“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ในตอนนั้นเองก่อนที่จะเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ส่งมาจากด้านหลังของกลุ่มชายผมแหวกกลาง และมีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน ก็มองเห็นโค่วโม่ชูกับหลินเจียอินเดินออกมา
“พี่โค่ว มีคนเดินไม่ดูตาไม้ตาเรือโง่มากทำเหล้าหกใส่รองเท้าเสี่ยวหนิง” ชายผมแหวกกลางเอ่ย
ในใจของโจวฉู่ร้อนรนมาก สีหน้าเปลี่ยนไป และไม่คิดว่าเจ้าคนกลุ่มนี้จะมาด้วยกันกับโค่วโม่ชู แน่นอนว่าเขานั้นต้องเป็นคนรวยระดับสูงในเหลยหยางแน่ๆ มีหรือเขาจะทำให้โกรธได้?
“ฟ่านหยาง ตกใจอะไรล่ะ? รีบมาขอโทษ?ที่สาวคนนี้เลยนะ!”โจวฉู่รีบขมวดคิ้วเป็นสัญญาณเรียกให้ฟ่านหยาง
“ฉันพูดเมื่อกี้แกหูหนวกหรือไงรีบมาเลียให้สะอาดเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มผมแหวกกลางเอ่ยอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะสแกนไปที่ผู้คนรอบๆ
“เจ้าหรอ?โลกมันช่างแคบจริงๆ”
แสงไฟหรี่ลง ในตอนนี้หลินเจียอินได้สังเกตเห็นเซียวชุ่นนั่งอยู่ ก่อนที่เธอจะเอ่ยยิ้มอย่างเยือกเย็น
“คุณหลินคนสวยรู้จักด้วยหรอ?”โค่วโม่ชูเอ่ยถาม
“เขาคือคนที่ตีฉันในตอนเช้า เหมือนว่าจะเป็นสามีของประธานเหยา เจ้าของบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์” หลินเจียอินเอ่ยเบาๆใน
ตอนที่เธอลาออกนั้นเธอได้ศึกษาประวัติของเซียวชุ่นมาหน่อยๆ
“บังเอิญจังเลย มองดูแล้วไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้แล้วสิ วันนี้ก็จะสามารถที่จะช่วยนางฟ้าหลินล้างแค้นได้แล้วน่ะสิ ” โค่วโม่ชูเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“ไปเรียกตัวเจ้าของร้านของที่นี่ออกมา เก็บให้หมด นอกจากโต๊ะนี้ ส่วนคนทั้งหมดที่เหลือไสหัวไปสะ!”
โค่วโม่ชูหันไปพยักหน้าใส่พวกชายหนุ่มผมแสกกลาง
ส่วนผู้คนที่นั่งๆข้างในตอนนี้นี้ต่างก็ตกใจจนหนีออกไป ก่อนที่จะพูดออกมาอย่า
น่าเกรงขามและไม่สนใจใคร
“ตอนนี้ผมให้โอกาสพวกคุณโทรศัพท์เรียกคนมาช่วยสะ จะมาดูว่าพวกคุณจะสามารถที่จะหาคนที่โค่วโม่ชูอย่างผมจะไว้หน้าได้หรือเปล่า”
ตอนนี้โจวฉู่รู้สึกปวดหัวหนักเข้าไปใหญ่
ในตอนนี้ราวกับว่าได้เป็นการแสดงความเกลียดแค้นระหว่างพวกเขาโค่วโม่ชูกับเซียวชุ่นแทน
เหยาเสี่ยวหยูและสาวคนอื่นๆต่างก็ตกใจตนพูดไม่ออก และไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร ดังที่โจวฉู่เอ่ย นี่เป็นคนถึงที่ร่ำรวยติดอันดับในเมืองเหลยหยาง แม้แต่ความสัมพันธ์แบบพวกเธอยังแทบไม่สามารถที่จะพูดคุยกับเขาได้
หลังจากนั้น ภายในคลับก็เริ่มถูกกวาดเก็บ
โจวฉู่เริ่มรู้สึกประหม่า ก่อนที่จะเดินออกมาจากที่นั่งและเอ่ยขึ้น “คุณมองดูแล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม งั้นผมสามารถเดินออกไปจากที่นี่ได้ไหม?”
