คนแนะนำสินค้าอึ้งไปเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้น : “คุณผู้ชายแน่ใจใช่ไหมคะ?”
เธอเห็นคนที่มาด้วยกันกับเซียวชุ่นดูเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา ถ้าหากอยู่ในเวลาปกติ เธออาจจะขี้เกียจสนใจเขาเสียด้วยซ้ำ
อำเภอฉีถึงแม้ว่าจะพูดว่าการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเป็นไปได้ไม่เลวเลยนั้น แต่การที่จะขายแหวนเพชรในราคาสามล้านกว่าออกไปได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากเสียยิ่งกว่าการปีนขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก
และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครู่นี้ได้ยินคนที่มาด้วยกันกับเขาวิจารณ์เขาแล้ว ตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าคนๆนี้ทั้งน่าสงสารและตลกมากเสียจริงๆ
“เอาล่ะ พี่เซียว อย่าไปหยอกสาวน้อยคนนี้เลย เธอยังต้องทำงานอีก แล้วอีกอย่างพี่เสินก็ยังอยู่ข้างๆด้วย พี่พูดจาแทะโลมเธอแบบนี้ ไม่กลัวว่ากลับไปคุกเข่าบนกระดานซักผ้าเหรอ?”เซียวโจหยอกล้อ
เขาไม่มีทางเชื่อว่าว่าคนที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลหลิวจะสามารถหยิบเงินสามล้านออกมาได้
“ถ้าหากนายสามารถซื้อแหวนเพชรวงละสามล้านได้ ฉันจะแก้ผ้าวิ่งในศูนย์การค้านี้เลย”หลิวม่านชิงเบะปาก แล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เหยียดหยาม
หลิวเมี่ยวเจินปิดปากหัวเราะ : “นี่พี่เขย พี่ก็หยอกกันเกินไปแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเกินหนึ่งหมื่นหรือเปล่า?”
เซียวชุ่นคลำบัตรธนาคารตรงหน้าอกแล้วโยนลงบนเคาน์เตอร์ แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเลี่ยงปัญหาสำคัญสองคำว่า : “รูดบัตร”
เหยาเสินนั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าที่ประณีตงดงามสงบนิ่งมาก
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบที่ไปเปรียบเทียบกับพวกเธอ แต่เธอก็ยังมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองอยู่ ถูกคนดูถูกอยู่ตลอดแบบนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้เซียวชุ่นออกมาตอกหน้าพวกเขากลับ ก็นับว่าสมกับที่คิดเอาไว้แล้ว
คนอื่นๆทั้งสามคนเห็นท่าทางสงบนิ่งของเซียวชุ่นกับเหยาเสินแล้ว ในใจก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาบ้างทันที
คนแนะนำสินค้าคนนั้นเองก็มีความรู้สึกเดียวกัน หยิบบัตรธนาคารขึ้นมาอย่างลังเล มองเซียวชุ่นพลางเอ่ยขึ้น : “คุณผู้ชายคะ คุณแน่ใจว่าจะซื้อ โดยไม่แม้แต่จะลองสวมดูหน่อยเหรอคะ?”
“ไม่จำเป็น”เซียวชุ่นเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางปกติ
คนแนะนำสินค้าหยิบเครื่องชำระเงินออกมาอย่างจริงจัง รูดบัตรผ่านเครื่องชำระเงิน ดวงตาของเธอเห็นตรงๆ ไม่คิดว่าจะรูดออกมาได้แล้วจริงๆ!
พวกเซียวโจทั้งสามคนจ้องมองฉากนี้อย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่สังเกตเห็นอาการของหญิงสาวแล้ว พวกเขาขมวดคิ้วโดยไม่ได้นัดกัน ในใจมีความคิดผุดขึ้นมาในขณะเดียวกัน
คนไร้ประโยชน์นี่จะมีเงินสามล้านจริงๆหรือ เป็นไปได้อย่างไรกัน?
“คุณผู้ชายคะ นี่บัตรของคุณค่ะ หลังจากนี้สองวันคุณสามารถมารับสินค้าที่ร้านได้เลยนะคะ” หญิงสาวที่แนะนะสินค้ายื่นบัตรธนาคารส่งให้อย่างนอบน้อม
เปรี้ยง!
พวกเซียวโจทั้งสามคนรู้สึกมึนงงขึ้นมาทันที นี่มันเป็นไปไม่ได้!
