น
ตอนที่เซียวชุ่นได้รับคำเชิญจากเหอกวงจี๋ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
วันนี้ตนเองเพิ่งถูกไป๋โร่วหนิงตบหน้า ดังนั้นวันพรุ่งนี้พบหน้ากันน่าจะรู้สึกอึดอัดมาก
แต่หลังจากคิดไตร่ตรองแล้ว พบหน้าแล้วจะได้อธิบายให้มันชัดเจน มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเขาก็เลยรับปาก
ณ.จิ่นซิ่วกั๋วจี้
เดิมทีเหยาเสินจองร้านอาหารไว้ เพราะเย็นนี้วางแผนว่าจะไปทานข้าวนอกบ้าน แต่ช่วงนี้เหยาเจี้ยนกั๋วและภรรยาทานข้าวนอกบ้านตลอด จนพวกเขารู้สึกเลี่ยนแล้ว เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน จึงอยากจะทำอาหารทานเอง ดังนั้นพวกเขาจึงให้เหยาเสินยกเลิกโต๊ะที่จองเอาไว้
เซียวชุ่นเล่นหมากรุกกับเหยาเจี้ยนกั๋วอยู่ในห้องรับแขก ขณะที่หลิวหยุนเซียงกำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัว
ฉากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสถานะทางครอบครัวของเซียวชุ่นได้ก้าวกระโดดแล้ว
ตอนเย็นเมื่อเหยาเสินกลับมาถึงบ้านแล้ว เธอถือขาหมูกลับมาสองขา
“คุณแม่ หนูซื้อขาหมูมาสองชิ้น คุณแม่ช่วยจัดการหน่อย ทำขาหมูตุ๋นน้ำแดงน่ะ”
หลิวหยุนเซียงเหลือบมองเธอด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ไม่สนใจเธอ เพราะยังโกรธเธออยู่
ห้องครัวของวิลล่าเป็นครัวแบบเปิด เหยาเสินวางขาหมูบนเคาน์เตอร์ครัวแล้วเดินไปที่ห้องรับแขก ยืนอยู่ข้างหลังเหยาเจี้ยนกั๋วและหันหน้าไปทางเซียวชุ่น
เธอเอามือกอดอก มองผิวเผินแล้วเหมือนกำลังดูพวกเขาสองคนเล่นหมากรุก แต่ดวงตาสวยงามของเธอจ้องเซียวชุ่นอย่างมีความหมาย
“คุณกลับมาแล้วเหรอ?” เมื่อเซียวชุ่นสังเกตเห็น จึงกล่าวทักทายเธอ
“อืม ฉันซื้อขาหมูมาสองชิ้น อีกสักครู่คุณแม่จะทำขาหมูตุ๋นน้ำแดง เพื่อบำรุงร่างกายคุณ” เหยาเสินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วยิ้มบาง ๆ
ซ่งหยุนรู้จักแขกของเรือนโบตั๋นดูเหมือนว่าดาราดังอย่างไป๋โร่วหนิงจะเป็นแขกของห้องส่วนตัวห้องนั้น และเขาเห็นข่าวที่สนามบินเมื่อวานนี้แล้ว เซียวชุ่นเพิ่งลวนลามเธอ วันนี้ก็นัดพบกันแล้ว พี่เซียวนี่.....ช่างรวดเร็วจริง ๆ
แต่เขาไม่ได้เปิดเผย พวกเขาล้วนเป็นผู้ชาย ซึ่งสามารถเข้าใจได้
“แขกของพี่เซียวยังมาไม่ถึง ไปนั่งที่ห้องทำงานของผมก่อนดีไหม? ผมมีชาดี มิฉะนั้นคุณอยู่ในห้องคนเดียวมันก็จะน่าเบื่อ เมื่อแขกมาถึงแล้ว ผมจะให้พนักงานต้อนรับโทรเรียกพวกเรา”
ซ่งหยุนกล่าวกับเซียวชุ่น หลังจากเขายืนยันกับแผนกต้อนรับแล้วว่าไป๋โร่วหนิงยังไม่มาถึง
“โอเค” เซียวชุ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตกลง
ทั้งสองคนดื่มชายังไม่หมดหนึ่งกา ก็ได้รับโทรศัพท์จากแผนกต้อนรับบอกว่าแขกมาถึงแล้ว
ซ่งหยุนและเซียวชุ่นเดินไปที่เรือนโบตั๋น และตอนที่พวกเขาเดินไปถึงประตูห้อง พวกเขาก็ได้ยินเสียงแหลม ๆ
สีหน้าของซ่งหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้นกับแขก
หอตี้หวางให้ความสำคัญกับการบริโภคระดับสูงเสมอมา และไป๋โร่วหนิงก็เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นชื่อเสียงของเธอจะถูกทำลายเพราะที่นี่ไม่ได้
เขาเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผลักประตูออก แล้วเห็นพนักงานบริการหญิงคุกเข่าอยู่บนพื้น ผมของเธอกระเซอกระเซิง หน้าของเธอแดงและบวม และเธอกำลังกล่าวขอโทษอย่างต่อเนื่อง
ด้านข้างเป็นผู้หญิงวัยสามสิบกว่า สวมแว่นตาขอบแดงและสีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห เธอเอามือเท้าสะเอว ด่าพนักงานหญิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส “คุณรู้หรือไม่ว่าชุดของพวกเราราคาเท่าไร? สามแสนเชียวน่ะ เงินเดือนทั้งปีของคุณก็ซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณทำงานสะเพร่ามาก?!
เพี๊ยะ!
เธอตบไปที่หน้าของพนักงานบริการอีกครั้ง
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันไม่ทันระวัง มันเป็นความผิดของฉันเอง คุณไป๋ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายอย่างแน่นอน”
พนักงานบริการจับหน้าตนเองแล้วร้องไห้ขอโทษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...