ส่วนถังเฟยเฟยที่ตกใจไป ก่อนที่จะวิ่งเข้ามาและร้องไห้ขอเว้าวอน “ใช่ใช่ใช่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ส่วนเรื่องรองเท้าของสาวสวยผู้นั้นฟ่านหยางเป็นคนทำ ท่านโค่วมีความแค้นกับคนผู้นั้น ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจริงๆ อีกทั้งพวกเรายังเจอเขาวันนี้เป็นครั้งแรก จริงๆนะ”
โค่วโม่ชูมองสแกนไปที่พวกเราด้วย สายตา ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม “ได้ ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับเขาสักนิดหน่อย ไม่มีอะไรกับพวกเจ้าสองคน ไปยืนอีกด้านนึงก่อนไป”
เมื่อโค่วโม่ชูเอ่ยออกไปดังนี้ โจวฉู่และคนอื่นๆก็รีบสลายตัว และอดมาได้ที่จะอยากเผชิญกับเซียวชุ่น ส่วนฟ่านหยางก็ค่อยๆถอยตัวห่างออกมา และเดินออกจากเก้าอี้ไปอย่างเงียบๆ ไปยืนอยู่อีกฝั่ง
จะมีเพียงแต่โอหยางเชียนเชียนที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน
“เชียนเชียน คุณบ้าไปแล้วหรอ?ออกมาที่นี่!” เหยาเสี่ยวหยูเอ่ยเบาๆอย่างขมวดคิ้ว
โอหยางเชียนเชียนที่ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียง ก่อนที่จะเล่นแก้วเหล้าในมือ แล้วมองไปทางเซียวชุ่น
เหมาะกับพอดีที่ เซียวชุ่นนั้นก็หันมามองเธอพอดี ก่อนจะเอ่ยภายในใจ ผู้หญิงคนนี้แลมีอะไรจริงๆ
แต่ว่าฟ่านหยางในเวลานี้ ได้หลบหนีราวกับสุนัขตัวหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขอร้อง “โม่ชู ผมเลีย ผมเลีย เพียงแค่คุณไว้ชีวิตผม ให้ผมทำอะไรผมก็ทำ”
ก่อนที่หญิงสาวผมแดงจะหยิบขวดเหล้า แล้วทุบไปที่หัวของเขา
“สายไปแล้ว!”
“เพื่อนของเจ้าไม่ค่อยทนมือทนตีนเลยนะ นอนสลบเหมือนจะตายไปแล้ว เลยไม่มีวิธีที่จะเลียรองเท้าให้เสี่ยวหนิง งั้นเจ้ามาเลียแทนเพื่อนของเข้าเถอะ!” ชายหน้ายาวยิ้มอย่างชั่วร้ายและอวดดี
เขานั้นใช้มือหนึ่งจับผมของโอหยางเชียนเชียน ส่วนอีกมือจับไปที่คอขาวสวยราวกับหยกสีขาวของเธอ และพยายามลากเธอออกมาจากเก้าอี้นั่น แล้วลากไปทางห้องน้ำ
โอหยางเชียนเชียนที่มีร่างกายที่เล็ก จะมีแรงที่ไหนไปสู้ ก่อนที่จะรีบดิ้นสู้และเอ่ย “ปล่อยข้านะ!ปล่อยข้านะ!”
ทันใดนั้นเซียวชุ่นก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะเข้าไปบีบที่ใบหน้าของชายหน้ายาวที่กำลังจับโอหยางเชียนเชียน
ได้ยินเพียงแค่“เปรี๊ยะ” เสียงกระดูกที่ราวกับแตกหักร้าว
ชายหน้ายาวได้เปลี่ยนสีหน้าไป ราวกับว่าใบหน้าได้บิดเบี้ยวไปหมด ก่อนที่จะรีบเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด “มือของข้า!”
ก่อนที่จะเห็นเขานั้นใช้มือกุมแขนตัวเอง กัดฟันและใบหน้ารีบหลบไปอีกทาง ก่อนที่จะร้องออกมาอย่างโหยหวน
ก่อนที่เซียวชุ่นนั้นจะช่วยพยุงโอหยางเชียนเชียนให้ลุกขึ้นมาด้านหลังของเขา ก่อนที่สายตาของเขานั้นจะจ้องมองไปที่โค่โม่วชู
“รนหาที่ตายล่ะก็ วันนี้ข้าจะทำให้สมใจปรารถนาของพวกเจ้าเลย”
เซียวชุ่นได้ใช้ฝีมืออย่างรวดเร็ว แม้แต่โค่วโม่ชูยังไม่รู้ตัวเลยว่าเขานั้นได้ลงมือตอนไหน เพียงได้แค่ทำสีหน้าตกตะลึง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไป
“มองไม่ออกนะ เป็นแค่ครูฝึก สงสัยจะมองผิดไปหน่อย” โค่โม่วชูเอ่ยยิ้มอย่างน่ากลัว
ในที่สุดเซียวชุ่นก็ได้ทำให้เขานั้นโกรธจัด
โดยที่เขานั้นคือลูกชายของโค่วเชิ้งจิง บริษัทจินหลิงกรุ๊ปที่ผลิตนักบู๊ เขานั้นไม่เคยเจอนักบู๊ระดับสูงเลย แต่มองดูเซียวชุ่นแล้วไม่น่าจะใช่เลย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด
โจวฉู่และคนอื่นๆต่างก็ตะลึง โดยเฉพาะเหยาเสี่ยวหยู
ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเซียวชุ่นคนนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างไงอย่างงั้น ไม่ได้มีสัญลักษณ์แห่งความอ่อนแออีก? ตอนนี้ราวกับเป็นสัตว์ประหลาดที่โกรธจัด สายตาที่มีแต่ความอาฆาต อีกทั้งร่างกายที่แผ่รัศมีแห่งความกระหายในความอาฆาตออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...