แต่หญิงสาวที่แนะนำสินค้าคนนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสาเหตุมาช่วยเซียวชุ่นพูดโกหก นี่จะมีข้อดีอะไรต่อเธอกัน
พักหนึ่ง หลิวม่านเซียงก็ดึงสติกลับมา แล้วส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆ
เธอมองเหยาเสินด้วยความรู้สึกโกรธ : “พี่ ต้องขนาดนี้เลยเหรอ? เพื่อเป็นการกู้หน้า จงใจให้เงินเซียวชุ่น ให้เขาเล่นกับพวกเราแบบนี้ เล่นซะพวกเรารับมือไม่ทัน? เป็นแผนการที่ดีนี่ ล้วนแต่เป็นญาติตัวเองทั้งนั้น เอารัดเอาเปรียบกันแบบนี้ จำเป็นด้วยเหรอ? เขาเป็นคนไร้ประโยชน์คนนึงคุ้มค่าพอที่จะให้พี่มาปกป้องเขาแบบนี้ไหม?”
เหยาเสินโมโหเสียจนต้องหัวเราะออกมาทันที แทนที่จะยอมรับแต่กลับย้อนเล่นงานคนอื่นแบบนี้ไปเรียนรู้จากใครมากัน? ศิษย์พี่รองอย่างนั้นใช่ไหม?
“เรื่องที่เธอบอกว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนพูดออกมาเองนะ? ฉันให้เธอไปเดิมพันกับเขาอย่างนั้นเหรอ?”
หลิวม่านเซียงพูดไม่ออกขึ้นมาทันที สำลักเสียจนหน้าแดงไปหมด หลังจากที่ถลึงตามองเซียวชุ่นกับเหยาเสินอย่างรุนแรงแล้ว ก็เดินสะบัดมือออกไปด้วยความโมโห
ทิ้งไว้เพียงแค่เซียวโจกับหลิวเมี่ยวเจินที่รู้สึกขายหน้าเสียจนหน้าซีดเช่นกัน
หลิวเมี่ยวเจินมองดูแหวนเพชรที่ราคาไม่ถึงสองแสนบนมือตัวเองแล้วดูเหมือนกับว่าความแวววาวหายไปแล้ว
สองแสน กับสามล้าน ช่างแตกต่างกันมากเกินไปแล้ว
“สามล้านเลยนะ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเราจะมีเงินแต่ก็ไม่สามารถใช้แบบนี้ได้นะ”หลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง เหยาเสินก็ทอดถอนใจออกมา
“สิ่งของนอกกายช่างมันเถอะ เพียงแค่คุณดีใจ เงินก็ไม่นับว่าเท่าไหร่หรอก”
“อ่อ ใช่เหรอ? ฉันจำได้ไม่ใช่คุณเคยบอกกับฉันว่าเอาเงินออมส่วนตัวให้ฉันทั้งหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วสามล้านนี่มาจากไหนกัน?”เหยาเสินยิ้มพลางเอ่ยถาม
บ้าจริง หลุดมาอีกแล้ว!
“ที่รัก นี่เพลงอะไรน่ะ เพราะจัง.....”
........
สองสามวันต่อจากนั้นคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลหลิวก็คึกคักมีชีวิตชีวามาก
การเชิดสิงโต การแสดงเต้นรำหมุนเวียนกันขึ้นไปแสดงบนเวที ครอบครัวของเหยาเสินหากไม่หลบอยู่ในโรงแรมหาความเงียบสงบก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วจู่ๆก็พบว่าการมาก่อนล่วงหน้านั้นไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนัก สู้อยู่ในบ้านสบายใจยิ่งกว่า
ในที่สุดก็ข้ามผ่านมาจนถึงวันเกิดวันที่สามสิบเดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติ
หลิวหมิงต๋าอายุยืนครบเก้าสิบปี นับว่าเป็นผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง วันนี้คนที่มาร่วมงานวันเกิดนั้นขวักไขว่ไปมาอย่างไม่ขาดสาย ในนั้นมีคหบดีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และผู้มีอำนาจอีกด้วย
งานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลหลิวนั้นจัดขึ้นในบ้าน บ้านไม่ใหญ่นัก แต่จัดวางโต๊ะยี่สิบกว่าตัวก็ยังนับว่ามีพื้นที่เหลือ แต่แบบนี้ก็นั่งกันจนเต็มตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนที่ทั้งสี่คนของตระกูลเหลาขับรถมาถึงคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลหลิวนั้น ตรงหน้าประตูก็มีรถแต่ละแบบจอดอยู่เต็มแล้ว
“แหวนเพชรวงใหญ่ของพี่เหยาเสินสว่างจ้าจนทำให้ตาพร่าจริงๆเลยะ”
เพิ่งจะเดินเข้ามาจากหน้าประตูก็ได้ยินเสียงของหลิวม่านเซียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ในน้ำเสียงนั้นมีความอิจฉาและโมโหอยู่ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...